Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นุช อ่ะลอง มีเรื่องมาเล่า
•
ติดตาม
2 พ.ย. เวลา 07:47 • ท่องเที่ยว
ทุ่งโนนสน อช.ทุ่งแสลงหลวง
ทุ่งโนนสน อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง พิษณุโลก สัมผัสลานดอกไม้ธรรมชาติ
ดุสิตา
อีกทริปเดินป่าตามหาดอกไม้ล่าสุดกับป่าที่เพิ่งจะได้ไปเป็นครั้งแรก ทุ่งโนนสน อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก จัดเวลาสะดวกได้ก็ติดต่อทางหน้าเฟสฯ อุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง ทำเอกสารขอเข้า หัวหน้าอุทยานอนุญาต โอนจ่ายค่าธรรมเนียมค่าบริการคนนำทางค่ารถรับส่ง สุดท้ายก็โทรยืนยันนัดพบกันที่หน่วยพิทักษ์อุทยานที่สร. 12 (รักไทย) ในเช้าวันเดินขึ้นเขา เรานัดไว้ประมาณแปดโมงเช้า
แล้วเราก็ถึงจุดนัดพบตรงเวลาเป๊ะๆ มีรถกระบะรับส่งของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รอเราอยู่แล้ว จัดของเช็คเป้เดินป่าอีกเล็กน้อย เข้าห้องน้ำห้องท่าอีกรอบก็พร้อมยกเป้ขึ้นหลังรถออกเดินทาง
เรานั่งรถเช่าผ่านพื้นที่ไร่สวนซึ่งทางไม่ค่อยดี ถ้าฝนตกก็ท่าจะแย่ๆ เช่ารถมาส่งอุ่นใจกว่าเยอะ ไม่ต้องทิ้งรถส่วนตัวตรงจุดเริ่มเดิน ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเราก็มาถึงจุดเริ่มเดิน เป็นชายป่าริมสวนยางดงมัน
การเดินช่วงแรกเจ้าหน้าที่นำทางบอกว่าเป็นทางราบซึ่งไม่ได้หลอก เป็นทางราบจริง ขึ้นลงเนินเล็กน้อย ระยะทางประมาณ 2.5 กม. จะมีจุดพักเป็นร่องห้วยเหนือน้ำตกเล็กๆ หลังจากนี้ทางเดินก็ยังคงเป็นเนินเนิบๆ ไม่สูงชัน จนหลัง กม. ที่ 4 ความเนิบจะหนักขึ้นอีกนิดเป็นเนิบๆ ยาวๆ มีเนินชันเพียงเนินเดียว คือเนินป่าซาง หรือ ป่าไผ่ ผ่านจุดชมวิว 2 จุด เดินสุดเนินก็จะถึงขอบของทุ่งโล่ง รวมระยะทางประมาณ 9 กม.
ในเรื่องของสัตว์ป่านั้น ช่วงต้นของเส้นทางเราต้องเดินผ่านพื้นที่หากินของช้างป่า เกือบตลอดเส้นทางเรายังได้เห็นร่องรอยการดุดหากินของหมูป่า พบรอยตีนกระทิง ได้ยินเสียงนกร้องหลายชนิด เช่น นกกระทาดงแข้งเขียว นกปรอดเล็กตาขาว นกกระเต็นลาย นกจับแมลงชนิดต่างๆ
ข้อดีของเส้นทางนี้คือเดินอยู่ใต้ร่มเงาของป่าดิบแล้งสันเขาเจอแดดน้อยมาก ข้อเสียคือมีน้องยุงตามเรียกพี่ๆๆๆๆ
กิ้งกือมังกร ที่พบตามเส้นทางเดิน
กิ้งก่าเขาหนาม เกาะอยู่ที่ขอบไม้ใกล้จุดพักริมห้วย
ดอกไม้ในสกุลเข็มม่วงบริเวณจุดชมวิว
จากจุดชมวิวเราจะเห็นพื้นที่ของบ้านรักไทยอยู่เตี้ยลงไปนิดนึง
เมื่อเข้าสู่พื้นที่ทุ่งเปิดโล่งที่เจ้าหน้าที่นำทางบอกว่าปีนี้โล่งและมีดอกไม้มากกว่าปีก่อน ดอกไม้ที่เตะตาชนิดแรกๆ ก็จะเป็นดอกของพืชวงศ์ถั่วที่ขึ้นอยู่ตามรอยต่อของป่าเต็งรังกับพื้นที่ทุ่ง กับต้นเอนอ้าชนิดจิ๋วๆ สีสวยน่ารัก ความจิ๋วก็ขนาดต้องก้มลงไปมองชื่นชม ซึ่งเราก็ยังถูกดึงดูดให้ก้มลงไปมอง (ทั้งที่ยังแบกเป้หนักๆ อยู่บนหลัง) ด้วยสีสันที่สดใสของดอก
พืชในวงศ์ถั่ว
พืชในวงศ์ถั่ว สกุลถั่วเสี้ยนป่า
พืชในวงศ์ถั่ว สกุลถั่วตาดำ ถั่วเขียว
ดอกสวยน่ารัก สีสดใส ของพืชในสกุลเอนอ้า
ระหว่างเดินตัดผ่านทุ่ง ลานหิน ร่องน้ำเล็กๆ และแหล่งน้ำเพื่อไปยังจุดพักแรมของเราในดงสนสองใบก็ยังพบดอกไม้อีกมากมายเยอะแยะ อัดแน่นด้วยปริมาณและชนิดของดอกไม้ป่าบนลานหินตามธรรมชาติ ซึ่งหลายๆ ชนิดก็เป็นพืชที่มีกับดักเพื่อใช้หาอาหารเสริมเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กตั้งแต่แมลงลงไปจนถึงพวกที่เล็กมากๆ ระดับโพรโทซัว พืชเหล่านี้เท่าที่เราเจอก็เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง จอกบ่วาย ดุสิตา สร้อยสุวรรณา ทิพย์เกสร สาหร่ายน้ำตก หญ้าน้ำค้าง
ดุสิตา พืชดอกสวยที่พบขึ้นเป็นกลุ่มๆ สลับกับพืชชนิดอื่นๆ
หลังจัดการที่พักเสร็จเรียบร้อยเราก็ออกเดินสำรวจพื้นที่แบบกว้างๆ เพื่อวางแผนถ่ายภาพดอกไม้ในช่วงเช้าของอีกวัน เราไม่จำเป็นต้องรีบมากเพราะเราพัก 2 คืน มีเวลาให้ร่างกายได้พักหลังจากเดินแบกเป้หนักๆ ก่อนจะลงมือถ่ายภาพ
ทุ่งโนนสนเป็นทุ่งโล่งลานหินที่สะสมใบสนเศษพืชไว้เป็นหน้าดิน ในแวดล้อมของป่าเต็งรัง มีแนวร่องลึกที่เป็นลำห้วยเล็กๆ บริเวณ 2 ข้างลำห้วยที่มีหน้าดินหนาจะมีต้นไม้ใหญ่ขึ้น
พืชชนิดต่างๆ ที่ขึ้นอยู่บนดินที่ย่อยสลายมาจากใบสนและเศษพืชที่หมักด้วยความชื้นแฉะของน้ำฝนที่ถูกสะสมแล้วซับออกมาไหลรินเป็นแหล่งน้ำให้กับทุ่งโนนสน เกิดเป็นชั้นดินบางๆ บนลานหินที่มีความลาดเอียงเล็กน้อย เป็นจุดกำเนิดของทุ่งดอกไม้
จอกบ่วาย สร้อยสุวรรณา และพืชในสกุลเนียมนกเขา ขึ้นร่วมอยู่กับมอสส์ที่มีบทบาททั้งเป็นนักยึดเกาะพื้นหิน นักย่อยสลายและนักสะสมดินอีกจุดเริ่มต้นของการสะสมดินและการเกิดลานดอกไม้บนลานหินตามธรรมชาติ
รอบๆ ลานหินก็จะพบว่าเป็นป่าสนและป่าเต็งรัง บริเวณลานหินพืชเด่นๆ อันที่จริงไม่ใช่ดอกไม้ที่ดอกสวยๆ หรอกนะ พี่ใหญ่เจ้าถิ่นตัวจริงก็จะเป็นหญ้าชนิดต่างๆ และหญ้าถอดปล้อง
หญ้าถอดปล้อง และหญ้าอื่นๆ อีกหลายชนิด
กระดุมเงินหลายชนิด
หญ้าบัว
บริเวณชายลานหินที่หน้าดินหนาก็จะมีไม้พุ่ม ไม้ยืนต้น ไม้เถา และเตยหนามขึ้นอยู่เป็นดง
เช้าของวันใหม่เรารีบต้มน้ำชงกาแฟตั้งแต่เช้าตรู่ สายมาโครดอกไม้รอช้าไม่ได้หรอกนะ ช่วงแสงดีดอกไม้มีน้ำค้างพร่างพรมเกาะอยู่ตามกลีบใบนั้นมีอยู่ไม่นานก็จะต้องเหือดแห้งไปด้วยแสงของดวงอาทิตย์
บรรยากาศแคมป์พักแรมในตอนเช้า
สร้อยสุวรรณา
ทิพย์เกสร
จอกบ่วาย
พืชในสกุลเนียมนกเขา
ดอกหญ้าน่ารักๆ
หม้อข้าวหม้อแกงลิง
บนลานหินเรายังได้พบร่องรอยของสัตว์ป่า
ขี้ของสัตว์ผู้ล่าขาดเล็ก สังเกตว่ามีเส้นขนอยู่ในกองขี้
รอยตีนหมูป่า พบว่าเป็นหมูฝูง เพราะมีรอยตีนหลายขนาดจำนวนมาก
ขี้ของตัวอะไรไม่แน่ใจ พบว่าเพิ่งจะขี้ไว้ใหม่ๆ
ขี้กระทิง
อีกความตั้งใจคือการค้นหาพืชกินแมลงที่มีหลักฐานแมลงคาที่อยู่จริงๆ จะหาเปิดเอาตามหม้อข้าวหม้อแกงลิงก็จะรบกวนทำลายธรรมชาติ จะหาเอาตามพวกที่กับดักอยู่ติดดินขนาดจิ๋วๆ ก็ไม่น่าจะได้ เราจึงโฟกัสไปที่จอกบ่วายกับหญ้าน้ำค้าง
แมลงปอที่ตกเป็นเหยื่อของต้นจอกบ่วายที่สร้างกับดักเป็นสารเหนียวก้อนกลมใสที่ปลายขน เมื่อแมลงปอติดสารเหนียวจอกบ่วายก็จะม้วนปลายขนรัดเข้าไว้อย่างรวดเร็วอีกที
หญ้าน้ำค้างกับแมลงติดกับดักซึ่งเป็นสารเหนียวเหมือนจอกบ่วาย เมื่อแมลงติดจนตายก็รอเน่าเปื่อยย่อยสลายการเป็นปู๋ยดูดซึมเข้าร่างทางใบ
ระหว่างเดินถ่ายภาพดอกไม้ก็ยังถูกดึงสมาธิไปที่เจ้าแมลงปอที่เริ่มออกมาบินพร้อมแสงแดดเช้า วันนี้เป็นวันที่แดดแรงแต่เช้า แมลงปอที่นี่ก็ปราดเปรียวแต่เช้าเหมือนกัน ตามถ่ายภาพยากมาก แมลงปอชอบบินหนี คนเดินตามก็ต้องระวังจะเดินเหยียบดอกไม้
แมลงปอเข็มนาเหลืองวงฟ้า
แมลงปอบ้านสองปลายปีกดำ
แมลงปอบ้านเสือแดงเลือดนก
แมลงปอบ้านเสือฟ้าหน้าดำ
แมลงปอบ้านสองสีฟ้า
หลังมื้อเช้าที่กลายเป็นมื้อสายเราก็ออกสำรวจพื้นที่แบบขยายวงกว้างขึ้นอีก
จิงจ้อนวล
กล้วยไม้งามประจำลานหินในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่พลาดไม่ได้ยังไงก็ต้องมีต้องมา
ม้าวิ่ง
เอื้องนวลจันทร์, เหลืองพิศมร
ตามด้วยดอกไม้งามอีกหลากหลายทั้งในลานหิน ชายป่า และตามรอยต่อของป่าต่างชนิดกัน
ฝอยหิน
พืชดอกสวยไม่ทราบชนิด
เทียนป่าชนิดหนึ่ง
พืชดอกสวยในสกุล Hypoestes
ความสุขของการเที่ยวป่าแนวเดินสำรวจคือการเปิดใจแล้วเดินไปสัมผัส พบเห็น เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่ในธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้เรารู้จักถ่อมตัวมากขึ้น เพราะเรารู้จักสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวน้อยมากๆ
ชาบ้าน
ดอกของไม้ยืนต้นริมแหล่งน้ำที่ยังไม่ทราบชนิด
พืชตละกูลถั่วและอัญชัญอีกชนิดครับ
กระต่ายจาม
ดอกไม้ในสกุลผักปลาบช้าง
มณเฑียรทอง
หญ้าละออง
พืชดอกแปลกยังไม่ทราบชนิดที่เติบโตอยู่ในพื้นที่ชื้นแฉะ
หงอนนาค
พืชดอกสวยใน วงศ์ ผักบุ้ง
สาหร่ายน้ำตก
แนะนำสำหรับใครที่สนใจจะขึ้นไปเที่ยวทุ่งโนนสน
●
เป็นการเข้าไปในธรรมชาติโดยแท้ เป็นป่าที่มีแหล่งน้ำจากน้ำฝนน้ำซับที่จะมีปริมาณลดลงเรื่อยๆ เมื่อฝนหยุดตก หมายความว่า น้ำที่จะเป็นน้ำใช้ก็จะลดลงเรื่อยๆ ตามปริมาณน้ำฝน ดอกไม้ต่างๆ ก็จะแห้งเหี่ยวโรยลงเรื่อยๆ ไม่มีเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่เมื่อฝนทิ้งช่วงไปนานๆ
●
เป็นการเข้าไปในธรรมชาติโดยแท้ ไม่มีร้านค้า ไม่มีลานกางเต็นท์แบบถาวร ไม่มีห้องน้ำหรือสุขา ควรพกเสียมเอาไว้ขุดสุขาของตัวเองแล้วกลบให้เรียบร้อย เพื่อสุขอนามัยที่ดีของพวกเรานี่แหละ
●
เป็นการเข้าไปพักในที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ดังนั้นจะทำอะไรหรือออกไปไหนควรปรึกษาหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง ไม่มึสัตว์ป่าที่จ้องจะทำร้ายเราหรอกนะ แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้เสมอ
●
ไม่ทิ้งหรือเผาขยะทิ้งไว้ในธรรมชาติ
●
รบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
เป็นเย็นย่ำที่เราดูแล้วว่าน่าจะมีแสงดีๆ จึงจัดแจงถือกล้องไปนั่งรอที่ลานหินฝั่งตะวันตกของที่พัก นั่งมองการไหลเลื่อนเคลื่อนที่ของเมฆประสานกับการคล้อยลงของดวงอาทิตย์ที่ส่วนใหญ่ถูกบดบังแสงอันแรงกล้า จนเมื่อใกล้จะลับขอบฟ้าก็มีช่วงสั้นๆ ที่แสงส่องลอดผ่านหมู่เมฆและดงสนเห็นเป็นดวงอาทิตย์เป็นดวงๆ สีส้มสวยๆ
สำหรับเราการได้ลุ้นว่าจะได้เจออะไรบ้าง จะแสงแบบไหน ฝนจะตกมั้ย อากาศจะยังไงคือความสนุก การไปใช้ชีวิตอยู่บนความไม่แน่นอนแบบเตรียมตัวรับมือเป็นอย่างดีคือความท้าทายในทุกๆ ครั้งที่ไปเดินป่า ป่าที่เราเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเรารู้จักเขาน้อยมากๆ และยังอยากจะรู้จักเพิ่มขึ้นเสมอๆ
ท่องเที่ยว
สิ่งแวดล้อม
ถ่ายภาพ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย