29 ต.ค. เวลา 04:31 • ท่องเที่ยว

รีสอร์ทชนบท น่ารักราวกับภาพเขียนของนิวแฮมป์เชียร์ ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีแบบพีค (Fall Foliage EP.5)

วันนี้มีโปรแกรมที่จะแวะจุดท่องเที่ยวที่สวยงามมาก สำหรับการชื่นชมบรรยากาศและถ่ายภาพ นอกจากนั้นยังมีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวกับชนพื้นเมืองที่น่าสนใจด้วย
นั่นคือ Indian Head Rock Profile ที่เราได้ทราบข้อมูลจากเอกสารการท่องเที่ยวของรัฐนิวแฮมป์เชียร์ และแผนที่ที่กำหนดไว้เป็นจุดแห่งการท่องเที่ยว
เมื่อเราเริ่มขับรถออกไปจากโรงแรม Riverwalk Loon Mountain โดยใช้ Google Map พบว่าไม่มีการระบุไว้ จึงต้องใช้แผนที่แบบอนาลอกประกอบด้วย
วิวทิวทัศน์ระหว่างทาง
โดยก่อนจะถึงนั้น ถนนและวิวทิวทัศน์เส้นนี้งดงามมาก จึงได้แวะลงไปเดินเล่นและถ่ายรูป ได้ซึมซับบรรยากาศชนบทของมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในภูมิภาคนิวอิงแลนด์อย่างดียิ่ง เพราะการขับรถเที่ยวเองแบบที่เรากำลังทำอยู่นี้ เปิดโอกาสให้เราจอดแวะตามใจชอบได้ตลอดเวลา
หลังจากชื่นชมวิวทิวทัศน์ระหว่างทางแล้ว เมื่อถึงบริเวณที่เป็น Indian Head จริงๆ เรากลับหาไม่พบ ใน Google Map เองก็ไม่บอกตำแหน่ง ต้องอาศัยแผนที่แบบอนาลอกอย่างเดียว
ขณะที่กำลังลังเลว่า จะยอมผ่านจุดนี้ไป แล้วจะมุ่งไปสู่จุดเป้าหมายถัดไปนั้นเอง
ด้วยความที่ถนนแถวนี้เป็นถนนในชนบท แม้ผิวการจราจรดีมาก แต่มีเพียงข้างละหนึ่งเลน ทำให้เราเกรงใจรถคันหลังที่ตามมามาก
จึงชะลอเข้าข้างทาง จอดตรงบริเวณไหล่ทางที่พอจอดได้อย่างปลอดภัย
ปรากฏว่าด้วยความเกรงใจนี่เอง อำนวยผล ส่งให้เราพบป้ายของ Indian Head ขึ้นมาอยู่ตรงหน้าเราเป๊ะๆ ห่างไปไม่กี่เมตรเอง โชคดีมากๆ ทำให้เราได้แวะจุดที่สวยงามมากแห่งนี้
Indian Head Rock Profile มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยก่อนที่ชาวตะวันตกผิวขาวจะเข้ามาในดินแดนของทวีปอเมริกาเหนือ
ซึ่งมีชนพื้นเมืองซึ่งคนไทยเรียกกันติดปากว่า “อินเดียแดง” อาศัยอยู่ก่อนแล้ว เป็นตำแหน่งบริเวณที่หัวหน้าเผ่าจะใช้ในการสำรวจดูชัยภูมิต่างๆ (Overlook)
ในปัจจุบันรุ่นลูกรุ่นหลาน ได้พัฒนาเป็นรีสอร์ทที่สวยงามมากในชนบทนิวอิงแลนด์
เมื่อเราขยับรถเข้าสู่ที่จอดรถของบริเวณรีสอร์ท ซึ่งกว้างขวางสะดวกสบายมาก
สายตาก็ไปประสบกับภูเขาทางด้านหน้าโรงแรมที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีแบบพีคสุดสุดทั้งภูเขา
แน่นอน เราต้องลงไปบันทึกภาพกัน มือเป็นระวิงทีเดียว
ระหว่างที่กำลังถ่ายภาพอยู่นั่นเอง เราก็พบว่าพื้นที่ทางด้านหน้าโรงแรม ห่างออกไปทางขวามือ มีจุดสวยงามที่เป็นสัญลักษณ์ของอินเดียแดงคือกระโจมและเสาสัญลักษณ์ จึงเดินเข้าไปชื่นชม
ระหว่างที่กำลังชื่นชมอยู่นั่นเอง ก็มีคนอเมริกันผิวขาวคนหนึ่ง เดินเข้ามาทักทาย พอทราบว่าเราเป็นนักท่องเที่ยว จึงเน้นจริงจัง บอกกับเราว่า อย่าลืมเดินไปอ่านป้ายโลหะสีเขียวตรงกลางทุ่งหญ้าใกล้ใกล้นั้นด้วย พร้อมกับชี้นิ้วไปสู่ตำแหน่งที่ไม่ไกลนัก
บอกว่าสำคัญนะครับ ไม่ควรพลาด น่าจะแวะเข้าไปอ่านดู เพราะเป็นจุดที่มีการบันทึกเป็นครั้งแรกของสหรัฐอเมริกาว่ามีจานบินของมนุษย์ต่างดาวหรือยูเอฟโอ (UFO) ลงจอด
อย่างนี้ไม่ได้แล้วล่ะครับ ต้องแวะไปอ่านแน่แน่เลย และได้ถ่ายรูปพร้อมข้อความมาฝากด้วย
เรื่องยูเอฟโอ จะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องแล้วแต่บุคคล แต่ขนาดทำป้ายเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ ต้องไปอ่านกันหน่อยแล้ว
หลังจากนั้น เราก็เดินไปทางด้านหลังโรงแรม ตั้งใจว่าจะไปถ่ายภาพภูเขาใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งกำลังพีคเช่นเดียวกับภูเขาด้านหน้าเช่นกัน
ปรากฏว่า นอกจากวิวใบไม้จะสวยงามมากแล้ว เราก็ต้องตื่นเต้นกับภูมิทัศน์แสนสวย ที่ทางเจ้าของโรงแรมได้ดูแลเป็นอย่างดีมาก
ทางด้านหลังนั้น จัดทำเป็นทะเลสาบเล็กๆ มีเกาะกลางทะเลสาบด้วย มีเรือที่จะนั่งไปเกาะดังกล่าว
มีทั้งกังหันน้ำ มีบ้านนก มีสวนสวยครบเครื่อง สวนดอกไม้เล็กๆตกแต่งอย่างน่ารัก บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของเป็นอย่างมาก
ระหว่างเดินสำรวจและเก็บภาพอยู่นั้น ก็สังเกตเห็นว่า โรงแรมนี้มีหอคอยส่วนตัวเป็นสีขาวสูงมากอยู่กลางโรงแรมด้วย และมีคนขึ้นไปอยู่กันหลายคน
จึงตัดสินใจว่า จะขอขึ้นไปชื่นชมทัศนียภาพมุมสูงบนหอคอยดังกล่าว โดยที่หมอติ้งขอบาย
ผู้เขียนจึงเดินไปทางด้านล่างของหอคอย พบว่าต้องหยอดเงินค่าปีนหอด้วย เป็นจำนวนเงิน 1 ยูเอสดอลล่าร์ ถูกจริงๆครับ จัดไปเลย
แล้วก็เริ่มปีนขึ้นไปทีละชั้น ชั้นหนึ่งก็จะมีบันไดประมาณ 10 ขั้น และแวะถ่ายภาพไปด้วยทุกระดับชั้นความสูง ทำให้ไม่เหนื่อยหรือเมื่อยเลย
จนเมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนสุด ก็ดีใจมากที่ตัดสินใจถูก เรียกว่าคุ้มค่ามากกับภาพวิวพาโนราม่า 360 องศา สวยงามแบบจริงจัง อากาศก็เป็นใจมาก หนาวนิดนิด ได้อารมณ์ของการท่องเที่ยวต่างประเทศจริงๆ
เก็บภาพจากบนหอคอย ทั้งภูเขาด้านหน้า ภูเขาด้านหลังของโรงแรม
มุมของทะเลสาบ
มุมของบ้านหน้าภูเขา
มุมบ้านหลังน้อยๆ
เป็นโชคดีมากจริงๆ ที่เราไม่ได้พลาดเลยจุดนี้ไป ทั้งนี้มาจากความเกรงใจรถคันหลังแท้แท้เลยครับ
โฆษณา