หลายคนรู้ว่าการดื่มดีมีประโยชน์ แต่หลังๆมานี้ กลับมีกระแสว่า นมเพิ่มคลอเลสเตรอล เสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด เชื่อมโยงโรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ ทำให้หลายคนเกิดความสับสน
นมทำให้คลอเลสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้น?
ในนม 200 กรัม มีคลอเลสเตอรอล 12 มก. ดังนั้นคลอเลสเตอรอล จะไม่เพิ่มขึ้นถ้าไม่ได้ดื่มนมมากเกินไป จาการวิจัยและทดลองทางวิทยาศาสตร์ พบว่า การดื่มนมทุกวันในปริมาณน้อยกว่า 2-3 ลิตร ไม่ทำให้ไขมันเลว (Low density lipoprotein หรือ LDL) เพิ่มขึ้น เนื่องจากไขมันในนมส่วนใหญ่เป็นไขมันอิ่มตัว ถ้าได้รับมากเกินไป จะทำให้ LDL ในเลือดเพิ่มขึ้นได้
นมเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีที่สุด?
นมประกอบด้วยสารอาหารมากมาย เช่นโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และ แคลเซียม ซึ่งเป็นแคลเซียมที่มีโครงสร้างทำให้ร่างกายดูดซึมได้ง่าย นม 1 แก้วมีปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน 30% ที่ช่วยเรื่องกระดูกกล้ามเนื้อและเส้นประสาท แต่ไม่ได้หมายความว่า ยิ่งดื่มนม กระดูกยิ่งแข็งแรง เพราะมีผลการศึกษาของ BMJ ที่ตีพิมพ์ในปีพุทธศักราช 2558 พบว่า ผู้ใหญ่วัยกลางคน ที่ได้รับแคลเซียมในระดับสูงในอาหาร มีแนวโน้มที่จะกระดูกได้พอๆกับผู้ที่ทานแคลเซียมน้อย
นมกับโรคมะเร็ง?
กับกระแสที่ว่า นมทำให้เกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งมีงานวิจัยชิ้นนึง พบว่าผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก มีความสัมพันธ์กับการดื่มนม โดยนักวิจัยพบว่า กลุ่มผู้ป่วยมะเร็งมีการกินอาหารที่มีไขมันในปริมาณสูง รวมถึงผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์อื่นๆที่ติดมัน
นมกับการแพ้?
จากกระแสที่ว่านมทำให้เกิดการแพ้ แต่อาการแพ้นม เกิดจากอาการแพ้น้ำตาลแลคโตสที่อยู่ในนม 80% ของคนเอเชียขาดเอนไซม์แลคโตสที่จะช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตส เมื่อดื่มนมเข้าไปจะเกิดการสร้างกรดและแก๊ส ทำให้เกิดอาการปวดท้องเสียดท้อง แน่นท้อง ท้องเสียหลังจากดื่มนม ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับโรคภูมิแพ้
นมมีไขมันอิ่มตัวสูง สมาคมโรคหัวแห่งสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำว่า ควรรับประทานไขมันอิ่มตัวเพียง 5-6% จากปริมาณแคลลอรี่รวมที่ร่างกายต้องการได้รับต่อวัน
เอินเวย์เน้นการป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดจากต้นเหตุ คัดเลือกต้นตำรับยาล้างหลอดเลือด ซึ่งมีประวัติการใช้ในวงการแพทย์จีนมากว่า 400 ปี ดูแลสุขภาพหลอดเลือดคนไทยมากว่า 18 ปี เน้นการลดระดับคลอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ลด Low density lipoprotein (LDL) และเพิ่ม High density liproprotein (HDL) สลายภาวะเลือดหนืด เลือดข้น เลือดคั่ง ยับยั้งการก่อตัวของลิ่มเลือด ปรับปรุงประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดการรวมตัวของก้อนไขมันในชั้นกล้ามเนื้อในผนังหลอดเลือด ลดการแข็งตัวและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด หลอดเลือดทั่วร่างกายจึงโล่งสะอาด ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ