2 พ.ย. เวลา 09:56 • ครอบครัว & เด็ก

บาดแผลจากการ "ลดทอนคุณค่า" : เมื่อ "หน้าตา" สำคัญกว่า "หัวใจ" ของลูก

บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกเข้าไปใน "โลกภายใน" ของเด็กที่ถูก "ลดทอนคุณค่า" ต่อหน้าญาติพี่น้อง เพื่อ "รักษาหน้าตา" ของพ่อแม่ พร้อมวิเคราะห์ "ผลกระทบ" ต่อจิตใจ และนำเสนอแนวทางเยียวยา ผ่านมุมมองจิตวิทยาเชิงวิเคราะห์ เพื่อสร้าง "ความสัมพันธ์" ที่ "มั่นคง" และ "เติมเต็ม" ให้กับลูก
"หน้าตา" vs. "หัวใจ"
พ่อแม่ทุกคน "รัก" และ "หวังดี" กับลูก แต่บางครั้ง "ความต้องการ" ที่จะ "รักษาหน้าตา" ในสังคม อาจทำให้พ่อแม่ "ละเลย" ความรู้สึกของลูกโดยไม่รู้ตัว
การที่พ่อแม่ "เลือก" ที่จะ "ตำหนิ" หรือ "ลดทอนคุณค่า" ของลูกต่อหน้าญาติพี่น้อง เพื่อ "สร้างภาพลักษณ์" ที่ดีให้กับตนเอง อาจทำให้เด็กรู้สึก "ไม่ปลอดภัย" "ไม่เป็นที่รัก" และ "ขาดความมั่นใจ" ในตนเอง
• Donald Winnicott อธิบายถึงความสำคัญของ "Holding Environment" หรือ "สภาพแวดล้อมที่มั่นคงทางใจ" ในการพัฒนา "ตัวตน" (Self) ของเด็ก การที่พ่อแม่ "ไม่ปกป้อง" ลูก หรือ "ทำให้" ลูกรู้สึก "อับอาย" ต่อหน้าผู้อื่น อาจ "ทำลาย" ความรู้สึกปลอดภัย และ "บั่นทอน" ความมั่นใจในตนเองของเด็ก
• John Bowlby เสนอทฤษฎี "Attachment Theory" ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของ "ความสัมพันธ์" ที่ "มั่นคง" และ "ปลอดภัย" ระหว่าง "พ่อแม่" และ "ลูก" ในการพัฒนา "บุคลิกภาพ" และ "สุขภาพจิต" การที่พ่อแม่ "ไม่" แสดง "ความรัก" หรือ "ความภาคภูมิใจ" ในตัวลูก อาจทำให้เด็ก "รู้สึก" "ไม่มั่นคง" และ "ขาดความเชื่อมั่น" ใน "ความสัมพันธ์"
ตัวอย่างสถานการณ์
• ลูก "ตั้งใจ" แสดงความสามารถพิเศษ แต่พ่อแม่ "ดุ" ว่า "อย่าโชว์ออฟ" ต่อหน้าญาติ
• ลูก "ทำ" อาหารอร่อยๆ มาให้ญาติชิม แต่พ่อแม่ "บ่น" ว่า "ทำเลอะเทอะ"
• ลูก "ได้" รับรางวัล แต่พ่อแม่ "ไม่" แสดงความยินดี "กลับ" ตำหนิ ที่ "เสื้อผ้า" ลูก "ไม่เรียบร้อย"
ผลกระทบต่อพัฒนาการ
• ด้านอารมณ์: เด็กอาจ "รู้สึก" "อับอาย" "โกรธ" "เสียใจ" "น้อยใจ" และ "ไม่เป็นที่รัก"
• ด้านพฤติกรรม: เด็กอาจ "เก็บตัว" "ไม่กล้าแสดงออก" "ก้าวร้าว" หรือ "ต่อต้าน"
• ด้านสังคม: เด็กอาจ "ไม่" ไว้วางใจ "ไม่" กล้า "เข้าหา" ผู้อื่น และ "มีปัญหา" ในการสร้างสัมพันธภาพ
แนวทางเยียวยา
• "ตระหนัก" ถึง "คุณค่า" ของลูก: พ่อแม่ควร "เห็นคุณค่า" และ "ภาคภูมิใจ" ในตัวลูก "ไม่ว่า" ลูกจะเป็นอย่างไร
• "ปกป้อง" และ "สนับสนุน" ลูก: "แสดง" ออกถึง "ความรัก" และ "ความเชื่อมั่น" ในตัวลูก "ต่อหน้า" ผู้อื่น
• "สื่อสาร" อย่าง "สร้างสรรค์": หากลูก "ทำผิด" ควร "ตักเตือน" เป็นการส่วนตัว โดยใช้ "เหตุผล" และ "ความเข้าใจ"
• "สร้าง" ความทรงจำที่ดีร่วมกัน: "ใช้เวลา" ทำกิจกรรม "ร่วมกัน" ในครอบครัว เพื่อ "เสริมสร้าง" ความสัมพันธ์
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
• Winnicott, D. W. (1965). The maturational processes and the facilitating environment: Studies in the theory of emotional development. International Universities Press.
• Bowlby, J. (1988). A secure base: Parent-child attachment and healthy human development. Basic Books.
• Kohut, H. (1971). The analysis of the self: A systematic approach to the psychoanalytic treatment of narcissistic personality disorders. International Universities Press.
โฆษณา