31 ต.ค. เวลา 14:34 • ข่าว

ทน.ภูเก็ต และ DJT TECNOLOGY CO. LTD. MOU บริหารเตาเผาเก่า 300 ตันต่อวันอีก 15 ปี

แก้ไขปัญหาขยะล้นเมืองจากทุกอปท.พร้อมผลักดันสะพานหินสเตเดี้ยม
เมื่อบ่ายวันที่ 31 ตุลาคม นี้ เวลา ประมาณ 13.45 น. ที่ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเทศบาลนครภูเก็ต นายสาโรจน์ อังคณาพิลาศ นายกเทศมนตรี เทศบาลนครภูเก็ต ร่วมในพิธีการลงนามสัญญาให้สิทธิเอกชน คือ DJT TECNOLOGY CO. LTD. โดยนางสาวตานหวัง (WANG DAN ) กรรมการผู้จัดการ YUNNAN WATER MEMBER OF YUNNAN WATER (HONGKONG) CO. LTD. บริหารโรงเตาเผาขยะมูลฝอยชุมชนหลังเก่า ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 12 เมกะวัตต์ หรือ ขนาดไม่น้อยกว่า 300 ตันต่อวัน
ทั้งนี้ บริษัทจำเป็นจะต้อง ดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงเตาเผาขยะและลงทุนใหม่ในการจัดหาเครื่องมือหรือเครื่องจักรกล งบประมาณสูงถึง ประมาณ 511 ล้านบาท รวมทั้งการลงทุนปรับปรุงเทคโนโลยี ในการควบคุมระบบเตาเผาขยะ อีก 40 กว่าล้านบาทด้วย
นายสาโรจน์ อังคณาพิลาศ นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า การลงนามในวันนี้ เป็นการต่อสัญญา บริหารเตาเผาขยะที่สิ้นสุดสัญญา หรือครบ เป็นเวลา 15 ปี แล้วสัญญาจะมีต่อเนื่องอีก 15 ปี และกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือเป็นที่ปรึกษา ตรวจสอบจนผ่านการประเมินการบริหารเตาเผาขยะ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในช่วงที่ผ่านมา เรียบร้อยแล้ว
และภาคเอกชนยังมีการมอบเงินอุทิศให้จำนวน 29.7 ล้านบาท เพื่อเทศบาลนครภูเก็ตนำไปใช้ในกิจการสาธารณะต่างๆและในปัจจุบันนี้ เทศบาลนครภูเก็ตรับผิดชอบ ในการกำจัดขยะที่ต้นทางมาจากทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 18 แห่ง ใน เขตอำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้และอำเภอถลาง สูงถึงประมาณ 1,100 ตันต่อวัน
ในขณะที่เตาเผาขยะสามารถรองรับได้ส่วนหนึ่งและ จำเป็นต้องนำไปฝังกลบต่อวันสูงถึง 200-300 ตันต่อวัน ในขณะเดียวกันเทศบาลนครภูเก็ตได้รับการจัดสรรงบประมาณในโอกาสที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่หรือว่าครม.สัญจร จำนวน 35 ล้านบาท
และเทศบาลนครภูเก็ตสมทบ เพิ่มอีก 5 ล้านบาทเพื่อนำไป ฟื้นฟูบ่อฝังกลบให้มีพื้นที่ในการฝังกลบได้ และดำเนินการ แล้วเสร็จ 1 บ่อภายใน 8 เดือน ส่วนเตาขยะแห่งใหม่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการและกรมโยธาธิการและผังเมือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงนามแล้ว อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวด้วยว่า เตาเผาขยะ เก่ามีการใช้งานต่อเนื่อง 15 ปีกว่าแล้ว เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆมีปัญหาอยู่ในสภาพทรุดโทรมมากจำเป็นจะต้องมีการต่อสัญญา ให้เอกชนมาปรับปรุงทั้งตัวเตาเผาและจัดหาอุปกรณ์ให้มีคุณภาพสมบูรณ์ และในจังหวัดภูเก็ตนั้น เตาเผาขยะ ไม่สามารถกำจัดขยะได้ทั้งหมด จึงทำให้มีขยะเหลือวันละประมาณ 200-300 ตันต่อวัน
ส่งไปยังพื้นที่ฝังกลบ ตามหลักสุขาภิบาล (SANITARY LANDFILL) ควบคู่ไปกับ การรื้อร่อนบ่อฝังกลบขยะที่มีอยู่ให้มีพื้นที่ เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น ในกลุ่มประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนและยืนยันว่าเทศบาลนครภูเก็ต มีศักยภาพเพียงพอ ที่จะคลี่คลายปัญหา ขยะล้นเมือง โดยมีภาคเอกชนที่มี ศักยภาพ ทำงานร่วมกับพนักงานและข้าราชการเทศบาลนครภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ทราบว่าจังหวัดภูเก็ตมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตไปจัดหาพื้นที่ก่อสร้างเตาเผาขยะแห่งใหม่ในพื้นที่ด้านตอนเหนือของเกาะภูเก็ตหรือ สวนป่าบางขนุนหรือบริเวณอื่นๆในอำเภอถลาง
" เงื่อนไขในการเลือกบริษัทที่ลงนามสัญญาบริหารจัดการ เตาเผาขยะ สืบเนื่องมาจาก สัญญาเดิมที่เอกสารต่อท้ายสัญญาระบุว่า หากผ่านการประเมินเทศบาลนครภูเก็ตจะต้องต่อสัญญาให้บริษัทนี้ก่อน และกรณีที่บริษัทอยู่ที่เงินจำนวน 25.7 ล้านบาทนั้นทางเทศบาลนครภูเก็ตรอเงินสะสมนำไปรวมกันและพิจารณาดำเนินโครงการที่อยู่ในพื้นที่สะพานหินคือ สนามฟุตบอลใน"สะพานหินสเตเดียม" ที่จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 488 ล้านบาท
เพื่อผลักดันขับเคลื่อนให้เป็นสนามหลัก อันดับต้นๆของภูมิภาคเอเชีย โดยจะมีการปรับปรุงลู่วิ่ง ปูยางพิเศษ 9 ลู่ เป็นระดับนานาชาติแม้ว่าเทศบาลนครภูเก็ต เคยเสนอโครงการไป 2 ครั้ง แล้วแต่ยังไม่ผ่านการพิจารณา ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องดำเนินการเป็นหลายงวดงานในโครงการระยะที่ 1 รวมกับงบประมาณสะสมที่มีอยู่ เพื่อให้เป็นศูนย์การกีฬาอีกแห่งหนึ่งที่สำคัญในโอกาสที่มีการถ่ายทอดสดก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลภูเก็ตในแมตช์การแข่งขันต่างๆในอนาคต" นายกเทศมนตรีนครภูเก็ตกล่าว
ทางด้าน นางสาวตาน หวัง กล่าวว่า บริษัทชนะการประกวดราคา ดำเนินการบริหารจัดการเตาเผาขยะ ในระยะ 15 ปีที่ผ่านมา สามารถพิสูจน์ได้ว่าแก้ไขปัญหาขยะล้นเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกัน เป็นโครงการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แห่งแรกในประเทศไทย ที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้า ได้สูงสุด จำนวน 12 เมกะวัตต์และการต่อสัญญาในครั้งนี้เป็นการให้โอกาส บริษัทและชาวภูเก็ตสนับสนุนให้ดำเนินการต่อไป โดยบริษัทก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2552
ปัจจุบันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ฮ่องกง มี ศักยภาพ ในการกำจัดขยะ น้ำเสีย และผลิตน้ำประปา โดยบริษัท มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองคุนหมิงมณฑลยูนนานประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีบริษัทในเครือทั่วโลก 230 แห่ง หรือดูแลโครงการ มากกว่า 400 โครงการ และ มีเป้าหมายในอนาคต จะสร้าง โครงการที่ดีขึ้นต่อไป
สำหรับ การประเมินการบริหารจัดการของบริษัท ได้คะแนน 4.1-5 คะแนน ประเมินผล ในระดับเกรด A หรืออยู่ในระดับน่าพึงพอใจ ดีที่สุด ดังนั้นบริษัท จะทำให้ดีตลอดไป ในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่มีมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาใด ในประเทศไทยที่มีหลักสูตรเกี่ยวกับการบริหารจัดการเตาเผาขยะ ทางบริษัท เป็นหน่วยงานแห่งแรกที่ให้ความรู้ เฉพาะทาง
ด้านการบริหารจัดการ เตาเผาขยะ มีการอบรม พนักงานคนไทย ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนสนับสนุนส่งเสริมให้ไปศึกษาดูงานเตาเผาขยะในต่างประเทศจากการจัดเก็บสถิติ พบว่ามีนักเรียนนักศึกษาประชาชนทั่วไปตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั่วประเทศมาศึกษาดูงาน เตาเผาขยะที่บริหารจัดการ สูงถึง 40,000 คน ในช่วงซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรปกครองท้องถิ่น ต่างๆ
ในการบริหารจัดการขยะในพื้นที่ของตนเอง ส่วนกรณีที่ประชาชน ระบุว่า เตาเผาขยะ ส่งกลิ่น เหม็นรบกวนนั้น ยืนยันว่า มาจาก ระบบฝังกลบขยะ มากกว่า ส่วนระบบเตาเผาขยะ เป็นระบบปิดที่ควบคุมกลิ่นได้ แต่อาจจะมีปัญหา เรื่องกลิ่นบ้าง ในกรณีที่เตาเผาขยะปิดเพื่อซ่อมแซมปรับปรุง ในบางโอกาสเท่านั้น
#เตาเผาขยะ
#เทศบาลนครภูเก็ต
#Phuketprice
#Phuketmeedee
wasanaphuketprice
31-10-2024
โฆษณา