29 ต.ค. เวลา 09:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

ดาวเคราะห์หินใน TRAPPIST-1 อาจมีชั้นบรรยากาศที่เสถียรซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต

นับตั้งแต่การปล่อยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ของ NASA เมื่อปลายปี 2021 ได้ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่เราอาจตรวจพบสัญญาณของสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ (exoplanets) หรือ ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะของเรา
ดาวเคราะห์ที่มีโอกาสในการค้นหาครั้งนี้ คือ ดาวเคราะห์หินมากกว่าดาวเคราะห์ก๊าซที่โคจรรอบดาวฤกษ์มวลน้อยที่เรียกว่า ดาวฤกษ์แคระ M (M-dwarfs) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่พบได้มากที่สุดในจักรวาล
*ดาวฤกษ์แคระ M (M-dwarfs) มีขนาดมวบเล็กกว่าและพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาน้อยกว่า ดวงอาทิตย์*
ดาวฤกษ์แคระ M ที่อยู่ใจกลางระบบ คือ TRAPPIST-1 ซึ่งเป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 40 ปีแสง โดยมีระบบดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์อื่นนอกเหนือจากดวงอาทิตย์คอยตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์อื่น
งานวิจัยก่อนหน้านี้ ตั้งคำถามถึงความสามารถในการอยู่อาศัยของดาวเคราะห์ที่โคจรรอบ TRAPPIST-1 โดยพบว่า รังสี UV ที่รุนแรงจะเผาผลาญน้ำบนพื้นผิวของดาวเคราะห์จนหมด ซึ่งจะทำให้พื้นผิวของดาวเคราะห์แห้ง และหากเพียงแต่ไฮโดรเจนในโมเลกุลไอน้ำหลุดรอดออกไป ก็อาจทำให้มีออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยาได้ในปริมาณมหาศาลมายับยั้งปฏิกิริยาเคมีของต้นกำเนิดสิ่งมีชีวิต
การศึกษาใหม่นี้ได้จำลองดาวเคราะห์หินโดยผ่านกระบวนการหลอมเหลวและเย็นตัวลงเป็นเวลาหลายร้อยล้านปีจนกลายเป็นดาวเคราะห์หินแข็ง ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าไฮโดรเจนหรือก๊าซเบาชนิดอื่นหลุดออกไปในอวกาศก่อน
แต่สำหรับดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างจากดาวฤกษ์มากขึ้น ซึ่งมีอุณหภูมิปานกลาง ไฮโดรเจนยังทำปฏิกิริยากับออกซิเจนและเหล็กภายในดาวเคราะห์ด้วย ทำให้เกิดน้ำและก๊าซชนิดอื่นที่มีน้ำหนักมากกว่า ทำให้เกิดชั้นบรรยากาศที่ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า มีเสถียรภาพในระยะยาว ผลลัพธ์ยังแสดงให้เห็นอีกว่า สำหรับดาวเคราะห์ที่อยู่ใน "โซนโกลดิล็อกส์ (Goldilocks zone)" เหล่านี้ น้ำฝนจะตกลงมาจากชั้นบรรยากาศค่อนข้างเร็ว ทำให้มีโอกาสที่น้ำจะไหลออกน้อยลง
*Goldilocks zone เป็นอีกชื่อหนึ่งเกี่ยวกับ เขตที่อยู่อาศัยได้ (habitable zone)*
แปลและเรียบเรียงโดย
One To Many - A Brief Science
แหล่งอ้างอิง
[1] Rocky planets orbiting small stars could have stable atmospheres needed to support life
[2] The erosion of large primary atmospheres typically leaves behind substantial secondary atmospheres on temperate rocky planets
โฆษณา