ว่าป๊าให้พอเลยนะ
พ่อเราแทนตัวเองว่าป๊า
ตั้งแต่พ่ออายุได้ ประมาณ 60 ปี พ่อก็เปลี่ยนไป เยอะ อารมณ์เสียง่ายมาก หงุดหงิดง่ายมาก ชอบตะโกน เอะอะอะไรไม่ลงรอยกันหน่อยก็ขึ้นเสียงใส่ ชักสีหน้าใส่ คนที่ไม่มีทางสู้ โดนเยอะที่สุด ก็น่าจะเป็นหลานเล็กๆของเราสองคนนั่นแหละ เราสงสารหลานมาก แต่หลานก็ถูกพ่อเราเลี้ยงมากที่สุด ก็เลยต้องรองรับอารมณ์พ่อไปโดยตั้งใจ
จะบอกว่าเป็นเพราะว่าวัยทองหรือเปล่า ตอนนั้นเค้า 60 จนถึงตอนนี้ 70 เค้าก็หงุดหงิดง่ายมาตลอด ทำให้ใครๆก็ไม่ค่อยอยากไปสุงสิงกับเขาถ้าไม่จำเป็น
หลานคนโตที่โตหน่อยเริ่มเข้าวัยรุ่น เหมือนกับจะจับจุดนี้ได้ หลานก็เลยหลีกหนีพ่อเราไปโดยปริยาย หนีขึ้นห้องตัวเองไปเล่นเกม
ส่วนหลานคน เล็ก เหมือนกับเป็นเบบี้ของครอบครัว เพราะ พ่อเรายัง ประคบประหงมอยู่ เวลากินข้าวก็ต้องให้พ่อเราป้อนถึงยอมกิน ก็เลยรับเอาแนวคิดของพ่อเรามาเต็มๆ เราก็ได้แต่หวังว่าหลานจะไม่รับเอาอารมณ์ร้ายของพ่อมาด้วย
เราที่เป็นลูกก็พยายามหลีกเลี่ยงการประทะกับพ่อเหมือนกัน โดยถ้าเลี่ยงได้ก็จะไม่พูดด้วยเท่าไหร่ถ้าไม่จำเป็น เพราะพูดด้วยทีไร ก็จะจบลงที่การโต้เถียงกัน โดยที่เราพยายามใช้เหตุผลในการโต้เถียง ขณะที่พ่อเราใช้อารมณ์พูดด้วยความประชดประชัน มันคุยกันไม่รู้เรื่องจริงๆ
อยู่มาวันนึง เราก็เปิดเตาใช้เตาแก๊ส ไฟที่เตาแก๊สติดๆดับๆ ส่งเสียงพั่บๆ เข้าใจว่า แก๊สน่าจะใกล้หมด ไฟเลยออกไม่สม่ำเสมอ ส่งเสียง ประหลาดมาก มันก็คงจะน่ากลัวสำหรับคนที่กลัวเรื่องแก๊สโดยดูแต่ข่าวที่น่าสังเวชใจ
เสียงมันก็ดังแปลกๆจริงๆแหละ ชวนให้น่ากลัวอยู่เหมือนกัน ถ้าคิดว่าเป็นแก๊สนะ แต่ถ้าคิดว่ามันเป็นอย่างอื่น แล้วส่งเสียงแบบนี้ มันจะตลกมากแล้วไม่น่ากลัวเลยสักนิด
เราก็คิดแล้วว่าอาการอย่างนี้มันน่าจะน่าจะเป็นเพราะว่าแก๊สใกล้จะหมด ไฟมันก็ยังออกดีเพียงแต่มีเสียงแปลกๆออกมาด้วยเท่านั้น ก็เสียงพั่บๆ ติดๆดับๆ ของไฟนั่นแหละ
ด้วยเสียงนั้น ก็ทำให้เพราะเรากระตุกขึ้นมาทันที รีบเดินมาดูเพราะกลัวเราจะซุ่มซ่ามทำอะไรไม่เป็นด้วยแหละ
พอมาถึงก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง โวยวายเสียงดังเลย ทำนองว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ เรื่องแบบนี้
โวยวายเสียงดังมากเป็นเรื่องใหญ่โต
เราก็เลยโต้กลับไปว่าเราแค่เปิดแก๊สไม่ได้ทำอะไรเลย เราก็บอกให้พ่อตั้งสติ หน่อย อย่าเพึ่งเอาแต่เอะอะโวยวาย พ่อไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ เราก็ไม่เคยเจอเหมือนกัน ก็ปรึกษากันดีๆ ก็ได้ พูดคุยกันดีๆ ก็ได้ เหตุการณ์มันยังไม่เลวร้าย แต่มันจะเลวร้ายเพราะเสียงเอะอะโวยวายของพ่อนั่นแหละ
เราก็พยายามบอกพ่อให้ตั้งสติอย่าโวยวาย มันไม่ใช่ความผิดของเรา เราแค่เปิดแก๊ส แก๊สมันออกมาอย่างนี้เอง เสียงมันประหลาดเฉยๆ แต่มันไม่มีอะไร อย่าพึ่งโวยวาย ตั้งสติก่อน มีวุฒิภาวะหน่อย เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกกับหลานหน่อย ว่าไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตั้งสติได้เสมอ
เท่านั้นแหละพ่อเราอารมณ์ขึ้นเลยบอกว่า “ ว่าป๊าให้พอเลยนะ”
เพราะพ่อเราเวลาเถียง ใช้เหตุผลสู้ไม่ได้ก็จะพูดประโยคทีเด็ดว่า “ ว่าป๊าให้พอเลยนะ” คงคิดว่าประโยคนี้ถ้าพูดไปแล้วคนฟังจากเงียบ จะเถียงไม่ออก ปิดปากคู่กรณีเลย ปิดเกมได้เลย เราเจอประโยคนี้ปิดปากมาเป็นร้อยครั้งแล้ว เราเบื่อแล้ว
เราคิดได้ว่าทำไมประโยคถึงนี้เป็นประโยคเด็ดของพ่อล่ะ ที่ใช้พูดกลับเวลาใช้เหตุผลเถียงสู้ไม่ได้ ถ้าเจอประโยคนี้ ต้องยอมแพ้งั้นสิ ไม่ล่ะเราไม่ยอมอีกแล้ว ยอมมาเยอะแล้ว แล้วเราตะหงิดๆ ทุกทีว่ามันไม่ถูก แค่พูดประโยคนั้นประโยคเดียว เราต้องยอมศิโรราบไม่เถียงต่อเลยเหรอ ทั้งที่เราเป็นฝ่ายมีเหตุผล
เราเลยพูดกลับไปว่า “พูดอย่างนี้อีกแล้ว พูดแบบนี้มันไม่ช่วยอะไรเลยนะ เรื่องมันไม่จบหรอกถ้าพูดแบบนี้” “
ช่วยมีวุฒิภาวะหน่อย อายุเยอะแล้ว เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกหลานหน่อย อย่าใช้แต่อารมณ์ มีอะไรตั้งสติก่อน แล้วใช้เหตุผลคุยกันดีกว่า”
พอพูดกลับไปแบบนี้ทำให้พ่อเราเงียบลงไปได้ ไม่พูดอะไรต่ คงคิดอะไรมาเถียงไม่ได้ด้วยแหละ
คุณ ผู้อ่านคิดว่ายังไงคะ ถ้าเจอประโยคประมาณว่า “ ว่าป๊าให้พอเลยนะ” คุณผู้อ่าน จะตอบโต้ยังไงดีคะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
