30 ต.ค. 2024 เวลา 04:42 • ความคิดเห็น
หากเป็นสมัยที่เรายังสาวสวยสะพรั่ง ยังหลงระเริงกับความสดงดงามของตัวเอง เรามักจะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ในการ judge หนุ่มๆ หรือทอมๆ ที่เข้ามาในวงโคจร หากมีคนมองเราแบบไม่ละสายตา พยายามเข้ามาพูดคุยหรือจีบ เราจะ judge ว่าคนพวกนี้ "ชอบเรา" จากนั้นเราจะกรองเฉพาะ ที่ "เราชอบ" จนกระทั่งเหลือ the one และเมื่อต่างชอบพอกัน มันจะเข้าสู่โหมด "ต่างหลงใหลในกันและกัน"
และไอ้เจ้าโหมด "ต่างหลงใหลในกันและกัน" นี่แหละ เป็นโหมดที่ในชีวิตเราไม่เคยจะสามารถแยกแยะมันได้เลย ว่าอย่างนี้คือรัก หรืออย่างนี้คือหลง เพราะเมื่อฝ่ายที่หลงใหลเรา ป้อนให้เราไม่หยุด มันก็เลยมีแต่ความรู้สึกอิ่มเอม มีพลังในการใช้ชีวิต ความรู้สึกทุกสัมผัส จึงบอกเราว่านี่แหละคือ "ความรัก" จนเมื่อมันถึงจุดที่เกิดปัญหาความสัมพันธ์ ทำให้ต้องเลิกราแยกจาก เราเองก็ไม่พ้นจะเพ่งโทษอดีตคนรักว่า "เขาไม่ได้รักเราเลย เขาแค่หลงเราต่างหาก"
2
เมื่อมาถึงในวัยนี้ ประสบการณ์ชีวิตรักทำให้เเรามองว่า ความรู้สึกทั้ง 3 อย่าง มันยึดโยงสืบเนื่อง ร้อยรัดกัน ไม่สามารถแยกแยะให้เด็ดขาดลงไปได้ มันมีอยู่ในคนทุกคน และในทุกความสัมพันธ์ มันไม่อาจขาดอย่างใดอย่างหนึ่งได้ แต่มันก็มีปัจจัยเรื่อง "กาม" ที่เป็นตัวบอกว่า ความหลงใหลผ่านกายเนื้อ จะสามารถพัฒนาไปสู่ "ความรักที่แท้จริง" ได้หรือไม่
2
เราชอบประโยคที่คุณแม่ของตั๊กบงกช
.........สอนนางว่า.......
ผู้ชายทุกคนอยากเป็นคนแรกของผู้หญิง
แต่ผู้หญิงทุกคนอยากเป็นคนสุดท้ายของผู้ชาย
และถ้าผู้ชายคนไหนเลือกคุณเป็นคนสุดท้าย
นั่นแหละ เขาเรียกว่าความรัก
2
โฆษณา