2 พ.ย. เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์

🪔 ประวัติศาสตร์ “ดีวาลี” เทศกาลแห่งแสงของอินเดีย ที่สร้างยอดเงินสะพัดกว่าล้านล้านรูปี

เมื่อช่วงสัปดาห์นี้ที่คลองโอ่งอ่างก็เพิ่งจัดงานเทศกาลสำคัญอีกเทศกาลหนึ่งของอินเดียอย่างเทศกาล “ดิวาลี” ไปหมาด ๆ (พรุ่งนี้วันสุดท้าย) ซึ่งปีนี้นับว่าเป็นปีที่ 3 ที่ภาครัฐได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานส่วนนี้ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายอย่างการพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ตลอดจนเป็นการกระซับความสัมพันธ์กับชาวไทยเชื้อสายอินเดียที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของคลองโอ่งอ่าง-พาหุรัดด้วย ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถไปเที่ยวชมได้
แน่นอนว่าถ้าเราพูดถึงเทศกาลของอินเดียที่พอจะเป็นภาพจำของผู้คนส่วนใหญ่ บางคนอาจจะนึกถึงเทศกาลสาดสีอย่างโฮลี หรือไม่ก็เทศกาลแห่งแสงสว่างอย่างดิวาลีกันแน่ ๆ โดยในส่วนของดิวาลีที่กำลังจัดขึ้นอยู่ในสัปดาห์นี้ก็นับว่าเป็นหนึ่งเทศกาลใหญ่ที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจต่าง ๆ ในอินเดียได้เป็นหลักล้านล้านรูปีอินเดียเลยทีเดียว ดิวาลีสำคัญอย่างไร? วันนี้ Bnomics จะพาไปหาคำตอบกัน
⭐ ประวัติศาสตร์ของ ดิวาลี
ดิวาลี หรือ ทีปาวลี เชื่อกันว่าเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่เก่าแก่อีกเทศกาลหนึ่ง ซึ่งสันนิษฐานกันว่าน่าจะพัฒนามาจากเทศกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรในอินเดียโบราณ โดยปรากฏชื่อในคัมภีร์สันสกฤตเก่า ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัทมาปุราณะ หรือสกัณฑะปุราณะก็ตาม โดยในสกัณฑะปุราณะนี้มีการระบุถึงโคมประทีปในทีปาวลีด้วย ซึ่งคัมภีร์ทั้งสองนี้เขียนขึ้นราวช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7
1
นอกเหนือจากหลักฐานของการมีจุดประทีปในสกัณฑะปุราณะแล้ว ในบันทึกอื่น ๆ ที่เก่าไปกว่านั้นก็มีเหมือนกัน โดยปรากฏการกล่าวถึงดิวาลีในรามายณะด้วย แต่ทั้งนี้ดิวาลีในรามายณะนั้นปรากฏมาตั้งแต่ยุคที่ฤๅษีวาลมิกิรจนาขึ้น หรือเป็นการตีความเพิ่มขึ้นมาในยุคหลังนี้ก็ยากที่จะทราบได้เหมือนกัน ดิวาลียังคงปรากฏชื่ออยู่ในจารึกและเอกสารตัวเขียนเรื่อยมา เช่นในจารึกที่วัดรังคนาถที่กำหนดอายุได้ในช่วงศตวรรษที่ 13 ซึ่งนักภารตวิทยาชาวเยอรมันอย่างคีลฮอร์นได้ถ่ายถอดเอาไว้
⭐ ดิวาลีกับพระวิษณุและพระแม่ลักษณมี
ดิวาลีถูกผูกติดกับศาสนาฮินดู ด้วยความที่ว่าไปปรากฏอยู่ในรามายณะในฐานะของวันที่พระรามกับนางสีดาเสด็จกลับคืนสู่อโยธยาหลังจากปราบทศกัณฐ์ได้ ทำให้พระรามหรือพระวิษณุ กับนางสีดาหรือพระแม่ลักษมี ถูกนำมาเกี่ยวโยงกับดิวาลี ซึ่งนอกจากในรามายณะแล้ว ดิวาลีก็ยังไปปรากฏอยู่ในรื่องของพระกฤษณะด้วย โดยถือกันว่าป็นวันที่พระกฤษณะปราบนรกาสูรได้สำเร็จ นอกจากนี้ตามจารึกวัดรังคนาถก็ยังมีระบุชัดเจนว่ามีการบูชาพระวิษณุกับพระแม่ลักษมีในวันนี้ ดังความว่า
“กษัตริย์ผู้รู้พระเวทจะเฉลิมฉลอง ณ ที่แห่งพระวิษณุซึ่งมีองค์พระลักษมีผู้สุกสกาวประทับอยู่บนพระเพลาแห่งพระองค์”
ปกติแล้วเทศกาลดิวาลีจะฉลองกันอยู่ที่ประมาณ 5 วันในเดือนกรรติกาของอินเดีย (ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) โดยในแต่ละวันก็จะบูชาต่างกันไป ดังนี้
วันแรก วันธนเตรัส เป็นวันบูชาพระธันวันตริ เทพแห่งอายุรเวทหนึ่งในอวตารของพระวิษณุ ในวันนี้คนอินเดียจะทำความสะอาดบ้านและซื้อของใหม่ ๆ เข้าบ้าน
วันที่สอง วันนรกจตุรทศี เป็ยวันฉลองชัยที่พระกฤษณะและพระนางสัตยาภามามีอยู่เหนือนรกาสูร
วันที่สาม วันดิวาลี เป็นวันบูชาพระแม่ลักษมี
วันที่สี่ วันโควรรธนะบูชา เป็นวันบูชาเขาโควรรธนะและรำลึกถึงเหตุการณ์ที่พระกฤษณะยกเขาโควรรณนะด้วยนิ้วก้อย
วันที่สุดท้าย วันยมทวีตียา เป็นวันที่พระยมมาหาพระนางยมุนาผู้เป็นน้องสาว อีกทั้งยังเป็นวันบูชาพระวิศวกรรมด้วย
⭐เพราะเป็นมากกว่าเทศกาลของฮินดู
ถึงแม้ว่าจะเป็นเทศกาลที่ผูกติดกับฮินดู แต่ในหลาย ๆ ศาสนาที่อยู่ในอินเดียก็มีการรับเอาดิวาลีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้วยเหมือนกัน เช่น
1
ในศาสนาเชน มีการถือเอาดิวาลีเป็นวันที่พระมหาวีระปรินิพพานด้วย ซึ่งก็มีพิธีการจุดประทีปเหมือนกันกับทางฮินดู เพียงแค่ว่าเป็นการจุดบูชาพระมหาวีระแทน
ในทางของศาสนาซิกข์ ก็นับเอาดิวาลีเป็นวันที่ระลึกถึงการปล่อยตัวคุรุหรโคพินท์ออกจากคุกที่ป้อมกวาลิเออร์ในจักรวรรดิโมกุล และเป็นวันที่คุรุหรโคพินท์เดินทางกลับมาถึงอมฤตสาร์พอดี ซึ่งในปัจจุบันชาวซิกส์ถือเทศกาลดิวาลีเป็นวันสำคัญ 3 ประการคือเป็นวันที่ตั้งเมืองอมฤตสาร์, วันที่คุรุหรโคพินท์ถูกปล่อยตัว, และเป็นวันมรณสักขีของภัย มณี ซิงห์ ผู้ถูกสังหารเพราะฉลองดิวาลีและไม่ยอมเปลี่ยนไปนับถืออิสลาม
ในทางพุทธในอินเดียเองก็ฉลองดิวาลีเหมือนกัน โดยพบในนิกายมหายานที่ซึ่งสามารถไหว้เทพได้โดยเฉพาะในเนปาล ซึ่งพวกเขาก็บูชาพระวิษณุและพระแม่ลักษมีเหมือนกันกับชาวฮินดู
⭐ ดิวาลีกับเศรษฐกิจอินเดีย
ดิวาลีก็เหมือนปีใหม่ ด้วยความที่เป็นเทศกาลใหญ่และมีประชากรเป็นจำนวนมาก ก็ย่อมทำให้ยอดการจับจ่ายใช้สอยในเทศกาลอีวาลีพุ่งขึ้นไปตาม ๆ กัน โดยเมื่อปี 2023 ก็สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการทั่วทั้งอินเดียเป็นเม็ดเงินมหาศาลกว่า 3.75 ล้านล้านรูปีเลยทีเดียว
1
สินค้าส่วนใหญ่ที่ชาวอินเดียจับจ่ายใช้สอยในช่วงดิวาลีนี้ ในปี 2023 จากผลสำรวจของ Market Brew โดย บริษัท TATA ก็ได้ให้ข้อมูลว่าสินคาอันดับหนึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยอื่น ๆ ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า พาหนะ และสินค้าบริการอื่น ๆ ในขณะที่อันดับสองเป็นสินค้าประเภทอาหาร และอันดับสามเป็นเสื้อผ้า เหมือนกันกับเทศกาลปีใหม่ของไทย เพราะว่าในอินเดียนั้นจะมีการจ่ายโบนัสให้กับพนักงานในช่วงเทศกาลดิวาลีนี่เอง
สำหรับในปีนี้ มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจของเทศกาลดิวาลีจะสูงขึ้นกว่าปีก่อน โดยคาดการณ์กันว่าจะสูงถึง 4.75 ล้านล้านรูปีเลยทีเดียว
#Bnomics #ดิวาลี #อินเดีย
โฆษณา