2 พ.ย. เวลา 03:41 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เรื่องเล่าสำหรับนักลงทุนที่ชอบปีนกำแพงเมืองจีน :

คนที่คอยบ่น คือคนที่รอความพ่ายแพ้
ชาวจีนท่านหนึ่ง
บางครั้งพอเราอยู่ไทยมาตั้งแต่เกิด ก็เผลอลืมคิดไปว่า หลักคิดของคนประเทศอื่น เค้าก็คงเหมือนๆ กับเรา พอไปลงทุนที่จีน ก็คิดว่าเค้าคิดเหมือนเรา… เจ๊งครับ…
.
ผมเคยทำงานอยู่ที่จีน (อาศัยอยู่ที่นั่นเลย) ผมพบว่ามีหลายเรื่องที่คนจีนทำและผมประหลาดใจมาก แต่ผมจะขอยกมาเพียงหนึ่งเรื่อง ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุน มาเล่าในบทความนี้ครับ
.
คนที่คอยบ่น คือคนที่รอความพ่ายแพ้
.
หลายครั้งมาก ที่ผมเห็นรัฐบาลจีน ออกกฎหมายระดับ “ทำลายล้างธุรกิจและลูกจ้าง” มาในชั่วข้ามคืน
.
มีอยู่ครั้งหนึ่ง รัฐบาลอยากจะลดมลพิษและทำให้จีนเข้ามาตรฐานโลก เลยประกาศมาตรฐานใหม่ ของระดับความยาวของรถบรรทุก มีผลทันที วันรุ่งขึ้น!!! และที่ร้ายกว่านั้นคือ “รถบรรทุกเกือบครึ่งประเทศไม่ผ่านมาตรฐานนี้ครับ”.... นั่นหมายความว่า เพียงชั่วข้ามคืน รถบรรทุกครึ่งประเทศกลายเป็นรถผิดกฎหมาย ใช้การไม่ได้ และขายก็คงไม่มีคนเอา
.
เมื่อผมรู้ดังนั้น ผมแอบคิดในใจว่า…
“สงสัยพรุ่งนี้ ต้องมีการประท้วงใหญ่ จนต้องกลับมาทำประชามติแน่ๆ”
.
ผิดคาดครับ…
.
วันรุ่งขึ้น เงียบกริบ ไม่มีใครประท้วงอะไรเลย ทุกคนอยู่ในห้องประชุมเพื่อหาทางออก และ ทุกบริษัทพยายามหาทางออกที่ดำเนินการได้ภายในวันนั้นเลย ไม่ว่าจะต้องลงทุนเท่าไหร่ก็ตาม
.
พอผมเห็นดังนั้น ผมประหลาดใจมาก แต่ก็เนียนๆ ประชุมตามพวกเค้าไป
.
จนเมื่อเรื่องสงบลง ชาวจีนก็สังสรรค์ชนแก้วตามประสาชาวยุทธ ผมเลยได้มีโอกาส Deep talk กับพวกเค้าซักหน่อย
.
ผมเลยถามพวกเค้าว่า “ทำไมถึงไม่มีใครประท้วงอะไรเลย ทั้งๆ ที่หลายคนและหลายบริษัท แทบจะล้มละลายชั่วข้ามคืน จากมาตรการใหม่นี้”
.
พวกเค้าตอบผมว่า “ถ้าเราเสียเวลาบ่น เราจะเป็นผู้แพ้ เพราะในเวลาที่เราบ่นนั้น มีคนกำลังวิ่งหาทางออกอยู่ และพวกเค้าไม่เชื่อว่าการบ่นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ คือทางออก”
.
หันมาอีกด้านหนึ่ง ผมเจอผู้บริหารของบริษัท Logistics รายใหญ่เบอร์หนึ่งของจีน ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ด้วยความสงสัย ผมเลยถามพวกเค้าว่า “บริษัทของคุณมีรัฐบาลเป็นเจ้าของ น่าจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบใช่มั้ย เพราะน่าจะพอรู้มาก่อน หรืออย่างน้อยก็น่าจะพอคุยกันได้”
.
ผู้บริหารท่านนั้นตอบผมว่า “คุณลองดูจำนวน Fleet Truck ของเราสิ เกินกว่าครึ่งเป็นรถที่ผิดกฎหมายไปแล้ว และบริษัทเรากำลังจะไม่มีรถเพียงพอในงานขนส่งงานพรุ่งนี้ที่รับไว้ล่วงหน้า และต้องขาดรายได้มหาศาล… เรื่องนี้คงยืนยันได้แล้วว่า เราเองก็เพิ่งรู้พร้อมทุกคน และเราจะไม่เสียเวลามานั่งบ่น เพราะคนที่บ่นคือคนที่รอความพ่ายแพ้”
.
แปลกมาก!! ถามหลายคน แต่ดันตอบเหมือนกันหมดเลย วนกลับมาเรื่อง “คนที่คอยบ่น คือคนที่รอความพ่ายแพ้” เหมือนเป็นสุภาษิตจีน อะไรซักอย่าง
.
ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมเลยถามผู้บริหารท่านนั้นต่อว่า “แล้วที่คุยกันในที่ประชุมว่า จะทำการปรับแต่งรถบรรทุกที่ยาวไม่เกินมาตรฐาน ให้ขนส่งได้มากขึ้น เพื่อรองรับลูกค้า โดยต้องลงทุนมหาศาล คุณไม่กังวลหรอ ว่ามันจะคุ้มค่ามั้ย และคุณจะมีสภาพคล่องพอหรือเปล่า”
.
ผู้บริหารท่านนั้นตอบผมว่า “อย่างแรกเลย ผมไม่กังวลเรื่องสภาพคล่อง เพราะบริษัทเตรียมเงินไว้สำหรับเหตุการณ์แบบนี้อยู่เสมอ นั่นเป็นเรื่องที่เราทำ และคู่แข่งของเราก็น่าจะทำเช่นกัน เพราะมันเกิดขึ้นเป็นปกติ อย่างที่สอง มันไม่มีอะไรจะขาดทุนไปกว่าการเสียลูกค้าไปให้กับคู่แข่ง ถ้าเราไม่ทำ เราจะเสียความไว้วางใจจากลูกค้า เพราะลูกค้าจะมองว่าเราเป็นบริษัทที่จัดการกับวิกฤตไม่ได้ และเราจะแพ้ในระยะยาว”
.
.
.
เรื่องนี้ให้มุมมองหลายอย่างกับผมในมุมของการลงทุนครับ
.
อย่างแรก คนจีนเป็น Fighter อย่างแท้จริง และน่าจะเป็นจริงอย่างที่เค้าว่า ถ้าคอยมานั่งเสียเวลาบ่น น่าจะเป็นผู้แพ้ในธุรกิจ
.
อย่างที่สอง Black Swan ที่เกิดจากการเปลี่ยนกฎหมาย อาจจะทำให้คนต่างชาติอย่างเราตื่นเต้น และกลัว แต่สำหรับพวกเค้ามันเหมือนพระจันทร์ครับ ที่จะมามอบความมืดมิดให้เราในทุกค่ำคืน ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ แต่มาแน่นอน เพราะฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไร แค่ต้องเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า
.
อย่างสุดท้าย คนจีนเค้าคงเติบโตมากับตำราสามก๊ก เค้ามองเกมยาวจริงๆ ยอมแพ้ศึกได้ เพื่อชนะสงคราม ยอมเสียเงินทุนสำรองได้ แต่จะไม่ยอมเสียลูกค้า
.
.
.
แล้วคุณล่ะครับ เห็นประเด็นอะไรจากเรื่องเล่านี้บ้าง ? มาแชร์ให้ฟังในคอมเม้นหน่อยนะครับ ผมอยากฟัง
.
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณนะครับ
#Salarymanติดปีก #มาลงทุนหุ้นแข็งแกร่งกันครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃
หากคุณเป็นนักลงทุน ที่ทำควบคู่งานประจำ หรือชอบเนื้อหาของ Salaryman ติดปีก
ฝากกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
และจะได้ไม่พลาดเนื้อหาใหม่ๆ ของเรา
▃▃▃▃▃▃▃▃
โฆษณา