2 พ.ย. เวลา 05:19 • เกม

มารู้จักกับWarframe:จากนักรบสู่ผู้พิทักษ์ Warframe: เกมที่ถามถึงความหมายของการมีชีวิตและพลังในตนเอง

ต้องขออภัยอย่างยิ่งด้วยเพราะเมื่อบทความก่อนมีคนเข้ามาติงลุงบาโร ว่า"warframe มันคืออะไรอะ ทำไมไม่เอาหัวข้อนี้ขึ้นก่อน" ในบทความนี้ ลุงบาโรเลยจะมาเล่าให้ทุกคนฟังนะ เอ้าพร้อมแล้วล้อมวงกันเข้ามานะทุกคน!!!
What is Warframe?
Warframe เป็นเกมที่คุณจะได้เล่นเป็นนักรบโบราณ Tenno ที่ถูกปลุกขึ้นจากการหลับใหลยาวนาน (ถึงขั้นที่ถ้าเป็นคนจริงๆ ป่านนี้ฟันคงขึ้นสนิมไปแล้ว) พอคุณตื่นขึ้นมา ก็พบว่าโลกนี้ไม่ได้มีแต่แสงสีสวยงาม แต่ยังเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่อยากจะฟันคุณให้ขาดเป็นชิ้นๆ ไม่ว่าจะเป็น Grineer เหล่านักรบโคลนกล้ามโต, Corpus กลุ่มทุนนิยมสุดโต่งที่ลืมไปแล้วว่า "ความพอดี" มีอยู่จริง หรือจะเป็น Infested ที่ทำให้รู้ว่าการรักษาระยะห่างเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ!
ทีมงาน DEในงานTennocon
ในเกมนี้ คุณไม่ใช่แค่นักรบธรรมดา แต่คือผู้ที่ควบคุม Warframe เกราะชีวภาพที่ทรงพลัง แต่ละชุด Warframe มีความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนกับว่า จิตวิญญาณของคุณถูกถักทอเข้ากับพลังนั้นๆ ซึ่งทำให้เราเริ่มถามว่า "แล้วเราคือใครกันแน่?" Warframe หรือ Tenno? หรือเป็นเพียงจิตวิญญาณลึกลับที่ถูกผลักดันให้ปกป้องโลกใบนี้?
เกมนี้ชวนให้นึกถึงปรัชญาชีวิตเหมือนกันนะครับ ขณะที่เรากำลังยุ่งอยู่กับการโจมตีเหล่าศัตรูและไขปริศนาในจักรวาล เราก็อาจจะได้ถามตัวเองว่า "ชีวิตของเรามีเพื่ออะไร?" จะเพื่อการต่อสู้, การเอาชนะ หรือจะเพื่อค้นหาความหมายที่ซ่อนอยู่ในระหว่างทาง เราเป็นเหมือน Tenno ที่สวมชุดเกราะต่อสู้เรื่อยไปโดยไม่หยุดพัก ราวกับว่าความสำเร็จอยู่ตรงหน้า แต่บางทีก็อาจไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อคุณเล่น Warframe ไปเรื่อยๆ จะเริ่มเข้าใจว่า การต่อสู้อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต และการมีพลังอาจเป็นแค่เปลือกที่ห่อหุ้มสิ่งที่เราตามหาจริงๆ เช่นเดียวกับที่ Tenno ต้องการหาคำตอบของการมีตัวตน เกมนี้ชวนให้เรากลับมาสำรวจตัวเองว่า เป้าหมายที่แท้จริงของเราคืออะไร และพลังนั้นจะนำไปสู่ความหมายที่แท้จริงได้หรือไม่
จากไอเดียบ้าๆ บอๆ สู่เกมนินจาอวกาศที่ครองใจชาว Tenno!
วันหนึ่งในห้องประชุมเล็กๆ ของบริษัท Digital Extremes ในแคนาดา ซึ่งในตอนนั้นสตูดิโอกำลังมองหาไอเดียเกมใหม่ที่แหวกแนวและโดดเด่นไม่เหมือนใคร ทีมพัฒนาคงนั่งประชุมกันแล้วแบบว่า "เราจะสร้างเกมแบบไหนที่จะโดนใจคนเล่น จนต้องทุ่มเทเวลาเข้าไปเป็นร้อยชั่วโมงกันดี?"
ถึงจุดนี้มีคนหนึ่งในทีมอาจจะพูดลอยๆ ขึ้นว่า "ทำไมเราไม่ทำเกมนินจาอวกาศไปเลยล่ะ?" แล้วทุกคนในห้องก็หันไปมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ผสมทั้ง "บ้าแล้วเหรอ?" และ "เดี๋ยวนะ… นี่มันเจ๋งอยู่!"
Dark sector เกมส์ที่ลงในเครื่องPS1 อันเป็นต้นแบบWarframe
และนั่นทำให้นักรบโบราณกับเกราะชีวภาพสุดล้ำในจักรวาลอวกาศ ก็ค่อยๆ เริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย พวกเขาได้แรงบันดาลใจมาจากโปรเจกต์เก่าที่เคยพัฒนาไว้ คือเกมชื่อ Dark Sector ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะเป็นเกมที่เน้นความดิบเถื่อน แต่กลับกลายมาเป็นแนวไซไฟ-นินจาที่ล้ำสมัยยิ่งกว่าเดิม แล้วที่สำคัญมันยังมี พลังพิเศษ! ใช่แล้ว ทีมพัฒนาน่าจะนั่งปรึกษากันแล้วบอกว่า "เราจะไม่ทำแค่เกมแอคชั่นธรรมดา แต่จะทำให้ตัวละครแต่ละตัวมีความสามารถสุดบ้าคลั่งเหมือนตัวละครในมังงะ"
จาก "แค่โปรเจกต์เล็กๆ" กลายเป็นจักรวาลใหญ่โต
ในช่วงแรก Warframe เป็นโปรเจกต์เล็กๆ ที่ไม่ได้มีงบประมาณมหาศาล เพราะทีมงานคิดว่าคงไม่มีใครจะชอบเกมแนวนี้ แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้ "ถ้าจะล้มเหลว ก็ขอให้ล้มเหลวอย่างมีสไตล์" พวกเขาเริ่มจากการเปิดตัวเกมในรูปแบบ free-to-play เพื่อให้คนได้ลองเล่นฟรี ทีมงานรู้สึกว่า ถ้าผู้เล่นได้สัมผัสกับการกระโดดข้ามกำแพง ยิงเลเซอร์ แล้วก็แปลงร่างเป็นสัตว์แปลกๆ ที่ฟาดหัวศัตรูได้ คนจะติดใจแน่นอน
สิ่งที่ทำให้ Warframe แตกต่าง
ระหว่างที่เกมพัฒนาไปเรื่อยๆ ทีมงานของ Digital Extremes ก็เพิ่มเนื้อหาที่ลึกซึ้งและซับซ้อนขึ้น เรื่องราวของเหล่า Tenno ที่แท้จริงถูกเปิดเผยทีละน้อย ไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ยังมีการสำรวจจิตวิญญาณ ความเป็นมนุษย์ และความสัมพันธ์อันซับซ้อนของตัวละครหลักในจักรวาล ทีมพัฒนาอาจคิดว่า "เราจะไม่ปล่อยให้เกมเป็นแค่เกมแอคชั่นธรรมดา เราจะใส่ Lore ที่ทำให้คนคิดหนักจนปวดหัว" ซึ่งผู้เล่นบางคนถึงกับต้องนั่งดู Lore หลายรอบเพื่อทำความเข้าใจว่าตัวเองเป็นใครในจักรวาลนี้
นอกจากนี้ พวกเขายังใส่ความกวนๆ เข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครพูดคุยแซวกันเอง ขณะกำลังยิงศัตรูหรือแม้แต่ระบบแชทในเกมที่ทำให้ผู้เล่นสามารถส่งมุกตลกให้กันได้ Warframe ไม่เพียงแต่เน้นการต่อสู้ แต่ยังเน้นความเป็นชุมชน และทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลนี้
ทีมงาน Digital Extremes ไม่หยุดแค่นั้น
หลังจากที่ Warframe เปิดตัวและได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ทีมงานก็ได้ทุ่มเทพัฒนาต่อไปไม่หยุด พวกเขาอัปเดตเนื้อหาใหม่เสมอ เพิ่มดาวเคราะห์ใหม่ ศัตรูใหม่ พันธมิตรใหม่ และด่านใหม่ จนทำให้ผู้เล่นทุกคนต้องบอกว่า "โอเค ไม่เคยเบื่อเลย!"และหากคุณพลาดเกมนี้ไปเป็นเดือนแล้วกลับมาเล่นอีกคุณคงได้มีคำถามในหัวแน่ว่า"นี่มันเกมส์เดิมที่เคยเล่นจริงเหรอ?"
ทุกวันนี้ Warframe กลายเป็นเกมที่มีเนื้อหามหาศาล ราวกับเป็นมหากาพย์ที่ไม่สิ้นสุด ผู้เล่นหลายคนบอกว่า "นี่เป็นเกมเดียวที่ให้ทั้งความสนุก ความท้าทาย และปรัชญาชีวิตในหนึ่งเดียว" เพราะทุกครั้งที่คุณลงสนาม คุณไม่เพียงแค่เป็นนักรบ แต่ยังเป็น Tenno ที่ต้องเผชิญกับคำถามในใจว่า "ฉันเกิดมาเพื่ออะไร?"
เหล่าwarframe ไล่จากซ้ายไปขวา Rhino,Loki, Excalibur,Mag,Ivara
Warframe: นักรบเด็กผู้เป็นอมตะและค้นหาตัวตนบนซากปรักของจักรวาล
Warframe นั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวของการต่อสู้ การหักหลัง และเทคโนโลยีที่ล้ำยุค ซึ่งบางทีก็ทำให้เรานึกสงสัยว่าใครกันนะที่คิดค้นจักรวาลสุดลึกล้ำนี้!
จุดเริ่มต้นแห่งยุค Orokin
ชายชาวOrokinที่เหล่าTennoเกลียดมากที่สุดBallad
ย้อนกลับไปในยุคทองอันหรูหราของ Orokin Empire อาณาจักรที่น่าจะได้รับรางวัล “การใช้ทองคำอย่างสิ้นเปลืองที่สุด” พวก Orokin ไม่ใช่แค่ผู้ปกครองจักรวาล แต่ยังเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิตสุดล้ำ ทั้งสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต เช่น Warframe และเทคโนโลยีที่เรียกว่า Kuva
ด้วยเทคโนโลยีระดับเทพ Orokin ได้สร้างสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “ความเป็นอมตะ” ทว่า พวกเขาเองก็กลับตกเป็นเหยื่อของอำนาจและความโลภ Orokin ต้องการผู้รับใช้ที่ภักดีและแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นที่มาของการสร้าง Tenno แต่ว่า Tenno ไม่ได้มาเพียงเพื่อจะเป็นทาสในโลกนี้…
การปรากฏตัวของ Sentients: ฝันร้ายของ Orokin
sentiens
แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น Orokin ได้สร้างสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า Sentients เพื่อทำหน้าที่สำรวจดวงดาวและสร้างสะพานสู่โลกใหม่ แต่เผ่าพันธุ์ Sentients กลับเริ่มเรียนรู้และพัฒนาจนถึงขั้นที่พวกเขาไม่ต้องการรับใช้ Orokin อีกต่อไป พวกเขาหันกลับมาทำลายล้างและเริ่มต้น สงครามแห่ง Sentient อย่างเต็มรูปแบบ
การหักหลังของ Sentients นี่เองที่ทำให้ Orokin ต้องหาวิธีสร้างกองกำลังใหม่ที่สามารถรับมือกับพวกมันได้ จนกระทั่งมีการค้นพบพลังอันลึกลับของเด็กๆ ผู้มีพลังที่สามารถเชื่อมโยงกับ Warframe ได้ หรือที่เรารู้จักกันในนาม “Tenno”
กำเนิดของ Tenno และ Warframe
Tenno ไม่ใช่แค่เด็กที่มีพลังวิเศษ แต่เป็นนักรบที่สามารถควบคุม Warframe ได้ด้วยพลัง Transference เทคโนโลยีการเชื่อมต่อจิตสำนึกกับหุ่นรบเหล่านี้ทำให้ Tenno กลายเป็นกองกำลังสุดโหดที่ Orokin ต้องการ
แต่ก็อย่าลืมว่า ความจงรักภักดีของ Tenno นั้นไม่ได้ถูกผูกมัดตลอดกาล ในที่สุด Tenno ก็กลับมาต่อสู้กับ Orokin จนถึงขั้นทำลายอาณาจักรของพวกเขาไป ผู้ปกครอง Orokin ต่างล้มตาย สิ่งที่หลงเหลืออยู่จึงมีเพียงเทคโนโลยีและซากปรักหักพังที่กระจัดกระจายไปทั่วจักรวาล
การฟื้นคืนชีพของศัตรูเก่า: Grineer, Corpus และ Infested
Grineer,Corpusและ Infested
แม้ Orokin จะล่มสลายไป แต่เศษซากอารยธรรมและเทคโนโลยีกลับไปอยู่ในมือของกลุ่มใหม่ๆ ทั้ง Grineer กลุ่มนักรบโคลนที่บ้าพลังและรักการทำสงครามจนแทบจะเรียกได้ว่าติดแคร์บล็อกของจักรวาล, Corpus ผู้หลงใหลในการสะสมทรัพย์สมบัติและความโลภที่มากกว่าความจำเป็น และ Infested เหล่าปรสิตชีวะที่ดูเหมือนจะมีความเชื่อว่า "ถ้าเจาะตัวเองมากพอ จะมีพลังพิเศษได้"
นี่คือยุคที่ Tenno ต้องกลับมาปกป้องจักรวาลอีกครั้ง จากเหล่าศัตรูที่ไม่เพียงแต่แปลกประหลาด แต่ยังเต็มไปด้วยการหักหลัง การช่วงชิง และการทำลายล้างจนไม่มีสิ่งใดปลอดภัย
ยุคแห่งการตื่นรู้: New War และ Duviri Paradox
New warและ Duviri Paradox
ด้วยการฟื้นคืนชีพของ Sentients นำโดย Hunhow และ Natah หรือ The Lotus อดีตผู้นำ Tenno ที่แปรพักตร์ New War จึงเริ่มต้นขึ้น มันไม่ใช่แค่การต่อสู้ทั่วไป แต่เป็นการเปิดเผยความลับในอดีตที่ลึกซึ้งไปถึงจิตใจของทุกคน Tenno ได้ค้นพบว่าตนเองเป็นมากกว่าแค่เด็กผู้มีพลัง แต่ว่าพวกเขาคือสิ่งที่อาจเป็นความหวังสุดท้ายของจักรวาล
Margulis,Lotus,NatahและBalladที่กลายเป็นNarmerปรากฏในThe new war
ต่อมาในช่วงของ Duviri Paradox เป็นการเปิดมิติใหม่ให้ผู้เล่นได้สัมผัสโลกที่บิดเบี้ยว ซึ่งเป็นเสมือนจิตใต้สำนึกของจักรวาล Warframe ที่ไม่มีสิ่งใดเหมือนเดิม ทุกอย่างถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยความซับซ้อนของกาลเวลา เหตุการณ์นี้เผยให้เห็นถึงความซับซ้อนทางจิตวิญญาณและทำให้เราสัมผัสถึงความหมายของการเดินทางที่ Tenno ต้องเผชิญ
Dominus Threx ราชาผู้ปกครองใน Duviri
จุดพลิกผันในการมาถึงของ" 1999": การย้อนอดีตที่ไม่เคยถูกบันทึก
เมื่อมาถึงแพตช์ 1999 ทุกอย่างก็กลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง เมื่อ Tenno ได้รับโอกาสในการย้อนกลับไปยังอดีตของโลกในช่วงปี 1999 ช่วงเวลาที่เทคโนโลยียังเป็นเพียงความฝันและ Tenno ได้เห็นโลกในมุมมองที่แตกต่าง พวกเขาได้พบกับมนุษย์ผู้เป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่ง แม้จะไม่ได้มีพลังพิเศษ แต่กลับมีความรัก ความปรารถนา และความฝันที่เป็นรากฐานของจักรวาล Warframe ทั้งหมด
warframe1999 กับ Albrecht Entrati ที่ยิ้มสวยกว่าปกติ
ในขณะที่ Tenno ได้สำรวจอดีต พวกเขาได้เรียนรู้ว่าแท้จริงแล้ว จิตใจและความหวังเป็นสิ่งที่สร้างพลังให้พวกเขา แม้เทคโนโลยีจะทำให้ Tenno แข็งแกร่ง แต่มนุษย์กลับทำให้พวกเขาเป็น “มนุษย์” มากขึ้น นี่คือมุมที่แฝงด้วยความลึกซึ้งและเป็นบทสรุปที่ชวนให้ขบคิดถึงคุณค่าของสิ่งที่ทำให้ Tenno และจักรวาล Warframe มีอยู่จริง
จากจุดเริ่มต้นของอาณาจักร Orokin สู่การกลับมาของ Sentients และการค้นพบตัวตนผ่าน Duviri Paradox และการย้อนกลับสู่จุดเริ่มต้นในแพตช์ 1999 Warframe ได้พิสูจน์ว่า จักรวาลนี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อชัยชนะ แต่เป็นการค้นหาความหมายในทุกการก้าวเดินและการเปลี่ยนแปลง แม้เทคโนโลยีและอำนาจจะทำให้ Tenno เป็นนักรบที่แข็งแกร่ง แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาเป็นมนุษย์ ก็คือความรู้สึกและจิตใจที่ลึกซึ้ง ที่ไม่ว่าจะย้อนกลับไปในอดีตหรือต่อสู้ในปัจจุบัน จิตวิญญาณของพวกเขาจะยังคงเดินทางไปพร้อมกับความหวังและความหมาย
ในจักรวาลที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและการหักหลังนี้ การเดินทางของ Tenno ไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้เพื่อปกป้องจักรวาล แต่ยังเป็นการค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ในฐานะนักรบที่ถูกสร้างขึ้นจากความทะเยอทะยานและเทคโนโลยีที่ล้ำยุค ในขณะที่พวกเขาต่อสู้กับ Sentients, Grineer และ Corpus เหมือนการเล่นเกมที่เราต้องต่อสู้กับบอสที่ยากที่สุดในชีวิตจริงที่มีระดับความยุ่งเหยิงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่ต้องเรียกร้องให้ “พัก” ในช่วงการต่อสู้!
แต่แท้จริงแล้ว เมื่อเราย้อนกลับไปดูในประวัติศาสตร์อันยาวนานนี้ เราจะพบว่า สิ่งที่ Tenno ต่อสู้นั้นไม่ใช่เพียงแค่สงครามและความขัดแย้ง หากแต่เป็นการต่อสู้เพื่อรักษาสิ่งที่เรียกว่า “มนุษยธรรม” ซึ่งบางครั้งอาจดูเหมือนการปกป้องบ้านที่มีแต่การปรับปรุงและการซ่อมแซมแบบชั่วคราว เหมือนเมื่อเราต้องต่อสู้กับฝุ่นที่เกาะอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์
อย่างไรก็ตาม การค้นพบตัวตนในระหว่างการต่อสู้เหล่านี้กลับทำให้ Tenno ตระหนักถึงคุณค่าของความสัมพันธ์และความหวังที่เป็นเหมือนกาวที่ยึดเหนี่ยวทุกสิ่งไว้ด้วยกัน แม้จะอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่พวกเขายังคงหาทางที่จะเชื่อมโยงกับกันและกันได้ เพราะในที่สุดแล้ว ความหวังคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่รอด ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร
ดังนั้น ในขณะที่เรามองไปยังอนาคตของ Warframe เราอาจจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และแน่นอนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการไม่ลืมที่จะหัวเราะในระหว่างการต่อสู้ เพราะถ้าเราไม่สามารถทำให้การต่อสู้เป็นเรื่องสนุกได้ เราก็อาจจะต้องกลับไปทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์นั่นอีกครั้ง!
ในท้ายที่สุด ความหมายที่สำคัญที่สุดในจักรวาล Warframe คือ “การเดินทาง” มันไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อชัยชนะ แต่เป็นการค้นหาความหมายในตัวเราเอง การเดินทางของ Tenno จะยังคงดำเนินต่อไป เพราะความหวังนั้นไม่เคยตาย แม้จะมีการต่อสู้และการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่สิ่งที่ Tenno มีคือจิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยความหมายที่ไม่มีวันสิ้นสุด
คุณคิดเห็นอย่างไรกับอนาคตของ Tenno?
ในขณะที่เราติดตามการเดินทางของ Tenno ในจักรวาล Warframe มีคำถามหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในใจเราเสมอ: “แล้วอนาคตของ Tenno จะเป็นอย่างไร?” แน่นอนว่า การต่อสู้กับ Sentients และการเผชิญหน้ากับ Grineer อาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในเกมที่ยากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายนี้ คุณคิดว่า Tenno จะสามารถค้นพบความหมายที่แท้จริงของชีวิตได้หรือไม่?
คุณเคยลองนึกภาพว่า ถ้า Tenno สามารถนั่งจิบชาใต้ต้นไม้ใน Duviri ได้ ชีวิตจะสงบสุขแค่ไหน? หรือว่าในที่สุด Tenno จะสามารถจัดปาร์ตี้เล็กๆ ร่วมกับ Grineer และ Corpus เพื่อค้นหาความเข้าใจใหม่ๆ ระหว่างกัน? อาจจะมีเพลงฮิตในวงการใหม่ที่ชื่อว่า "สงครามปาร์ตี้" เกิดขึ้นก็ได้!
แล้วถ้าคุณต้องเลือกเป็น Tenno สักคน คุณจะเลือกพลังไหน? จะเป็นแบบที่วิ่งไปที่ศัตรูแล้วกระโดดข้ามไปมาด้วยความหวังว่า “อาจจะมีคนเห็นและตะโกนว่า ‘เจ๋งมาก!’” หรือจะเป็นแบบที่นั่งอยู่ในมุมสงบ ใช้ชีวิตแบบ Zen เพราะรู้ดีว่าชัยชนะในสงครามไม่สำคัญเท่ากับความสงบในใจ?
สุดท้ายนี้ ขอถามคุณ: คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการต่อสู้ของ Tenno กับความเป็นจริง? และหากคุณสามารถเขียนบทใหม่ในประวัติศาสตร์ของ Warframe ได้ คุณจะเขียนให้ Tenno ทำอะไร? ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาความรักในใจกลางสงครามหรือการหาวิธีใหม่ๆ ในการสร้างมิตรภาพกับศัตรู คุณคิดว่าอนาคตของ Tenno ควรเป็นอย่างไร?
เพราะสุดท้ายแล้ว ในโลกที่เต็มไปด้วยสงครามและการต่อสู้ ความคิดและความหวังของเราอาจจะเป็นพลังที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งให้ดีขึ้น!
โฆษณา