31 ต.ค. เวลา 04:40 • ไลฟ์สไตล์

ผีมีจริงไหม??? ข้อคิดในวันฮาโลวีน

เช้าตรู่ของวันที่ 30 ที่ผ่านมาผมต้องตื่นแต่ตีห้าเพื่อเตรียมตัวให้หลานชายแต่งแฟนซีชุดผีต้อนรับวันฮาโลวีน กิจกรรมที่โรงเรียนจัดขึ้นให้เด็กๆได้สนุกสนานกันตามเทศกาล
ระหว่างรอเจ้าผีตัวน้อยแต่งหน้าแต่งตัว ผมก็หวนนึกถึงคำถามจากพ่อ หนุ่มใหญ่วัยเกษียน(มาหลายปี) ที่มักถามผมซ้ำมาซ้ำไปหลายหนว่า "คิดว่าผีมีจริงไหม"
จริงๆแล้วพ่อผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสางเทวดา ที่แกถามอาจจะเพราะอยากรู้จริงๆหรือแค่อยากลองภูมิลูกชายที่ผ่านประสบการณ์บวชมาแล้วกว่าสามโบสถ์ ทุกครั้งคำตอบของผม คือ "ถ้าเชื่อผีก็จะมี ถ้าไม่เชื่อผีก็ไม่มี "
และผมก็คิดเช่นนั่นจริงๆ มันจริงอยู่ที่ไม่มีใครผิดหรือถูกในการเชื่อว่า ผีมีจริงหรือไม่มีจริง แต่มีอยู่แนวคิดหนึ่งที่พอจะขยายความเข้าใจถึงผีและวิญญานได้บ้าง
นั่นคือแนวคิดคำสอนเรื่องขันธ์ 5 มีขันธ์อยู่ใบหนึ่งในห้าใบที่พอจะเชื่อมโยงให้เข้าใจเรื่องผีและวิญญานได้บ้าง ส่วนใบอื่นผมของวางไว้ในตุ่มไปพลางก่อน
ที่จะพูดถึงขันธ์ใบนั่นชื่อว่า วิญญานขันธ์ !! ใช่ครับชื่อตรงตามเรื่องที่เรากำลังพูดถึงกันเลย
วิญญานหรือผี ในปรัชญาคำสอนแบบพุทธนั่น เราสามารถพบได้ผ่าน ตา(เห็นรูปร่าง) หู(ได้ยิน คำบอกเล่า,เสียงโหยหวน,เสียงบทสวด) จมูก(ได้กลิ่น หอม,เหม็น) ลิ้น(รับรส) กาย(สัมผัสร้อนหนาว,เจ็บปวด,ขนลุก) จิต(นึกคิด จินตนาการ)
วิญญานขันธ์นี้ เมื่อรับข้อมูลเข้ามาก็ทำงานแปลงข้อมูลประสานกันไปมาได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เพื่อนำไปสู่วิญญานแห่งจิต เพื่อให้ได้คิดและจินตนาการตามแต่ความเชื่อของแต่ละคน
ทุกคนนั่นล้วนมีขันธ์แห่งวิญญานเหมือนกัน จึงเป็นไปได้สำหรับคนที่เชื่อเรื่องผี เมื่อตาเห็นเงาแวปๆก็ อาจคิดได้ว่าเป็นเงาผี คนไม่เชื่อก็จะบอกว่าเป็นเงาจากไฟรถหรือเงาของสัตว์ หรือ เวลามีเสียงก๊อกแก๊กๆคนเชื่อเรื่องผีก็จะบอกว่าเสียงผีเดิน คนไม่เชื่อก็จะบอกว่าแค่ไม้ขยายมันเลยมีเสียงลั่น
ดังนั่นอย่างหนึ่งที่ผมพอจะมั่นใจได้คือ คนที่เชื่อเรื่องผีมักจะได้เจอผีบ่อยครั้ง ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็จะไม่เคยเจอผีเลยต่อให้อยู่ในสถานที่เดียวกัน
สำหรับผมแล้ว ต่อให้ถามอีกกี่ครั้งว่าผีมีไหม ผมก็ยังจะตอบเหมือนเดิม ว่าถ้าเราเชื่อว่ามีก็จะมี ถ้าไม่เชื่อก็ไม่มี เพราะเมื่อเราเชื่อ จิตนั่นมีพลังรังสรรค์ภาพประกอบให้เรารับรู้ได้ในระดับภาพ full HD
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่ามีอย่างแน่นอน นั่นคือการมีอยู่ของ จิต เพราะ ชีวิตเกิดได้ต้องประกอบด้วย กาย+จิต และส่วนตัวเชื่อว่าจิตนั่นคือพลังงานในรูปแบบหนึ่งซึ่งจะแปรเปลี่ยนรูปร่างอย่างอิสระ
เมื่อกายหยาบนั่นตายไป ในรูปแบบพลังงานนั่นจิตย่อมออกจากร่าง และพลังงานแห่งจิตนี้จะไม่หายไปไหนเพราะหลักวิทยาศาตร์นั่นว่าไว้ว่าพลังงานจะไม่สูญหายไปเพียงแค่จะเเปรเปลี่ยนรูปร่างไปตามสถานการณ์
ในสมัยที่ผมบวชอยู่ในวัดป่าแห่งนี้พอจะมีประสบการณ์ทำสมาธิอยู่บ้าง จึงได้ประสบพบสัมผัสอยู่กับพลังงานอยู่สองรูปแบบ หนึ่งคือกลุ่มพลังงานลักษณะขาวสว่าง และกลุ่มพลังงานแบบเทามืดมัวกึ่งควัน
เหล่านี้เมื่อไปผูกกับวิญญานขันธ์ข้างต้น แต่ละคนจึงแปรเปลี่ยนเรียกว่า เทวดาสิ่งศักดิสิทธและภูติผีปีศาจตามแต่ละประสบการณ์ที่พบเจอกันมาก็อาจจะเป็นได้.........
สนุกสุขสันต์กันในวันฮาโลวีนครับ /JPW
,..................................
ขอบคุณรูปภาพจากหลานชาย และเหล่าผีตัวน้อย จาก รร.ศรีอรุโณทัย จ.ระนอง ที่ได้จัดกิจกรรมสนุกสนานและเสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็กๆครับ😁😁
โฆษณา