30 ต.ค. เวลา 10:45 • ท่องเที่ยว

Artist Bluff หนึ่งในจุดชมวิวสวยที่สุดที่มีการบันทึกภาพ ของรัฐ New Hampshire (Fall foliage EP.6)

วันนี้ 9 ตุลาคม 2567 หลังจากแวะ Indian Head ด้วยความประทับใจแล้ว
Indian Head
เราก็เดินทางต่อด้วยเส้นทางหลวงระหว่างรัฐ I-93 ออกที่ Ext.34C แล้วต่อด้วยทางหลวง NH-18 มุ่งหน้า Cannon Mountain
Artist Bluff เป็นจุดเป้าหมายที่เราจะแวะไปชมวิวทิวทัศน์และถ่ายภาพ เนื่องจากเป็นจุดยอดนิยมในฤดูใบไม้ร่วง อยู่ใน Franconia Notch State Park
Artist Bluff
ข้อมูลเบื้องต้นของ Artist Bluff คือ
• อยู่ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 715 เมตร หรือ 2347 ฟุต
• ระดับความยากในการเดินขึ้นสู่จุดชมวิว อยู่ในระดับง่ายถึงปานกลาง
• ด้วยระยะทาง 2.4 กิโลเมตร หรือ 1.5 ไมล์
• ใช้เวลาในการเดินทางท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
เราเริ่มต้นด้วยการใช้ Google Maps ที่พาเรามายังที่จอดรถขนาดใหญ่ ซึ่งมาทราบภายหลังว่า ถ้าเราตั้งจุดหมายโดยระบุชื่อเป็นการเฉพาะว่า Cannon Mountain RV PARK จะทำให้อยู่ใกล้กับจุดชมวิวมากขึ้น โดยเราจะสามารถลดระยะเวลาการเดินป่าลงได้ราวครึ่งหนึ่ง
วันที่เราเดินทางไปเที่ยวนั้น ตรงกับพีคหรือสีสันสวยงามที่สุดในรอบปี ทำให้เราตื่นเต้นกับการที่จะได้เห็นภาพจากจุดชมวิวบนยอดเขา
พีคใบไม้เปลี่ยนสี
จากที่จอดรถ การเดินป่า (Trail)ในช่วงแรกน่าจะเป็นการเอาใจนักท่องเที่ยวคือ แม้ทางเดินจะไม่เรียบ มีรากไม้ขรุขระเป็นระยะ แต่ก็เป็นการเดินในแนวราบทั้งหมด ทำให้ไม่เหนื่อย
แต่เราก็สังเกตว่า ในระหว่างเดินแนวราบดังกล่าวข้างทางต้น บางช่วงที่ต้นไม้ไม่หนาแน่นนัก เราก็พอจะมองลอดออกไปเห็นถนนที่มีรถสัญจรวิ่งไปมาอยู่
ช่องทางที่ติดต่อกับที่จอดรถ
และพอเดินไปได้พอสมควร ก็จะพบช่องทางเล็กๆ ที่สามารถเดินเชื่อมระหว่างถนนกับทางเดินป่าได้ด้วย และมองเห็นลานจอดรถขนาดย่อมด้วย
เราก็เลยคิดว่า ถ้าอย่างนั้น ตอนขากลับเราน่าจะหาทางออกจากตรงจุดดังกล่าว เพื่อเดินไปตามริมถนน ซึ่งจะง่ายกว่าเดิมในป่ามากทีเดียว
บรรยากาศของการเดินในช่วงแรก
บรรยากาศในการเดินป่าถือว่าดีมาก มีต้นไม้ขนาดใหญ่หนาแน่น ไม่มีแดดส่องมาทำให้ร้อนหรือเหงื่อออก ใบไม้เปลี่ยนสีในโทนเขียว-เหลือง-แดง งดงามมาก
ทางเดินช่วงแรก มีรากไม้เยอะหน่อย
การเดินป่าในช่วงแรกแม้ไม่ยากลำบาก แต่ก็ต้องระวังพื้น ที่ไม่เรียบ เนื่องจากมีรากไม้เป็นจำนวนมาก
ในการเดินช่วงที่สอง พื้นจะเปลี่ยนจากดินปนรากไม้ เป็นหินและมีความขรุขระมากขึ้น โดยเริ่มจะมีความชันที่ชัดเจน ทำให้ผู้ที่ร่างกายไม่ฟิตอาจจะต้องมีการพักบ้าง แต่ถ้าเป็นคนหนุ่มสาวที่สุขภาพดี จะสามารถเดินรวดเดียวถึงจุดชมวิวข้างบนได้
ทิวทัศน์บนยอดเขา
เมื่อถึงยอดเขาแล้ว ต้องบอกว่าภาพวิวทิวทัศน์บนนั้น สวยบาดตาบาดใจมาก ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งกันเลยทีเดียว
จะเป็นวิวพาโนราม่า เบื้องหน้าจะเป็นทะเลสาบที่เรียกว่า Echo Lake โดยทางด้านซ้ายมือจะเป็นถนนมีความโค้งเข้ากับทะเลสาบ และขวามือจะเป็นเนินเขาที่มีต้นไม้เปลี่ยนสีเป็นจำนวนมาก และเป็นที่เล่นสกีในฤดูหนาว
เราขึ้นมาก็พบกับน้องท่องเที่ยวในจำนวนปานกลาง เพราะเป็นวันทำงาน ทราบว่าถ้าเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คนจะหนาแน่นแบบตลาดนัดเลยทีเดียว
การชมวิวตรงจุดสุดยอดนี้ แนะนำว่าจะมีก้อนหินขนาดใหญ่มากแต่ไม่สูงนักอยู่บริเวณจุดชมวิว ควรจะได้ขึ้นไปยืนชมตรงจุดนี้จะงดงามมากยิ่งขึ้น
และควรจะขยับเดินไปชมวิวตรงอีกจุดหนึ่งทางด้านซ้ายมือ ซึ่งถ้าไม่สังเกตให้ดี จะไม่ทราบว่ามีจุดชมวิวอีกจุดหนึ่ง
จุดนี้จะสวยงามมากเช่นกัน และคนน้อยกว่า หลายคนไม่ทราบว่ามีจุดชมวิวอยู่เพิ่มเติม ก็พลาดไป
หลังจากนั้น เราก็นั่งชื่นชมวิวทิวทัศน์ ซึ่งก็โชคดีหลายอย่างในวันนี้คือ นักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากนัก แดดดี เมฆน้อย ไม่มีฝน และสีสันของใบไม้สวยงามที่สุดในรอบปีหรือคือพีคนั่นเอง
เรานั่งจิบน้ำ-กาแฟ และทานขนมที่เตรียมขึ้นไปเล็กๆน้อยๆ ด้วยบรรยากาศสบายสบาย อากาศเย็นดีมากระดับ 10-15 องศา
ไม่รีบร้อน ใช้เวลาแบบสโลว์ไลฟ์ (Slow life) คือเน้นเรื่องคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณจุดท่องเที่ยว
ซึ่งจะทำให้เราสามารถจดจำความรู้สึกและภาพแสนสวยของจุดนั้นนั้นได้ โดยที่ไม่ต้องมานั่งดูรูปภาพเพื่อจะเตือนความทรงจำ แบบในกรณีการเที่ยวเร่งรีบเน้นปริมาณมากจุดที่สุด
ที่อาจทำให้หลายคนเมื่อกลับมาแล้ว ก็จะนึกไม่ออก ตลอดจนสับสนว่า ไปเที่ยวตรงไหน ชื่ออะไรบ้าง บางท่านถึงขนาดต้องเอาโปรแกรมและรูปภาพมาดูประกอบ จึงพอจะนึกออก
ในการเดินทางกลับหรือขาลง เราได้ทำตามแผนที่คิดไว้คือ เมื่อเดินลงมาได้ประมาณครึ่งทาง เราก็ออกช่องทางเล็กที่เล็งเอาไว้แล้ว
ทางเดินกลับที่จอดรถ
ทำให้สามารถเดินออกมาที่ไหล่ทางบนถนน ซึ่งเดินได้สะดวกสบายมากขึ้น แทนที่จะต้องเดินอยู่บนพื้นทางเดินป่าที่ขรุขระเต็มไปด้วยรากไม้
ในที่สุดเราก็เดินกลับมาถึงลานจอดรถ แบบประหยัดแรง ประหยัดเวลาไปได้มากพอสมควร
ทิวทัศน์บริเวณที่จอดรถ
วิวและสีสันของใบไม้บริเวณที่จอดรถก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากเช่นกัน
โฆษณา