9 ชั่วโมงที่แล้ว • ข่าวรอบโลก

ความโดดเดี่ยวของสหรัฐฯ เกี่ยวกับนโยบายการคว่ำบาตร

สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้ผ่านมติประจำปีอย่างท่วมท้นเมื่อวันพุธ โดยเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้าที่มีต่อคิวบา
มติดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก 187 ประเทศ โดยมีเพียงสหรัฐฯ และอิสราเอลที่ลงมติไม่เห็นด้วย, และมอลโดวางดออกเสียง
สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติยืนยันหลักการความเท่าเทียมกันของรัฐต่างๆ การไม่แทรกแซงและการไม่แทรกแซงกิจการภายในของตน และย้ำเรียกร้องให้รัฐต่างๆ งดเว้นการประกาศใช้หรือใช้กฎหมายและมาตรการที่จำกัดอย่างเข้มงวดตามพันธกรณีของตนตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ
แม้ผลที่ออกมาจะไม่มีผลผูกพัน แต่สะท้อนให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวของสหรัฐฯ เกี่ยวกับนโยบายการคว่ำบาตรที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งบังคับใช้ครั้งแรกในปี 2503 หลังจากการปฏิวัติที่นำโดยอดีตผู้นำฟิเดล คาสโตร
"สถานการณ์นี้จะดำเนินต่อไปอีกนานแค่ไหน?"
บรูโน โรดริเกซ ปาร์ริลลา รัฐมนตรีต่างประเทศคิวบา ได้เรียกร้องให้สมัชชาฯ ประณามการปิดล้อมคิวบาว่าเป็น
"สงครามการค้า" และ
"อาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"
ตั้งแต่ปี 2019 สหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการทางเศรษฐกิจที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันการส่งเชื้อเพลิงและชิ้นส่วนอะไหล่ที่จำเป็นต่อการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าและโครงข่ายไฟฟ้าของคิวบา
"ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนมักจะอ้างว่านโยบายของตนคือการช่วยเหลือและสนับสนุนประชาชนชาวคิวบา"
โรดริเกซกล่าว, และถามว่า
"ใครจะเชื่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว?"
เขากล่าวว่า การปิดล้อมเป็น
"การละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชนของเราอย่างโจ่งแจ้ง ร้ายแรง และเป็นระบบ" และ
"เป็นระบบการใช้มาตรการบังคับฝ่ายเดียวที่ครอบคลุมมากที่สุด และยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมากับประเทศใดๆ"
ตั้งแต่ปี 1992 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้ผ่านมติเรียกร้องให้ยุติการจำกัดคิวบาฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ โดยเอกสารดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ของสหประชาชาติ
UN votes overwhelmingly against U.S. embargo on Cuba
World, 18:08, 31-Oct-2024
CGTN
The UN General Assembly on Wednesday adopted overwhelmingly an annual resolution urging the United States to end its long-standing economic and trade embargo against Cuba.
The resolution garnered support from 187 states, with only the United States and Israel voting against it and Moldova abstaining.
The General Assembly reaffirmed the principles of the sovereign equality of states, non-intervention and non-interference in their internal affairs. It reiterated its call for all states to refrain from promulgating or applying restrictive laws and measures in line with their obligations under the UN Charter and international law.
Though non-binding, the result reflects the United States' isolation regarding its long-standing embargo policy, first imposed in 1960 following the revolution led by former leader Fidel Castro.
"How long will this go on?" Cuba's Foreign Minister Bruno Rodriguez Parrilla asked the assembly, condemning the blockade against his country as "commercial warfare" and "a crime of genocide."
Since 2019, the United States has adopted harsher economic measures designed to prevent the supply of fuel and spare parts needed to maintain Cuba's power plants and electric grid. "President Joe Biden's administration tends to claim that its policy is to help and support the Cuban people," Rodriguez said, asking "who would believe such an assertion?"
He said the blockade is "a flagrant, massive and systematic violation of the human rights of our people" and "the most encompassing, comprehensive and longest-standing system of unilateral coercive measures ever applied against any country."
Since 1992, the UN General Assembly has annually adopted a resolution demanding an end to unilateral U.S. restrictions on Cuba, with the document having the support of a majority of UN member states.
Source(s): Xinhua News Agency
โฆษณา