“คริสโตเฟอร์ แลงแกน (Christopher Langan)” ชายที่อาจจะเป็นคนที่ “ฉลาดที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่”
เมื่อพูดถึง “อัจฉริยะ” เราอาจจะนึกถึงนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในห้องทดลอง ทำการทดลองอะไรยากๆ หรือไม่ก็ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้า
แต่สำหรับ “คริสโตเฟอร์ แลงแกน (Christopher Langan)” นั้นตรงกันข้ามเลย
แลงแกนเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน หากแต่ฉายแววอัจฉริยะตั้งแต่วัยเด็ก และได้รับการบันทึกว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีไอคิวสูงที่สุดในโลก คือมีไอคิวอยู่ระหว่าง 195-210
คริสโตเฟอร์ แลงแกน (Christopher Langan)
หากแต่แทนที่จะใช้ความฉลาดในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ หรือเป็นศาสตราจารย์ แลงแกนกลับใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบ ไม่เป็นที่รู้จัก
เรื่องราวของเขาเป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ
“คริสโตเฟอร์ แลงแกน (Christopher Langan)” เกิดที่สหรัฐอเมริกาในปีค.ศ.1952 (พ.ศ.2495) และฉายแววความฉลาดตั้งแต่ยังเด็ก
เมื่อมีอายุเพียงหกเดือนก็สามารถพูดได้แล้ว และอ่านหนังสือออกตอนอายุสามขวบ และเมื่ออายุห้าขวบ ก็เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับการมีอยู่ของพระเจ้า
แต่ในช่วงวัยเด็กนี้เอง แลงแกนก็ต้องพบเจอการทำร้ายร่างกายจากแฟนใหม่ของผู้เป็นแม่ อีกทั้งครอบครัวของเขายังยากจนสุดขีด อดมื้อกินมื้อ
แต่ถึงจะมีอุปสรรค แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความอัจฉริยะของแลงแกนได้ โดยเมื่อมีอายุได้ 12 ปี แลงแกนก็เรียนรู้ทุกอย่างที่โรงเรียนจะสอนได้แล้ว และเริ่มต้นการศึกษานอกโรงเรียน และฉายแววว่าจะมีมันสมองเหนือคนธรรมดา
แลงแกนนั้นศึกษาทั้งคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ปรัชญา ภาษาละตินและกรีก ซึ่งทั้งหมดนี้เขาศึกษาด้วยตนเอง และเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่เปิดตำราผ่านๆ เท่านั้น และเขายังสอบ SAT ได้คะแนนระดับท็อป ถึงแม้ว่าตอนสอบนั้นเขาจะเผลอหลับในระหว่างสอบก็ตาม
ในไม่ช้า แลงแกนก็พร้อมจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ก่อนจะพบความจริงที่ว่า การจะประสบความสำเร็จในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ใช่ว่าฉลาดเพียงอย่างเดียวแล้วจะประสบความสำเร็จ
แลงแกนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยรีด โดยตั้งใจจะศึกษาด้านคณิตศาสตร์และปรัชญา หากแต่ก็ต้องลาออกเนื่องจากผู้เป็นแม่ไม่สามารถขอทุนให้เขาได้
จากนั้นแลงแกนก็ย้ายไปศึกษาที่อื่น หากแต่ศึกษาได้ไม่นานก็ต้องออกจากมหาวิทยาลัยเนื่องจากไปมีเรื่องกับอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ โดยในภายหลัง แลงแกนได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหล่าศาสตราจารย์และนักวิชาการทั้งหลาย โดยกล่าวว่า
“ผมสามารถสอนคนพวกนี้ได้มากกว่าที่พวกเขาสามารถสอนผมได้ซะอีก และจนทุกวันนี้ ผมก็ไม่เคยรู้สึกเคารพนับถือพวกนักวิชาการเลย ผมเรียกพวกเขาว่านักวิชาเกินน่าจะเหมาะกว่า”
เมื่อออกจากมหาวิทยาลัย แลงแกนก็ได้มุ่งไปทางตะวันออก ทำงานเป็นคาวบอย เป็นคนงานก่อสร้าง เป็นเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เป็นเทรนเนอร์ในฟิตเนส และเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งแต่ละงานนั้น ช่างดูไม่เหมาะสมกับไอคิวที่สูงลิ่วและความเป็นอัจฉริยะระดับโลกเลย
ในช่วงวัย 40 กว่า แลงแกนทำเงินได้เพียงแค่ปีละ 6,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 203,000 บาท) เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากทีเดียว
แต่ถึงแม้จากการสำรวจจะพบว่าไอคิวของแลงแกนนั้นอยู่ระหว่าง 195-210 ซึ่งทำให้เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีไอคิวสูงที่สุดในโลก แต่แลงแกนก็ไม่ปรารถนาชื่อเสียง เขายังคงใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ
ปัจจุบัน แลงแกนอาศัยอยู่กับภรรยาในฟาร์มม้าที่มิสซูรี และในปีค.ศ.1999 (พ.ศ.2542) ได้ร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่มีไอคิวสูงหากแต่อยู่นอกแวดวงวิชาการ
แลงแกนและภรรยา
สำหรับมุมมองของแลงแกนที่มีต่อความฉลาดของตนนั้น แลงแกนมองว่าก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ ทุกคนต่างก็มีโชคดีและโชคร้าย มีจุดเด่นและจุดด้อยของตนเองอยู่แล้ว
“บางครั้งผมก็สงสัยว่าการเป็นคนปกตินี่มันเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าผมอยากจะเปลี่ยนกับคนอื่นนะ ผมเพียงแค่สงสัยเฉยๆ”
คือคำพูดของ “คริสโตเฟอร์ แลงแกน (Christopher Langan)” ชายที่ฉลาดที่สุดในโลก
- 72
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
