28 ต.ค. 2024 เวลา 10:11 • ท่องเที่ยว

China 2024 .. The Poetry of Nature .. นั่งรถไฟความเร็วสูง ไปขึ้นกระเช้าสู่ อช. หวงหลง

โปรแกรมแรกของการทัวร์ China 2024 .. The Poetry of Nature จะเริ่มด้วยการไปชมธรรมชาติใน “อุทยานแห่งชาติหวงหลง” ซึ่งได้ชื่อว่า งดงามด้วยธรรมชาติของ “แอ่งน้ำหินทรายเวอร์ทีนหลากสี”
จากเฉิงตู เราต้องนั่งรถไฟความเร็วสูงสายที่จะไป “อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว” ซึ่งเพิ่งจะเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมานี่เอง ทำให้การเดินทางสะดวกและสบายมาก .. แต่ทำให้มีนักท่องเที่ยวท้องถิ่นล้นหลามมากมายเช่นกัน ซึ่งว่ากันว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในแถบนี้อาจจะมีราว 40,000-50,000 คนในแต่ละวันกันเลยทีเดียว
เมื่อสวมรองเท้าผ้าใบ กับใจถึงๆกันแล้ว เราออกไปลุยกันดีกว่านะคะ
การใช้บริการของรถไฟความเร็วสูงนั้นมีข้อที่ควรระวัง และเตรียมตัวให้พร้อมอย่างดี .. ข้อแรกคือ อย่านำเอามีดไปด้วยในขณะเดินทาง คุณอาจจะถูกริบไปอย่างน่าเสียดายมีดราคาแพง
ข้อที่ 2 หากเดินทางเป็นหมู่คณะนับยี่สิบ สามสิบคน .. การดูแลขนกระเป๋าหลายสิบใบมักจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะลำบากมากแม้จะขนเอง ไม่ต้องให้หัวหน้าทัวร์ดำเนินการให้ก็ตาม (แต่ส่วนใหญ่ลูกทัวร์จะคาดหวังว่า ทัวร์ลีดเดอร์จะดำเนินการให้) .. ด้วยเหตุที่รถไฟจะจอดรับ-ส่งแค่ไม่กี่นาที
.. ดังนั้นหากใช้บริการรถบัสส่วนตัว ควรจะส่งกระเป๋าใบใหญ่ ใบหลักไปกับรถบัสที่จะเดินทางล่วงหน้าไปก่อนเรานับสิบชั่วโมง ส่วนเราก็ควรจะแยกกระเป๋าใบเล็กนำไปใส่เสื้อผ้าและของใช้จำเป็นที่จะค้างคืนที่เฉิงตู ก่อนที่จะโดยสารรถไฟความเร็วสูงในวันรุ่งขึ้น
อากาศเย็นสบายช่วงกลางคืน ทพำให้เราตื่นเช้าด้วยความสเชื่น .. บุฟเฟ่สำหรับ Breakfast ค่อนข้างดี อาหารรสชาติอร่อยใช้ได้
สถานีรถไฟความเร็วสูงอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่เราพัก .. หลังจากตรวจพาสสปอร์ต X-ray กระเป๋าเรียบร้อย และเดินดูว่าทางลงไปสู่ชานชาลาสถานีของเราอยู่ช่องทางไหนแล้ว ก็เริ่มสอดส่ายสายตาสำรวจรอบตัวกัน
สถานีรถไฟความเร็วสูงที่นี่ไม่ใหญ่โตเท่ากับสถานีชุมทางอื่น .. แต่การจัดระเบียบยังเข้มข้นตามมาตรฐานเดียวกับสถานีอื่นๆ
ภายในสถานีรถไฟ มีร้านค้าต่างๆ เช่นร้านขาของเล่นกระเป๋า ร่านเครื่องดื่ม ..
แต่ที่สาวยสึกสะดุดตาก็ต้องสินค้าประเภทที่มีหมีแพนด้า และแพนด้าแดง .. น่ารักจนต้องสอยมาเป็นสัตว์นำโชคของทริปนี้
.. รถไฟออกตรงเวลา .. ขอเก็บภาพหัวขบวน (หัวกระสุน) เท่ห์มากๆ
ภายในขบวนรถสะอาดสะอ้าน มีหมายเลขที่นั่งที่กำหนดไว้ล่วงหน้าตอนซื้อตั๋ว
รถไฟขบวนนี้แล่นด้วยความเร็วราว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง .. ผ่านพื้นที่ป่า ภูเขา หุบเขาและชุมชน รวมถึงแล่นผ่านอุโมงค์ที่เจาะทะลุภูเขามากมาย
รถจอดแค่ 2 สถานนี้เราก็มาถึงที่เมือง “ซงพาน” อันเป็นสถานีที่เราต้องออกจากขบวนรถ เพื่อต่อรถบัสไปที่อุทยานแห่งชาติหวงหลง
ในรายทาง .. เราผ่านพื้นที่ทางธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งภูเขา แม่น้ำสีฟ้า เข้า*ออกอุโมงค์หล่ายสิยครั้ง ..
สังเกตเห็นว่าภูมิประเทศในแถบนี้ไม่แห้งแล้ง ดูอุดมสมบูรณืด้วยแม่น้ำ สังเกตจากต้นไม้ที่ขึ้นตามภูเขามีหนาแน่นพอสมควร และเริ่มจะเปลี่ยนสีแล้ว
.. ไม่นานเรามาถึงทางขึ้นกระเช้า แต่ก่อนที่จะไปเดินยาวๆบนภูเขาสูง ก็ต้องให้ท้องอิ่มเอาไว้ก่อน ด้วยอาหารเสฉวน ณ ภัตตาคารใกล้ๆทางขึ้นกระเช้านี่เอง
หลังอาหารกลางวัน พวกเราไปเข้าแถวรอขึ้นกระเช้าเวลาเริ่มต้นคือ 13:47 น. .. ผู้เขียนตั้งใจใส่เวลาของการทำกิจกรรมที่นี่ เพื่อให้รู้ว่าเราใช้เวลาในที่ต่างๆไปเท่าไหร่ เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการประเมินสำหรับท่านที่ต้องการมาเดินชมและถ่ายภาพทิวทัศน์ที่นี่
.. อย่างไรก็ตาม เวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับสภาพและความพร้อมของแต่ละคน รวมถึงเวลาที่ใช้ในการถ่ายภาพด้วย ดังนั้นเวลาที่บอกเอาไว้ในบทความนี้ จะเป็นข้อมูลส่วนตัวของผู้เขียนเองเท่านั้น
การจัดแถวเพื่อขึ้นกระเช้า เป็นทางเดินมีหลังคาคลุม ด้านหนึ่งมีลำธารที่น้ำใส หิน และต้นไม้ใหญ่น้อยจากชายป่า
.. ทิวทัศน์ที่สวยงาม ทำให้เพลิดเพลิน ไม่น่าเบื่อจากที่ต้องเข้าแถวนานๆ
เราขึ้นกระเช้าเวลา 14:24 น. รวมเป็นเวลาราวเกือบ 40 นาทีที่ต่อคิว .. กระเช้าพาเราไต่ความสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ใช้เวลาแค่ 4 นาทีก็มาถึงจุดออกจากกระเช้า
จากนั้นเราต้องเดินทางต่อด้วยรถกอล์ฟไฟฟ้า
.. ทิวทัศน์ในรายทางสวย เรามาถึงจุดที่ต้องเริ่มออกเดินเมื่อเวลา14:50 น.
“จุดชมวิวที่มีสระน้ำสีฟ้าๆ มันอยู่ตรงไหนคะ?” .. ฉันถามไกด์ ด้วยเหตุที่เมื่อมองออกไปสุดสายตาแล้วยังไม่มีวี่แววของสระน้ำสวยๆเป็นชั้นๆลดหลั่นกันลงมา เหมือนที่เคยเป็นในตรุกี
“พี่เห็นศาลาเหมือนเก๋งจีนที่อยู่ลิบๆนั้นมั๊ยครับ?” ..ไกด์ของเราตอบพร้อมกับชี้มือไปข้างหน้า
“จุดชมวิวแรก จะอยู่ใกล้ๆกับเก๋งจีนนั่นแหละครับ .. เป็นทางเดินขึ้นเนิน เดินทางเรียบนิดหน่อย แล้วขึ้นเนินต่อครับ ไปจนถึงเก๋งจีนนั่น”
“หากไปถึง และชมวิว ถ่ายภาพแล้ว .. จะต้องเลือกว่าจะเดินกลับมาขึ้นรถกอล์ฟ แล้วลงด้วยกระเช้า หรือจะเดินลงเขาโดยตลอดจนถึงลานจอดรถนะครับ”
โฆษณา