La Grande Maison Tokyo
ละครเรื่องนี้เพิ่งมาลงใน Netflix ได้ไม่นาน แม้ว่าจะถูกถ่ายทำ และฉายเป็นซีรี่ย์ในช่อง TBS ในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2019
ผมเพิ่งได้ดูละครเรื่องนี้จบเอง และคิดว่าเป็นหนึ่งในละครเกี่ยวกับการทำอาหารที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว มีความสมจริง มีการถ่ายทำที่สวยงาม อาหารดูน่ากินมากๆ
ฉากเปิดของเรื่องถ่ายทำที่ร้านจริงๆ ที่ชื่อ L'Ambroisie ของเชฟ Bernard Pacaud (เชฟ Michelin 3 ดาวมาตั้งแต่ปี 1986) ที่แทบไม่เคยเปิดให้ใครถ่ายทำหนังเลย
อาหารในเรื่องถูกดูแลโดยเชฟสามดาว Shuzo Kishida จากร้าน Quintessence ใน Shinagawa, Tokyo ส่วนร้าน gaku ในเรื่องถูกดูแลโดยเชฟ Thomas Frebel จากร้าน Inua ใน Iidabashi, Tokyo
เรื่องนี้ต้องการทำให้สมจริงมากๆ ตัวละครจึงต้องทำอาหารเอง โดยเฉพาะตัวเอกในเรื่อง Natsuki Obana ที่แสดงโดย Takuya Kimura ซึ่งทำอาหาร Echube long-armed shrimp ในเรื่อง จนหมดกุ้งไปเยอะมาก และทำอาหารได้อร่อยขึ้นมาจริงๆ
ที่ผมชอบละครเรื่องนี้ส่วนหนึ่งเพราะว่า การตามหาดาวสามดวงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย และในการตามหาดาวสามดวง หลายๆ ร้านอาหารลืมไปว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ดาวสามดวง แต่เป็นเรื่องของการทำให้ลูกค้ามีความสุขมากกว่า
แต่พอมัวแต่มุ่งความสำเร็จ หลายๆ ร้านกลับเลือกทุกวิถีทางในการทำให้ผู้ตัดสินพอใจ มีการพยายามเดา และสังเกตว่าใครเป็นผู้ตัดสิน และพยายามเอาใจใส่เป็นพิเศษ พยายามใช้วัตถุดิบแพงๆ ทำอาหารให้สวยงาม ซึ่งละครเรื่องนี้พยายามดึงว่า ความสำคัญอยู่ที่การเอาใจใส่ลูกค้า รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร
ในบริบทของร้านมิเชลิน มีงานวิจัยจำนวนมากที่พยายามศึกษาร้านเหล่านี้ และพบว่า
- ร้านที่ได้รับมิเชลิน 1 ดาวมีความสุขมากกว่าร้านที่ได้ 2/3 ดาว เพราะ การได้ 1 ดาวมันช่างแตกต่างกับร้านที่ไม่ได้ ร้านที่ได้ 2 ดาวจะไม่ happy สุด เพราะรู้สึกว่าตัวเองไปไม่ถึงที่สุด ส่วนร้าน 3 ดาวก็มีแรงกดดันในการรักษาดาวเอาไว้ให้ได้
- 40% ของร้านที่ได้ดาวระหว่างปี 2005-2014 ปิดร้านตัวเองภายในปี 2019
- ร้านมิเชลินมักจะถูกขึ้นค่าเช่า
- ร้านมิเชลินมักจะถูกกดดันให้เพิ่มต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นจานชามช้อนส้อม เครื่องครัว วัตถุดิบ และทำให้อาหารราคาสูงขึ้น แต่ลูกค้าพอใจน้อยลง
- ร้านที่ได้ดาว 3 ดวงเป็นร้านที่มีการเพิ่มของกำไรขึ้นมากกว่าร้านที่ได้ 1 หรือ 2 ดวง
- มีเชฟหลายคนเครียดและฆ่าตัวตายหลังจากเสียดาวไป
- มิเชลินไม่ค่อยได้กำไรจากการทำโครงการนี้ เพราะต้นทุนในการไปกิน และตัดสิน แพงกว่ารายได้รวมเสียอีก ยิ่งมีร้านที่ได้ดาวมากขึ้น ยิ่งเสียเงิน เพื่อกลับไปตรวจสอบมากขึ้น
- ในปี 2018 ร้านของเชฟสเปน Dani García ได้รับดาวดวงที่ 3 และประกาศปิดร้านภายในเดือนถัดมา โดยบอกว่าเขาและทีมไม่คิดว่าจะสามารถรักษามาตรฐานให้รักษาดาวสามดวงไปได้เรื่อยๆ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
