เมื่อวาน เวลา 07:11 • ธุรกิจ
เมื่อจิตไม่มีกายแล้ว ต้องเปลี่ยนหาที่อยู่ใหม่ ไม่ได้เตรียมเสบียง บุญกุศลบารมี ก็ไปที่ลำบาก ต้องทุกข์ยาวนาน หรือ สุขยาวนาน ส่วมมากก็ได้ยินว่าเค้าไปสบายล่ะ แม้ว่าจัดงานศพใหญ่โต ..แต่ เอ๊ะ ..ทำไมจิตบางดวง เปลี่ยนรูปไปเปรต.. บางก็ทำ..ส่งจิตไปสวรรค์ได้ ..โอ้ว..หลงไปได้ ว่ายิ่งใหญ่กว่ากรรมที่เคยทำมา สร้างกรรม ก็ต้องรับกรรมไป.
เมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว มีเพื่อนที่สนิทกัน ก็โทรคุยกันตลอด เพราะเราก็มีเรื่องปรึกษาเพื่อน มันก็ช่วยแนะนำ ครั้งสุดท้าย ที่โทรคุย ระหว่างคุยมัน เงียบหายพร้อมกับเสียงลมหายใจแปลก เราก็รีบถามว่า เฮ้ย..มึงเป็นอะไร ..ตอนแรก..มันเงียบไปครู่หนึ่งต้องถามย้ำ ไปอีก ..มึงเป็นอะไร บอกกูมา ..มันก็ว่า กูอยู่โรงพยาบาล แล้วเงียบไปเลย เราก็เลยโทรถามลูกน้องเพื่อน มันบอกว่า พี่เค้าไม่ให้บอกใคร เราก็เลยโทรถามตามโรงพยาบาล พอได้ชื่อว่าอยู่โรงพยาบาลไหน เราก็รีบไปหา เราเดินถามเจ้าหน้าที่ ว่าชื่อนี้อยู่ห้องอะไร
พอเราเดืนเข้าที่ห้องก็มองไม่เห็นเพื่อน ต้องเดืนออกมาใหม่ พยาบาลก็บอกว่าอยู่ที่ห้องนั่นแหละ นั่งอยู่ที่เตียง ..คราวนี้ พอเราเข้าไปก็เห็นอาแป๊ะ อายุน่าจะ เกือบเก้าสิบ .พอเราเดืนเข้าไปใกล้ อาแป๊ะ ก็พูดว่า ..เฮ้ย ..มึงมาทำไม เราก็บอกว่า กูมาเยี่ยมมึงไง แล้วมึงทำไม่ไม่กูว่ะ ทั้งที่คุยกันแทบทุกวัน เราก็ได้รู้เรื่องว่า มันมาอยู่โรงพยาบาลสามเดือนแล้ว เราก็อยู่คุย จนเห็นว่าเพื่อน อ่อนแรงต้องลงไปนอน มองเหม่อ..ไปนอกหน้าต่าง
แล้วเราไปเยี่ยมเพื่อหลังจากนั้นอีกวัน รุ่งขึ้นเพื่อนก็จากเราไป พอวันที่รดน้ำศพ เราก็นั่งรถตู้ไปกับน้อง พอใกล้ถึงวัด มัมีลมพัด ในรถตู้ ..เราก็น้องที่มาด้วย ว่า เพื่อนมารอรับเลย หลังจากรดน้ำศพ ก็อยู่ฟังพระสวดนอกศาลา
พอถึงคราวพระให้พร เราก็ทำจิตทำใจของเรา พนมมือใหัพระสวด ไอ้เพื่อนเรา มันก็มายืนตรงหน้า ยืนเรียบร้อยพนมมือสงบเสงี่ยม สวมชุดที่ใส่รดน้ำศพ . ยังนึกในใจว่า ตั้งแต่รู้จักกันเรียมาด้วยกัน กูยังไม่เคยเห็นมึงเรียบร้อยแบบนี้เลย เราก็เลยไปถามพระถามหลวงตา ว่าทำไมเพื่อนผม เค้าทำท่าที่เรียบร้อยอย่างนั่น ท่านก็บอกว่า เค้ารู้ตัวว่าตาย
เรื่องราวไปงานศพ คนที่รู้จักนับถือ ก่อนออกจากบ้าน เราก็บอกกล่าวหน้าพระว่าจะไป ที่เราบอกกล่าว เพราะเวลาไปงานศพ เรามักจะเจอเรื่องแปลก มีงานหนึ่ง พอพระเริ่มสวดเท่านั้นแหละ ทั่งตัวเหมือนคนเอาพริกขี้หนูตำมาลาด
เรื่องไปงานศพ ..จึงต้องเตรียมตัว ..ไปเรียนรู้ว่า จิตเมื่อหมดกาย ไม่มีกายนั้น เค้าไปสถานที่ทุกข์หรือสุข มีบุญกุศล หรือ อกุศลติดตามไป ..มันเป็นการเรียนรู้ ที่ว่า กุศลา ธัมมา อกุศลา ธัมมา อัพพยากตา ธัมมา .. จิตทีไม่มีกาย ไปที่สุขหรือทุกข์ ไม่อาจรู้ได้เลย
.. พระท่านบอกมาว่า เมื่อไม่รู้ ก็พอพยายามเรียนให้รู้จัก ว่าบุญมีจริง กรรมก็มีจริง คนทีจากไปนั้น น่าเป็นหวง หากรู้จักบุญกรรม จิตดวงไหนไม่มีบุญ จิตออกกาย กลายเป็นเป็นเปรต ก็มีให้เราได้ศึกษา ในสิ่งที่ว่า ธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านบอกว่า ให้สร้างบุญกุศลบารมี
เราสามรถทำได้ เมื่อยังมีกายให้ใช้ ให้สร้างบุญกุศลได้ เมื่อหมดกาย ก็หมดโอกาส ที่จะสร้างบุญกุศล นั่นก็เพราะท่านเปรยให้ฟังว่า ..ตอนเป็นมีกายอยู่ ให้สร้างห้ทำบุญ ที่อย่างนี้หมดกายหมดโอกาสงงแล้วมาขอ ..มันเลยเวลานั้นไปแล้วช่วยไม่ได้แล้ว ..ช่วยได้ตินมีกายบอกให้ทำ เมื่อไม่ทำก็ช่วยไม่ได้แล้ว
บางครั้งก็ไปเจองานที่ผู้ที่ มีฐานะ ..แต่ก็จากไปไม่มีบุญเลย ..จิตเค้าเปลี่ยนแปลงไปได้ขันธ์ห้า รูปเปรต ..ตัวสูงใหญ่โต ..ดูแล้วก็ได่มาทบทวน .อุตส่าห์ ตั้งหน้าทำมาหากิน ทำบุญกับอย่างนั่นอย่างนี้ ..แค่..เอ๊ะทำไม ไปได้รูปเปรต ..มันต้องมีอะไร ที่ผิดปกติ ..ในเรื่องการสร้างบุญกุศล .. มันถึงได้สำคัญว่า นั่นเป็นบุญ แต่ที่จริงแล้ว สิ่งนั้น มันเป็นกรรม
บางทีไปงานศพ ..เราไปงานศพ เราก็เห็นเค้าเชิญ แขกผู้มีเกียรติ มาทอดผ้าบ้าง ทอดห้าบังสกุล งานแม่เรา ..เราจอร่วมทอดผ้าบังสกุล ทอดผ้าไตร พี่ชายจะไม่ยอม เราก็บอกว่า แม่เราทั่งคน ..เราขอทำกับมือเราเอง ..ทีแรกเค้าไม่ยอม ..เราก็บอกว่า นี่แม่ของเราเอง ยังไงเราขอทำ
..เพราะแม่ก็ให้กายเรามา เรามีสังขารแม่อยู่ คนอื่นไม่ได้มีธาตุแม่ ..แม่เราเอง เพราะสิ่งที่เรามันส่งบุญกุศลให้แม่เราได้เต็มที่ ..เราก็ไม่ได้ว่า อยู่จะนำผ้าไปทอดเสียเมื่อไหร่ เรานำกล่าวคำถวาย ต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กรวดน้ำเรียบร้อย ระหว่างกรวดน้ำ ก็มีกลิ่นน้ำมันก๊าซ ตามลมมาจากเมรุที่อยู่ด้านหลัง แม้แต่งานแม่เรา ญาติก็ห่วงแต่แขก ..จะให้ทอดผ้า เรานั่น ..ห่วงแต่ว่า มันจะไม่เกิดเป็นบุญกุศล .เพราะเค้าไม่ใช่คนที่สนใจ ตั้งใจสร้างบุญกุศล เค้ามาให้เกียรติ แต่ไม่ได้ มาสร้างให้เกิดบุญกุศลกับอม่ที่จากไป
โฆษณา