28 ต.ค. เวลา 09:10 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เช็กเงื่อนไขใหม่กองทุน Thai ESG วางแผนภาษีการลงทุนยั่งยืน

อุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกำลังก่อให้เกิดความแปรปรวนทางสภาพอากาศ และส่งผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม การดำเนินการด้านความยั่งยืนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป้าหมายของ Net Zero ภายในปี 2050 จึงเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับรัฐบาลไทยที่พยายามสนับสนุนเรื่องนี้ผ่าน ‘กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน’ (Thailand ESG Fund) หรือกองทุน Thai ESG
กองทุนดังกล่าวเกิดขึ้นจากแนวคิดที่รัฐบาลต้องการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวคิดด้านความยั่งยืนใน 3 หมวดสำคัญ นั่นก็คือ ESG (Environment, Social และ Governance) คณะรัฐมนตรีจึงมีมติอนุมัติหลักการมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของไทยในช่วง 10 ปีภาษี หรือตั้งแต่ พ.ศ. 2566 – 2575 ด้วยการจัดตั้งกองทุน Thai ESG เพื่อส่งเสริมธุรกิจที่มีการดำเนินการ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการด้านความยั่งยืน โดยใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นแรงจูงใจ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการปรับปรุงหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของกองทุน Thai ESG เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุน และสนับสนุนการลงทุนระยะยาวในตลาดทุนไทย โดยเงื่อนไขใหม่ของกองทุน Thai ESG คือการขยายวงเงินให้สิทธิลดหย่อนภาษี จากเดิม 100,000 บาท ปรับใหม่เป็น 300,000 บาท และลดระยะเวลาถือครองหน่วยลงทุนจาก 8 ปี เหลือ 5 ปี โดยเป็นการนับแบบวันชนวัน สำหรับการซื้อหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569
กองทุน Thai ESG ไม่มีขั้นต่ำในการลงทุน และไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี โดยนักลงทุนสามารถนำค่าซื้อหน่วยลงทุนไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้ และเงินจำนวนนี้ก็ไม่ต้องนับรวมกับวงเงินกลุ่มเกษียณอื่น ๆ ที่รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
กองทุนนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีเป้าหมายลงทุนในระยะยาว และสามารถถือครองหน่วยลงทุนอย่างน้อยเป็นเวลา 5 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่ต้องการวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม โดยค่าซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน Thai ESG จะสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ในปีที่ซื้อหน่วยลงทุนเท่านั้น
นอกจากธีมการลงทุนด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญแล้ว กองทุน Thai ESG ยังมีจุดเด่นคือความหลากหลายในสินทรัพย์ที่ลงทุนได้ เช่น กองทุนตราสารหนี้ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าฝากเงิน เนื่องจากยอมรับความเสี่ยงได้น้อย, กองทุนรวมผสม เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากมีการลงทุนในสินทรัพย์ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ สุดท้ายคือกองทุนรวมหุ้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงสูงได้ เนื่องจากเป็นการลงทุนในหุ้นทั้งหมด
สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวคิดและการดำเนินการด้านความยั่งยืน BBLAM ได้เปิดเสนอขาย 2 กองทุน Thai ESG ใหม่ ได้แก่ ‘กองทุนรวมบัวหลวงผสมไทยเพื่อความยั่งยืน’ (B-MIXED-THAIESG) และ ‘กองทุนรวมบัวหลวงหุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน’ (B-EQ-THAIESG) เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 24 - 30 ตุลาคม 2567 สามารถลงทุนได้ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 500 บาท
ซึ่งทั้ง 2 กองทุนเป็นกองทุนประเภท SRI Fund (Sustainable and Responsible Investing Fund) โดยกองทุน B-MIXED-THAIESG มุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ของธุรกิจที่มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน ขณะที่กองทุน B-EQ-THAIESG จะมุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ mai ที่มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ BBLAM
• โทร. 0 2674 6488 กด 8
• เว็บไซต์ BBLAM
• ลงทุนด้วยตนเองง่าย ๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ และสามารถชำระเงินลงทุนผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพได้* หรือ แอป BF Fund Trading จาก BBLAM
คำเตือน : การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน Thai ESG ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / กรณีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
 
*การชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกรุงเทพกำหนด
#BBLAM #กองทุนบัวหลวง #BFFundTrading #MobileBanking #ธนาคารกรุงเทพ #ThaiESG #ESG #ความยั่งยืน #ลดหย่อนภาษี
โฆษณา