28 ต.ค. เวลา 07:50 • ปรัชญา

นิพพุตสูตร (ชานุสโสณีพราหมณ์)

[๔๙๕] ครั้งนั้นแล ชานุสโสณีพราหมณ์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถึงที่ประทับ ฯลฯ ครั้นแล้วได้ทูลถามว่า
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
พระองค์ย่อมตรัสว่า นิพพานอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง, นิพพานอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ดังนี้
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ
ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอแล นิพพานจึงเป็นคุณชาติอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง, ไม่ประกอบด้วยกาล, ควรเรียกให้มาดู, ควรน้อมเข้ามา, อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ดูกรพราหมณ์ บุคคลผู้กำหนัด, อันราคะครอบงำ, มีจิตอันราคะกลุ้มรุมแล้ว
ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง, ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนคนอื่นบ้าง, ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่ายบ้าง, ย่อมเสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไปทางจิตบ้าง
เมื่อละราคะได้เด็ดขาดแล้ว ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเอง, ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนคนอื่น, ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่าย, ย่อมไม่เสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไปทางจิต
ดูกรพราหมณ์
แม้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล นิพพานย่อมเป็นคุณชาติอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง
ดูกรพราหมณ์
บุคคลผู้โกรธ ฯลฯ
ดูกรพราหมณ์
บุคคลผู้หลง, อันโมหะครอบงำ, มีจิตอันโมหะกลุ้มรุมแล้ว
ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง, ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนคนอื่นบ้าง, ย่อมคิดเพื่อเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่ายบ้าง
ย่อมเสวยทุกขโทมนัสที่เป็นไปทางจิตบ้าง
เมื่อละโมหะได้เด็ดขาดแล้ว ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเอง, ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนคนอื่น, ย่อมไม่คิดแม้เพื่อจะเบียดเบียนตนเองและคนอื่นทั้งสองฝ่าย
ย่อมไม่เสวยทุกขโทมนัสที่เป็นไปทางจิต
ดูกรพราหมณ์
แม้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล นิพพานย่อมเป็นคุณชาติอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง
ดูกรพราหมณ์
ในเมื่อบุคคลนี้
-เสวยธรรมเป็นที่สิ้นราคะอันไม่มีส่วนเหลือ,
-เสวยธรรมเป็นที่สิ้นโทสะอันไม่มีส่วนเหลือ,
-เสวยธรรมเป็นที่สิ้นโมหะอันไม่มีส่วนเหลือ
นิพพานย่อมเป็นคุณชาติอันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง, ไม่ประกอบด้วยกาล, ควรเรียกให้มาดู, ควรน้อมเข้ามา, อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน ดังได้กล่าวมาแล้วแล ฯ
ชานุสโสณีพราหมณ์นั้นกราบทูลว่า
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก
พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ, เปิดของที่ปิด, บอกทางแก่ผู้หลงทาง, หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยหวังว่าคนมีจักษุจักเห็นรูป ฉะนั้น
ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์นี้ [พร้อมด้วยบุตร, ภริยา,บริษัท,และอำมาตย์]
ขอถึงพระองค์กับทั้งพระธรรม และพระภิกษุสงฆ์เป็นสรณะ
ขอท่านพระโคดมโปรดทรงจำข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป ฯ
อ้างอิง
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
นิพพุตสูตร
โฆษณา