31 ต.ค. เวลา 02:25 • นิยาย เรื่องสั้น

นักษัตรไทย ได้แต่ใดมา ? แล้วทำไมหนูมาก่อน

คติเรื่อง 12 นักษัตรเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาที่มีมาแต่โบราณกาล เรียกได้ว่าเก่าแก่ระดับดึกดำบรรพ์ กระทั่งการค้นหาที่มาต้นตอการใช้สัตว์เป็นชื่อปี นักวิชาการส่วนใหญ่ถึงกับบอกว่าสืบค้นหา หลักฐานยาก ทำได้เพียงปะติดปะต่อเค้าโครงพอบอกเล่าเท่านั้น
ราชบัณฑิตยสภาบรรยายความหมายของคำว่า “นักษัตร” ตรงกับคำอธิบายของส. พลายน้อย ว่าหมายถึง “ชื่อรอบเวลากำหนด 12 ปี เป็น 1 รอบ เรียกว่า 12 นักษัตร” โดยให้สัตว์ 12 ชนิดเป็นเครื่องหมาย เริ่มจากปีชวด-หนู, ปีฉลู-วัว, ปีขาล-เสือ, ปีเถาะ-กระต่าย, ปีมะโรง-งูใหญ่, ปีมะเส็ง-งูเล็ก, ปีมะเมีย-ม้า, ปีมะแม-แพะ, ปีวอก-ลิง, ปีระกา-ไก่, ปีจอ-หมา, ปีกุน มีหมูเป็นเครื่องหมาย
ส. พลายน้อย บรรยายว่า 12 นักษัตรมีในกลุ่มเอเชียเท่านั้น ประเทศที่ปรากฏความเชื่อนี้โดยมากใกล้ชิดหรือมีความสัมพันธ์กับไทย อาทิ จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลี กัมพูชา ลาว ทิเบต อาจสะท้อนได้ว่า ชนเหล่านี้มีความเป็นมาสืบเนื่องจากที่เดียวกัน
ข้อสงสัยว่าไทยรับแนวคิดเรื่อง 12 นักษัตรมาจากไหน มีหลักฐานปรากฏหลายแห่ง ตั้งแต่ตำนานการตั้งจุลศักราช กล่าวว่า “เริ่มต้นใช้จุลศักราช 1 เมื่อเช้าวันอาทิตย์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีกุนเอกศก ตรงกับพุทธศักราช 1182” ขณะที่ศิลาจารึกหลักที่ 1 ของพ่อขุนรามคำแพง กล่าวถึง “1214 ศกปีมะโรง” ส. พลายน้อย ตีความว่า พ.ศ. 1835 ไทยใช้ปีนักษัตรหรืออาจมีใช้ก่อนหน้านี้
อีกหลักฐานคือหนังสือพงศาวดารไทยใหญ่ พระนิพนธ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ตอนหนึ่งกล่าวว่า
“ในนามสัตว์ 12 นักษัตรข้างไทยสยามนั้น น่าจะเลียนนามสัตว์ประจำองค์สาขาปีมาจากเขมรอีกต่อ จึงไม่ใช้นามปีตามภาษาไทยเหมือนไทยใหญ่ กลับไปใช้ตามภาษาเขมร ฝ่ายไทยใหญ่เล่าเมื่อคำนวณกาลจักรมณฑลก็ไพล่ไปเลียนนามปีและนามองคสังหรณ์อย่างไทยลาว หาใช้นามปีของตนเองไม่ และไทยลาวน่าจะถ่ายมาจากแบบจีนอันเป็นครูเดิมอีกต่อ แต่คำจะเลือนมาอย่างไรจึงหาตรงกันแท้ไม่ เป็นแต่มีเค้ารู้ได้ว่าเลียนจีน”
แต่เรื่องเกี่ยวกับ 12 นักษัตรมีนิทานมาเล่าให้ฟังทำไมหนูถึงมาก่อนสัตว์อื่นๆ
ตำนาน 12 นักษัตร ทำไมหนูมาก่อน
คน มักสงสัยกันว่า ทำไมเจ้าหนูตัวน้อยถูกจัดอยู่ลำดับแรกของ12นักษัตร เพราะรูปร่างของเจ้าหนูเล็กที่สุดในบรรดา 12 นักษัตร ความแข็งเกร่งและกล้าหาญยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เมื่อเทียบกับวัว เสือ มังกรและม้าแล้ว ถ้าพูดถึงอุปนิสัย วัวใจเย็น กระต่ายใจดี ม้ามีความขยัน แพะมีความนุ่มนวลและหมูมีความซื่อสัตว์ ต่างดีกว่าหนูเจ้าเล่ห์หลายสิบเท่า หากพูดถึงภูมิปัญญา ลิงมีความว่องไว หมามีความชาญฉลาด ถ้าพูดถึงเล่ห์เหลี่ยม เจ้าหนูก็สู้เจ้าวัวไม่ได้ เพราะเหตุใต เจ้าหนูตัวเล็กถึงได้อยู่อันดับแรกของ 12 นักษัตรเล่า
***ตำนาน-จีน 12 นักษัตร แบบที่ 1
เป็นตำนานที่ เล่าขานกันมาช้านานตั้งแต่โบราณกาลของจีน เล่ากันว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เทพเจ้าพูดกับสัตว์ทั้งหลายว่า “ใกล้ปีใหม่แล้ว รุ่งเช้าวันชิวอิก ( คือ วันที่ 1 เดือนอ้ายตามจันทรคติของจีน) เชิญพวกเจ้ามาอวยพรปีใหม่ ข้าจะกำหนด 12 นักษัตรตามลำดับ ใครมาถึงก่อนก็เป็นอันดับที่ 1 ถึง 12 ตั้งแต่นี้ไป ในแต่ละปีก็จะมีสัตว์ 1 ตัวเป็นนักษัตร” สัตว์ทั้งหลายต่างจดจำวันดังกล่าวไว้ได้อย่างแม่นยำ มีแต่แมวขี้เกียจเท่านั้นที่จำไม่ได้จึงไปถามหนู เจ้าหนูหลอกแมวว่า “เป็นวันชิวยี่จ๊ะ ( วันที่ 2 เดือนอ้าย ) ”
ซึ่งวันส่งท้ายปีเก่ามา ถึงอย่างรวดเร็ว เจ้าวัวรู้ตัวว่าเดินช้า จึงออกเดินท่างตั้งแต่เที่ยงคืน พอเจ้าหนูเห็น ก็เลยกระโดดขึ้นหลังวัว เมื่อมาถึงเช้าวันชิวอิก วัวก็เดินทางไปถึงก่อนใครๆ และเมื่อวัวส่งเสียงเรียก เทพเจ้าก็ออกมาเปิดประตูให้ เจ้าหนูรีบกระโดดลงมาจากหลังวัวและวิ่งไปหาเทพเจ้า “เจ้าหนู ยินดีต้อนรับ เจ้ามาถึงเช้าที่สุด นักษัตรที่ 1 คือเจ้า”
ด้วยเหตุนี้ หนู (ชวด) ถึงถูกจัดให้อยู่เป็นอันดับแรกของนักษัตร วัว (ฉลู) อยู่ในอันดับ 2 แล้วตามด้วยเสือ (ขาล) กระต่าย (เถาะ) มังกร (มะโรง) งู (มะเส็ง) ม้า (มะเมีย) แพะ (มะแม) ลิง (วอก) ไก่ (ระกา) สุนัข (จอ) และหมู (กุน)
ใน วันที่ 2 เจ้าแมวจึงตามมา แต่ก็สายไปแล้ว เพราะถูกหนูหลอก จึงแค้นใจมาก นับแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อแมวเห็นหนูก็จะไล่จับทันที เทพเจ้าก็เลยสั่งให้เจ้าหนูหลบซ่อนในถ้ำหรือซอกรูเล็กๆ ตั้งแต่นั้นมา นี่เป็นตำนานเกี่ยวกับ 12 นักษัตรในจีน
***ตำนาน-จีน 12 นักษัตร แบบที่ 2
เรื่อง ของปีนักษัตร ตามตำนานจีนบอกว่าเกิดจากดำริของเง็กเซียนฮ่องเต้ ที่จะตั้งสัตว์ต่าง ๆ เป็นเจ้าของปี จึงให้สัตว์ต่าง ๆ ว่ายข้ามน้ำมารายงานตัว ใครถึงก่อนได้ปีก่อนตามลำดับตอนนั้น
หนูกับแมวเป็นเพื่อนรักกัน แต่เป็นสัตว์สองชนิดที่ว่ายน้ำได้แย่ที่สุด แต่ทั้งหนูและแมวก็มีความฉลาดทั้งคู่ เลยร่วมกันทำความตกลงกับวัว ว่าขอเกาะหลังวัวไป วัวซึ่งแข็งแรงและมีใจอารีอยู่แล้วก็ตกลง แต่พอใกล้จะถึงฝั่ง หนูกลับคิดอยากจะได้ตำแหน่งที่หนึ่งให้ได้ จึงวางแผนเตะแมวตกน้ำไป เพื่อกำจัดคู่แข่ง และเมื่อใกล้ถึงฝั่ง หนูก็รีบกระโดดจากหลังวัวขึ้นสู่ฝั่งเป็นตัวแรก จึงได้เป็นนักษัตรลำดับแรก ตามด้วยวัวซึ่งขึ้นฝั่งตามมา กลายเป็นนักษัตรที่สอง ถัดจากวัว ก็
เป็นเสือที่หอบแฮ่ก ๆ ขึ้นฝั่ง โดยอธิบายว่า ขณะข้ามน้ำมา โดนน้ำซัดปลิวไป ต้องลุยน้ำกลับมาใหม่ จึงมาถึงช้ากว่ากำหนด เสือจึงได้ตำแหน่งนักษัตรที่สาม จากนั้น กระต่ายก็ตามมาถึง โดยเล่าให้ฟังว่า ทีแรกก็กระโจนตามโขดหินมาเรื่อย ๆ แต่พอถึงกลางน้ำก็ไปต่อไม่ได้ โชคดีที่มีขอนไม้ลอยมา เลยเกาะขอนไม้เข้าสู่ฝั่งได้ กลายเป็นนักษัตรที่สี่ อันดับห้าที่มาถึงเป็นมังกร ซึ่งน่าสงสัยว่าสัตว์ที่เหินฟ้าได้อย่างมังกร ทำไมมาถึงตั้งอันดับห้า เง็กเซียนฮ่องเต้ถามแล้ว
มังกรก็ตอบว่า ตนต้องหยุดให้น้ำฝนกับชาวบ้านก่อน จึงล่าช้าไปบ้าง และเมื่อมาถึงกลางทาง ได้เห็นกระต่ายเกาะขอนไม้โดนน้ำซัดไปอีกทางหนึ่ง จึงได้ช่วยเป่าลมอยู่ข้างหลังเพื่อพากระต่ายเข้าสู่ฝั่งด้วย เง็กเซียนฮ่องเต้ได้ฟังก็ชื่นชมในน้ำใจของมังกรมาก และให้ตำแหน่งนักษัตรที่ห้าตามกติกาหลังจากนั้นก็มีเสียงม้าร้องมาแต่ไกล แต่ก่อนที่ม้าจะถึงฝั่ง ปรากฏว่ามีงูซึ่งซ่อนตัวอยู่ในกีบม้าโผล่ออกมา ทำให้ม้าตกใจเสียหลักล้มลง งูจึงขึ้นฝั่งก่อนและได้เป็น
นักษัตรที่หก ตามด้วยม้าเป็นนักษัตรที่เจ็ดไกลออกไป มีกลุ่มสัตว์สามตัวขึ้นฝั่งมาด้วยกัน คือแพะ ลิง และไก่ ทั้งสามช่วยกันข้ามน้ำมา โดยไก่เป็นคนเจอแพ แล้วพาแพะกับลิงขึ้นแพมาด้วยกัน ทั้งแพะทั้งลิงช่วยกันกวาดสาหร่ายและถ่อแพมาจนถึงฝั่ง เง็กเซียนฮ่องเต้จึงให้ตำแหน่งนักษัตรแก่สัตว์ทั้งสาม โดยให้แพะเป็นอันดับแปด ลิงเป็นอันดับเก้า และไก่เป็นอันดับสิบจากนั้นหมาก็ขึ้นฝั่งตามมา เป็นอีกครั้งที่เง็กเซียนฮ่องเต้สงสัย ว่าทำไมสัตว์ที่ว่ายน้ำเก่งอย่างหมาถึงมาถึงช้าขนาดนี้หมาตอบว่า เพราะตนมัวแต่อาบน้ำเพลินอยู่
อีกทั้งน้ำก็ใสเย็นชื่นใจเหลือเกิน ก็เลยเล่นน้ำต่อสบายใจ จนเกือบจะมาไม่ถึงฝั่งเสียแล้ว หมาก็ได้ตำแหน่งนักษัตรอันดับสิบเอ็ดไปเย็นแล้ว เง็กเซียนฮ่องเต้กำลังจะปิดรับลงทะเบียน ก็พลันได้ยินเสียงอู๊ด ๆ ของหมูที่กำลังขึ้นฝั่งมา หมูมาช้าเพราะหิวกลางทาง เลยแวะกินอาหารก่อน พอกินอิ่มก็พักงีบหลับต่ออีกต่างหาก ก่อนจะตื่นมากุลีกุจอว่ายน้ำเข้าฝั่ง หมูจึง
ได้ตำแหน่งนักษัตรอันดับสิบสอง แล้วเง็กเซียนฮ่องเต้ก็สั่งปิดพิธี เป็นอันว่าหมูคือนักษัตรอันดับสุดท้าย แมวซึ่งถูกหนูเตะตกน้ำและว่ายน้ำไม่คล่อง พยายามตะเกียกตะกายยังไงก็มาไม่ทัน จึงอดตำแหน่งปีนักษัตร จากนั้น แมวจึงผูกพยาบาทกับหนู และเกลียดน้ำตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
โฆษณา