Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ณัฐมาคุย
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
1 พ.ย. 2024 เวลา 08:56 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
10 ปีแห่งความล้มเหลว Amazon Alexa
เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี วันนี้ผมจะมาเล่าความผิดหวังของผมให้ฟัง
ในปี 2013 ผมได้ร่วมงานกับทีมๆ หนึ่งใน Amazon ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั้นเค้าตั้งชื่อโปรเจ็คว่า Blueshift และทีมนี้เป็นหนึ่งในทีมที่ใช้บริการ AWS S3 หนักที่สุด อ่านเขียนข้อมูลทั้งหมด ช่วงไหนผมเข้าเวร ผมจะได้ ticket ตลอดว่าทีมนี้ทำให้เกิดปัญหาในรูปแบบต่างๆ
ในช่วงเวลานั้น ผมเคยได้ ticket มากที่สุด 400 tickets ต่อวัน จนเรียกได้ว่า ต้องพยายามแก้ปัญหาจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่แทนที่จะเอาแต่ดับไฟ สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ คือ การแก้ไขปัญหาให้ได้แบบถาวร เพื่อไม่ให้ปัญหากลับมาอีก
สิ่งที่ทำให้ทีมนี้ไม่เหมือนชาวบ้าน คือ ทีมนี้มีข้อมูลเสียงจำนวนมาก และทีมพยายามที่จะใช้ machine learning pipeline ที่สร้างขึ้นเอง มาพยายามเรียนรู้เสียง เพื่อที่จะทำ voice recognition และ text to speech แต่ตอนแรก project นี้เป็นความลับอย่างมาก ไม่มีใครรู้ว่ามันจะถูกเอาไปใช้ทำอะไร ซึ่งมันจะอ่านข้อมูลแบบเรียงลำดับ ในปริมาณที่มาก และพร้อมๆ กัน ซึ่งในตอนนั้นเป็นจุดอ่อนของ S3 ผมจึงได้ใช้เวลาแก้ไขจุดอ่อนนี้ให้มันสามารถทำงานได้ดีขึ้น
จนในที่สุด ระบบสามารถรองรับปริมาณ request ต่อเครื่องได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัว และลด P99 latency ไปได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง จึงทำให้ปัญหาเกิดขึ้นกับทีมนี้น้อยลงมาก และทีมสามารถทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย
จนในปี 2014 ด้วยความที่ผมบริการแบบสุดใจให้กับทีมนี้ ทางทีมเลยชวนผมไปเป็น pilot user ในโปรเจ็คลับสุดยอด พอเซ็นสัญญา NDA เสร็จ ผมก็ได้ Amazon Echo รุ่นทดลองกลับบ้าน เงื่อนไขเขาคือให้เล่นที่บ้านได้อย่างเดียว ห้ามพูด ห้ามคุย ห้ามอวด ห้ามโชว์ ทำผิดถึงกับไล่ออกเลย ผมเลยได้รู้ว่า Amazon กำลังเข้าสู่ตลาดใหม่ที่น่าสนใจมากๆ
ตอนนั้นในตลาด ก็มี Siri ของ Apple อยู่แล้ว แต่หลังจาก Apple ซื้อมา ทีมเก่าก็ลาออกหมด เลยไม่ค่อยมีทีมพัฒนาความสามารถ ในตอนนั้น Amazon Echo มีความสามารถที่ไม่แพ้กันเลย แต่แทนที่จะคุยอะไรก็ได้เหมือนยุค Gen AI ตอนนั้น มันใช้หลักการที่เรียกว่า skill คือ กำหนด keyword อะไรบางอย่าง ให้มัน trigger workflow พิเศษในการตอบคำถาม ซึ่งทำได้ดีเลย
พอเปิดตัวออกมาช่วงก่อน Thanksgiving คนก็ตื่นเต้นกัน ทำให้ของขายดีมากๆ จนทางทีมต้องสั่งมาให้ช่วยระวังด้วย ช่วงวัน Boxing Day (26 ธันวาคม) อาจจะมีคนใช้มาก เราก็เลยต้องช่วงลุ้นกันไปด้วย
ต่อมา Charlie Kindel ผู้บริหารจาก Microsoft ได้ย้ายมาลีดทีมนี้ ซึ่งผมชอบคนนี้มากๆ ตามอ่าน blog เค้ามาก่อน พอเขามา เขาซึ่งเป็นคนชอบเรื่อง gadget ต่างๆ อยู่แล้ว ก็เล่าแผนการว่า จะขยายความสามารถของ Alexa ไปควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน เพราะตอนนั้นเป็นยุค smart device พอดี เขายังโชว์ว่าบ้านเขามีอุปกรณ์ smart device มากกว่า 400 ชิ้นเลยทีเดียว และเขาสามารถควบคุมได้ตั้งแต่เครื่องเสียง หลอดไฟ ผ้าม่าน แอร์ พัดลม เป็นต้น
และอีกอย่างคือ มีการเปิด SDK ทำให้ใครก็สามารถเสริม skill ใหม่ๆ ให้ Alexa ได้ ส่วนผู้ผลิต smart device ก็สามารถ join อุปกรณ์ของตนให้สามารถถูกสั่งการผ่าน Alexa ได้ ทางทีมจึงมีการขยายทีมใหญ่โต และเอาเพื่อนๆ ผมหลายคนไปอยู่ด้วย
ในที่สุด Alexa ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ขายดี แต่ก็มีการลงทุนหนักมากๆ อยู่ไม่นานมาก Kindel ก็ประกาศลาออกไปทำอย่างอื่น คนใหม่เข้ามาก็ยังใช้เงินจำนวนมาก ในการเข็นความสามารถใหม่ๆ ออกมา
10 ปีผ่านไป อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ Alexa ขายไปได้แบบน่าประทับใจ รวมทั้งหมดมากกว่า 500 ล้านชิ้น แต่การที่ Amazon ให้บริการกับอุปกรณ์เหล่านี้แบบไม่ได้คิดค่าบริการรายเดือน ทำให้ต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการ maintain บริการดังกล่าวเอง และต้นทุนเหล่านี้ไม่ถูกเลย จนบริษัทเคยคิดว่าอาจจะเก็บค่าใช้จ่ายเดือนละ 10 เหรียญสหรัฐกับผู้ใช้ แต่จนวันนี้ก็ยังไม่ได้ทำอะไรมาก
ทั้งนี้ตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดเดากันคือ ในระหว่างปี 2017-2021 Amazon อาจจะขาดทุนกับ Alexa รวมกันมากถึง 25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในปี 2022 ปีเดียวอาจจะขาดทุนมากถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
จนในเดือนพฤศจิกายน 2023 ทางผู้บริหารของ Amazon เริ่มหมดความเชื่อมั่นกับ Amazon Alexa จึงได้ตัดสินใจไล่พนักงานในทีมนี้ออกหลายร้อยคน ส่วน Dave Limp SVP ผู้นำของทีมนี้ก็ได้ประกาศลาออก เพื่อที่จะไปรับตำแหน่ง CEO ของ Blue Origin ที่เป็นคู่แข่งกับ SpaceX ของ Elon Musk แทน
และล่าสุด Alexa ถูกแซง LLM ใหม่ๆ ตอบคำถามอะไรได้มากกว่า และทำอะไรได้มากกว่ามาก จน Amazon เองก็หันมามาลงทุนทางนี้บ้าง และอยากจะทดลอง LLM ของตัวเอง หรือไม่ก็ integrate เข้ากับ Claude AI ของ Antropic ที่บริษัทไปมีความสัมพันธ์เอาไว้ แต่ก็ยังไม่ได้ลงสักที ส่วน head ของ Alexa ก็ประกาศ retire ไป และยังหาหัวหน้าใหม่กันอยู่ จึงทำให้ในตอนนี้อนาคตของ Alexa ดูมืดหม่น และถ้าไม่รีบปรับตัว ทีมนี้อาจจะถูกยุบก็ได้
จึงทำให้คนที่เชียร์ทีมนี้แอบเสียใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกันครับ
3 บันทึก
13
3
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย