Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สำนักคิด
•
ติดตาม
3 พ.ย. เวลา 04:30 • ประวัติศาสตร์
แจ้งเกิด "เกียงอุย" คนเก่งมักถูกคาดหวังไว้สูง
ขณะที่จกก๊กปิดล้อมเมืองลำอั๋นอยู่นั้น ด้วยชัยภูมิที่เป็นรอง หากทุ่มกำลังเข้าตีเมืองเห็นทีจะได้ชัยลำบาก จูกัดเหลียงจึงคิดอุบายจะไปยึดเมืองฮันเต๋งกับเมืองเทียนซุย ซึ่งเป็นสองเมืองที่อยู่ติดกับเมืองลำอั๋นแทน
.
“ซุยเหลียง” (เจ้าเมืองฮันเต๋ง) ต้องกลอุบายของจูกัดเหลียง รีบยกทัพเข้ามาช่วยจนถูกตีพ่ายเยิบเยิน ทำให้นอกจากได้เมืองฮันเต๋งกับเมืองลำอั๋นแล้ว จูกัดเหลียงยังสามารถจับตัว “แฮหิวหลิม” ซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ของวุยก๊กได้สำเร็จอีกด้วย (ย้อนอ่านตอนที่ 5)
แต่ถึงกระนั้น ทหารที่ให้ถือหนังสือไปเมืองเทียนซุยก็ยังไม่ได้กลับมา จูกัดเหลียงจึงคิดว่าหากรอช้าไปมากกว่านี้ เมืองเทียนซุยอาจมีการป้องกันที่แน่นหนามากขึ้นจนยากแก่การตีแตก จึงสั่งการให้ “เล่าต้าย” อยู่รักษาการเมืองลำอั๋น จากนั้นให้อุยเอี๋ยนคุมทหารกองหน้าล่วงไปก่อน แล้วตนเองจึงยกทหารที่เหลือตามไป
“ม้าจุน” เจ้าเมืองเทียนซุยเมื่อได้รับจดหมายลวงของจูกัดเหลียง ก็หลงเชื่อคิดว่าเป็นจดหมายของแฮหัวหลิม จึงกระวนกระวายใจอย่างหนัก เพราะรู้ดีว่าแฮหัวหลิมเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ของวุยก๊ก หากตนเองนิ่งเฉยไม่ยอมยกกำลังออกไปช่วยเหลือ อาจถูกลงอาญาได้ในภายหลัง จึงจัดทัพหวังออกไปช่วยเหลือแฮหิวหลิมด้วยความเร่งรีบทันที
แต่ในคราวเดียวกัน ขณะที่ม้าจุนกำลังระดมพลอยู่นั้น ได้มีนายทหารหนุ่มผู้หนึ่ง ซึ่งในวรรณกรรมเขียนบรรยายไว้ว่า มีสติปัญญาหลักแหลม ได้ร่ำเรียนวิชาจนชำนาญในกลสงคราม และมีความกตัญญูต่อบิดา-มารดายิ่งหนัก ด้วยเหตุนี้ชาวเมืองทั้งปวงจึงยำเกรงนับถือ
นายทหารผู้นั้นก็คือ “เกียงอุย” (ค.ศ. 202-3 มีนาคม ค.ศ. 264) หรือชื่อในภาษาจีนกลางว่า “เจียง เหวย์”
เกียงอุยได้เข้ามาคัดค้านการจัดทัพของม้าจุน โดยให้ข้อสังเกตว่า
.
“หากจูกัดเหลียงปิดล้อมแฮหัวหลิมที่เมืองลำอั๋นไว้อย่างแน่นหนา เหตุใดจึงยังมีทหารออกมาส่งข่าวได้อีก เห็นทีจะเป็นกลลวงของจูกัดเหลียงที่หวังอยากให้เรายกทหารออกจากเมือง แล้วซุ่มกำลังโจมตีกลางทาง หวังจะยึดเมืองเสียมากกว่า”
ม้าจุนได้ฟังดังนั้นก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน จึงเห็นตรงตามคำตักเตือนของเกียงอุย แล้วจึงปรึกษากับเกียงอุยต่อไปว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
เกียงอุยจึงแนะนำว่า พวกเราควรซ่อนกลจูกัดเหลียง เพราะจูกัดเหลียงคิดว่าทางเมืองเทียนซุยจะต้องยกทหารออกไปช่วยเหลือแฮหัวหลิมเป็นแน่แท้ เกียงอุยจึงขอทหารสามพันคนยกไปดักซุ่มเพื่อสกัดทางจูกัดเหลียงไว้ตามทางน้อยใหญ่ และขอให้ม้าจุนยกทหารออกจากเมืองตามแผนของจูกัดเหลียง แต่ให้ตั้งทัพภายในร้อยห้าสิบเส้นจากเมือง (ราว 6 กิโลเมตร) จากนั้นเมื่อจูกัดเหลียงยกทัพเข้ามา เกียงอุยจะจุดไฟเป็นสัญญาณ แล้วให้ม้าจุนยกกำลังทหารเข้าล้อมจับตัวจูกัดเหลียงไว้โดยไม่ให้ตั้งตัว
ม้าจุนเมื่อได้ฟังแผนการอันแยบยลของเกียงอุยก็เห็นด้วย จึงยกทหารให้เกียงอุยสามพันคนตามคำร้องขอ จากนั้นก็เร่งดำเนินการตามแผนของเกียงอุยทันที
.
ฝ่ายจูล่งที่ได้รับคำบัญชาจากจูกัดเหลียงให้คุมทหารห้าพันคนดักซุ่มอยู่ริมเชิงเขานอกเมืองเทียนซุย เมื่อเห็นม้าจุนยกทัพออกจากเมือง จึงรีบนำทหารตรงเข้าประชิดเมืองเทียนซุยอย่างไม่รอช้า เมื่อไปถึงหน้ากำแพงเมือง จึงตะโกนบอกทหารเมืองเทียนซุยว่า
“พวกทหารเลวทั้งหลาย พวกเองแพ้กลอุบายของเราแล้วรู้หรือไม่ ให้เร่งเปิดประตูแต่โดยดี อย่าให้ทหารทั้งปวงได้รับความลำบาก”
.
พวกทหารได้ยินก็หัวเราะ พลางตะโกนกลับไปว่า “จูล่ง! มึงต่างหากที่แพ้อุบายแก่ท่านเกียงอุยเสียแล้ว”
จากนั้นก็มีไฟลุกโชนขึ้นที่ด้านหลัง และโดยยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็มีทหารโอบล้อมเข้ามาทั้งสี่ด้าน แลปรากฏนายทหารหนุ่มนามว่าเกียงอุยควบม้าเข้ามาพร้อมกับทวนในมือ แล้วเข้ารบพุ่งกับจูล่งผู้เป็นถึงยอดทหารเอกแห่งจกก๊กอย่างไม่เกร่งกลัว
ทั้งสองต่อสู้กันได้เก้าเพลง ม้าจุนก็ยกทหารเข้ามา จูล่งที่บัดนี้แก่ชรามากแล้ว (อายุ 70 ปี) เห็นว่าเกียงอุยผู้นี้นอกจากจะมีสติปัญญาหลักแหลม แล้วยังเป็นผู้มีความสามารถให้การต่อสู้อันพิสดาร จึงได้นำกองทหารตีฝ่าวงล้อมออกมาเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ก่อน
เมื่อกลับมาถึงค่าย จูล่งได้เล่าเหตุการณ์ให้จูกัดเหลียงฟังทุกประการ เมื่อได้ฟังดังนั้นจูกัดเหลียงก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนรู้ทันแผนการของตนเอง แถมคนผู้นั้นเป็นเพียงนายทหารหนุ่มที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม จูกัดเหลียงจึงให้ความสนใจในความสามารถของเกียงอุยเป็นอันมาก ถึงขั้นรีบยกทหารไปที่เมืองเทียนซุยด้วยตนเอง เพื่อหวังจะเห็นด้วยตาเปล่าว่าเกียงอุยมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
ในทางประวัติศาสตร์ แม้ว่าจูกัดเหลียงจะถูกเกียงอุยซ่อนแผน แถมนายทหารเอกอย่างจูล่งก็ถูกอุบายของเกียงอุยโจมตีจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็เป็นเรื่องน่าประหลาด ที่จูกัดเหลียงจะชื่นชมศัตรูอย่างเกียงอุยจนอยากพบกับเกียงอุยด้วยตนเอง
แสดงให้เห็นว่าเกียงอุยได้รับความสนใจจากจูกัดเหลียงเป็นอันมาก เพราะจูกัดเหลียงในเวลานี้ ก็จะลวงเข้าสู่วัยเกือบห้าสิบปีแล้ว ขณะที่เกียงอุยมีอายุราว 26 ปีเท่านั้น แต่กลับมีความสามารถถึงขั้นใช้อุบายซ่อนแผนของจูกัดเหลียงได้ จึงถือได้ว่าเป็นคนเก่งที่ไม่ธรรมดา
อีกทั้งจูกัดเหลียงรู้ดีว่าการจะทำงานใหญ่ให้สำเร็จลุล่วงได้นั้น จำเป็นต้องพึ่งพาผู้มีความสามารถเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะมีคนเก่งอย่างม้าเจกไว้คอยให้คำปรึกษา รวมถึงมีนายทหารฝีมือดีอย่างอุยเอี๋ยนหรือจูล่งไว้คอยใช้งาน แต่การได้เกียงอุยที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ ก็อาจเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของจูกัดเหลียงได้มากทีเดียว
จูกัดเหลียงจึงวางแผนว่าอยากได้เกียงอุยเข้ามาช่วยงานตั้งแต่ที่ได้รับข่าวจากจูล่ง แม้ว่าความจริงเกียงอุยจะอยู่คนละฝ่ายกับตน แถมยังถือได้ว่าเป็นคนมีคุณธรรมสูง ดังนั้นการจะเกลี้ยกล่อมให้เกียงอุยให้เข้ามาสวามิภักดิ์กับฝ่ายจกก๊กนั้น จึงเหมือนความฝันที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้จริง
แต่ด้วยความฉลาดในการพลิกแผลงสถานการณ์ของจูกัดเหลียง ต่อให้ทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาวสักเท่าไหร่ เขาก็สามารถสร้างความได้เปรียบให้ตัวเองได้เสมอ ด้วยเหตุนี้การศึกที่เมืองเทียนซุยจึงเกิดขึ้นเพื่อการคว้าตัวของเกียงอุยให้เข้ามาสวามิภักดิ์กับจกก๊กโดยเฉพาะ
หากเกียงอุยเป็นคนเก่งจริง จูกัดเหลียงก็คิดว่าเป็นการคุ้มที่จะเสี่ยงเพื่อให้ได้ตัวเกียงอุยมาใช้งาน และถ้าหากแผนการสำเร็จตามเป้าหมาย ความหวังที่จะยึดครองวุยก๊กก็ดูจะไม่ไกลเกินจริงเท่าไหร่นัก
.
***โปรดติดตามตอนต่อไป***
จกรุกวุย การศึกคราวจูกัดเหลียงรบสุมาอี้
ตอนที่ 6 แจ้งเกิด “เกียงอุย” คนเก่งมักถูกคาดหวังไว้สูง
ผู้เขียน: ณัฐพงศ์ อินต๊ะริด
.
Refer:
ราชบัณฑิตยสภา. (2471). สามก๊ก .กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนาก
เล่าชวนหัว. (2553).สามก๊กฉบับคนเดินดินเปิดหน้ากากจูกัดเหลียง .กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์เคล็ดไทย
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย