1 พ.ย. เวลา 07:53 • ความคิดเห็น
..ธรรมวิปริต..วิปลาส..สติที่ฟั่นเฟือน.
ถ้าหากเรา เข้าใจ เรื่องราวของคนมีธรรม เค้าก็ไม่มีเรื่องการพูดจา เยี่ยงชนอันธพาล เค้าไม่ไปวุ่นวาย ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ตัวเองเดือดร้อน . เมื่อผู้ที่มีกรรม หลงเข้าใจ เห็นว่าตัวเองดี ว่าตัวเองดีแล้ว หลงอยากมีชื่อเสียง หลงที่มีผู้ยกย่องสรรเสริญ ความหลงใหล ความกักขฬะ ก็ไหลออกมา มันบูดเน่า ของเสีย ขอที่บูดเน่า ขจรกระจายไป ..ให้รู้ว่า ..ของที่บูดเน่าเป็นเยี่ยงนี้เอง .แล้วคนที่ ไปสัมผัส ของเสียของเน่า ..เค้าตื่นเต้นอะไรกัน ตลก งุนงง นี่หรือ ที่ว่า คนตื่นธรรม
2
คนที่เค้ามีธรรม.. เค้าเงียบ อยู่เฉย คงไม่ลุกลี้ลุกลน ไม่วุ่นวาย เรื่องโลก เรื่องโลกธรรม มีแต่จะหนี่ จิตมาดวงเดียว .ถึงเวลา ก็ตัองไปดวงเดียว แคตํวคนเดียวก็ ยังยาก จะหนีพ้นเว้นกรรมอดีตที่เคยทำมา กรรมใหม่ก็สร้างไม่จบไม่สิ้น
2
มีพระองค์หนึ่ง ท่านก็แนะนำ ห้เค้าประพฤติปฏิบัติธรรม เค้าก็ตั่งอกตั้งใจทำ ปฏิบัตดีปฏิบัติชอบ พอถึงกรรมมันตัดรอน ไปสอนผู้อื่น หลงว่าตัวเองดีแล้ว พญามารก็ส่งเสริม ใช้วาจา พูดให้คนเค้านิยมชมชอบ ว่าตัวข้านี่มีธรรม หลงในคำสรรเสริญเยินยอ หลงปัจจัย ที่เค้าบำเรอให้ ก็ใช้วาจานั่น ทำให้ผู้อื่นหลง นี่ข้าพเจ้านี้ มีธรรม .ก็พูดจาเลอะเลือนไป สอนเค้าผิด ..ผิดแนวทางของผู้ที่ีธรรม
..พอจิตนั้นหมดกาย .ท่านก็ตามไปดู ไปดูจิตดวงนั้น ไปตกกรก ..ยืนคาบกองไฟ .ถูกลงโทษ ..เพราะไปใช้วาจา แอบอ้างว่ามีธรรม ..ใช้วาจาให้เค้าหลงใหล ..มันก็จะเป็นเยี่ยงนี้ คือ จิตดวงหนึ่ง ที่ยึดกรรม หลงผิด คิดผิด ..ความวิปริตก็เกิดขึ้น ในตัวตนเอง สิ่งเหล่านี้ มันเกิดขึ้น เค้าเรียกว่า ธรรมวิปริต มากเข้า ..ก็วิปลาสไป
คำว่า วิปริต หมายถึง ความผิดปกติ ในนิสัยเดิมที่ที่เคยใช้ วิปริตไปทั้งดี และไม่ดี บางคนหนุ่มๆก็สวดมนต์ไหว้พระ ตำหนิเพื่อนฝูง ว่ากินเหล้า เที่ยวนั่นเที่ยวนี่ พอแก่ตัว ทำมาหากิน มีเหลือใช้ มีเวลา ก็เพิ่งออกเที่ยว เป็นมากกว่าเพื่อน ที่เคยไปตำหนิเตียนเค้าเสียอีก ที่เค้าว่าต้นตรงปลายคด แหม มันคตตอนปลายนี่ ใครเค้าจะกล้าตักเตือน ก็ไม้มันใกล้ฝั่งแล้วนี่ มันก็เลยหลงลืมตัว ปล่อยกายปล่อยจิตไปตามอารมณ์หลงในตัวตน ปล่อยเรือไปตามน้ำ รอเรือล่ม จิตก็ตกลงสู่ท้องน้ำ พายเรือในน้ำคลำ จิตมันก็ก็ต้องลงไปสู่น้ำคลำ
โฆษณา