Peacham หมู่บ้านเล็กสวยน่ารัก พร้อมความทรงจำดีดีจากครอบครัวชาวอเมริกัน (Fall foliage EP.7)
เช้าวันนี้ เราเตรียมอาหารเช้าทานเองแบบง่ายง่าย และอร่อย นอกจากนั้นยังเตรียมเผื่อเป็นอาหารกลางวันไปทานริมทะเลสาบ ซึ่งหาอาหารทานได้ยาก
ผลไม้น่าทาน และราคาถูก
อากาศวันนี้หนาวเล็กน้อย 5-10 องศาเซลเซียส เมฆค่อนข้างมากและมีฝนปรอยปรอยเป็นบางช่วงเวลาด้วย
ถือว่าสภาพภูมิอากาศ สู้เมื่อสองสามวันที่ผ่านมาไม่ได้ เราจึงปรับแผนการเดินทาง ไปชมวิวทิวทัศน์ที่พึ่งแสงแดดน้อยหน่อยก็ได้
คือจะขึ้นเหนือไปเกือบติดชายแดนแคนาดา เพื่อแวะชมทะเลสาบ ซึ่งไม่จำเป็นต้องอาศัยแสงแดดที่จัดจ้านเหมือนการชมใบไม้ที่ผ่านมา
โรงแรมที่เราพัก
โดยเราออกจากโรงแรม Mountain View Grand Resort ซึ่งเป็นโรงแรมที่สวยงามมาก ตั้งอยู่ในบริเวณภูเขาซึ่งเป็นเขตผู้ดีเก่าอังกฤษ จึงมีสภาพโรงแรมและการตกแต่งที่ล้อมาจากอังกฤษเมืองแม่
วิวทิวทัศน์ในถนนสายรอง
เราขับรถขึ้นเหนือ ออกจากรัฐ New Hampshire เข้าสู่รัฐ Vermont สองข้างทางมีใบไม้เปลี่ยนสีเป็นจำนวนมากและเริ่มมีการร่วงไปบ้างเล็กน้อย และเริ่มร่วงมากขึ้น เมื่อเราขึ้นเหนือมากขึ้นเรื่อยเรื่อย
ตามความรู้ที่ทราบคือ ใบไม้ทางเหนือจะเปลี่ยนสีและร่วงไปก่อนใบไม้ทางใต้
ซุปเปอร์มาร์เก็ตน่ารัก
ในระหว่างทาง เราเห็นซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กของชาวบ้าน สวยสดงดงาม จึงไม่พลาดที่เราจะต้องจอด และแวะลงไปชื่นชมเป็นปกติวิสัย
เมื่อเราถึงทะเลสาบเป้าหมายคือ Willoughby Lake ซึ่งเกิดจากธารน้ำแข็งในยุคหลายหมื่นปีก่อน ทำให้รูปพรรณสัณฐานของทะเลสาบจะเป็นรูปยาวแบบนิ้วมือ
เนื่องจากฐานน้ำแข็ง ดันเซาะพื้นดินมาตามร่องของภูเขา มีความกว้างเพียง 1.6 กิโลเมตร แต่ยาวมากถึง 8 กิโลเมตร วิวต้องถือว่าสวยใช้ได้
ต้นไม้สองข้างทางเปลี่ยนสี และร่วงไปบ้าง สวยสู้สองวันก่อนไม่ได้ แต่ก็ก็ยังถือว่าสวยมาก
เราจอดรถริมทะเลสาบ ซึ่งเป็นมุมที่เห็นท้องทะเลสาบสวยด้วยหมอกและฝนละอองเล็กๆ มีฉากหลังเป็นภูเขาที่มีต้นไม้หลายสีสัน
ทานอาหารในรถ SUV
ด้วยเหตุที่อากาศหนาวประมาณ 5 องศาเซลเซียส เราจึงตัดสินใจทานอาหารกลางวันกันในรถเอสยูวีที่กว้างขวาง โดยใช้พื้นที่ภายในรถยนต์เป็นห้องอาหารกลางวัน
เริ่มด้วยฮอทดอกที่ใส่ทั้งหมูหยองและน้ำสลัดงา ทำให้รสชาติดีขึ้นมาก มีมัฟฟินสามเบอร์รี่ มีสตอเบอรี่ลูกใหญ่แดงสด รวมทั้ง BlackBerry และแอปเปิ้ลลูกใหญ่น่าทานมาก
เมื่อจบอาหารกลางวันที่อร่อยและมีประโยชน์ในวิวหลักล้านแล้ว เราก็ขับรถ ขยับต่อไปทางด้านบนของทะเลสาบ พบทั้งนกนางนวล และวิวของทะเลสาบที่สวยงามน่าประทับใจ
วิวแสนสวย
หลังจากนั้นจึงออกเดินทางลงใต้ ไปยังเมือง Peacham ซึ่งจะมีโบสถ์สไตล์นิวอิงแลนด์ ลักษณะสีขาว มียอดแหลมมาก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์พิเศษของภูมิภาคนี้
เราจำภาพโบสถ์ที่สวยงาม ขาวสะอาดตา และโดดเด่นมาก มีมุมที่ถ่ายจากที่สูงลงมาเห็นโบสถ์อย่างชัดเจนพร้อมกับโรงนาด้วย
เราขับรถมามาถึงหน้าโบสถ์และเก็บภาพไว้เรียบร้อยในระยะใกล้
หลังจากนั้น ก็พยายามขับรถหามุมหรือจุดถ่ายภาพที่จะถ่ายภาพให้สวยแบบที่เห็นในโพสต์การ์ดและสื่อต่างๆ
ภาพจากนอกบ้านมาร์กาเร็ต
ในที่สุด เราก็พบมุมที่พอจะถ่ายได้ แต่เป็นบ้านซึ่งมีรั้วคือเป็นที่ดินส่วนบุคคล จึงได้แต่พยายามเก็บภาพให้ดีที่สุด สวยที่สุดเท่าที่จะทำได้
รั้วบ้าน
ทั้งเดินไปถ่ายจากเนินดินของฟากถนนด้านหนึ่ง กับพยายามถ่ายจากขอบรั้วไม้ชนบทของบ้านดังกล่าวด้วย
ในระหว่างที่กำลังถ่ายอยู่นั่นเอง ก็มีหญิงอเมริกันผิวขาวสูงอายุ ได้ร้องตะโกนออกมาจากในบ้านว่า
“ เข้ามาถ่ายรูปในบริเวณบ้านได้เลย เข้ามาถ่ายรูปเลย จะได้ภาพชัดชัด ”
ผู้เขียนก็ตะโกนถามไปว่า “ ให้เข้าไปถ่ายในเขตบริเวณบ้านเลยเหรอครับ ”
เธอตอบว่า “ ใช่ เข้ามาได้เลย เอารถเข้ามาจอดด้วยก็ได้ ”
เราจึงกลับมาที่รถด้วยความดีใจระคนแปลกใจ แบบไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็ขับรถเข้าไปในบริเวณบ้านของเธอ ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า มาร์กาเร็ต และสามีชื่อบรูซ
ในระหว่างที่เรากำลังเก็บภาพสวยงามของโบสถ์และโรงนาที่คู่กัน โดยภาพนั้นจะอยู่ในหุบเขา ส่วนผู้เขียนจะอยู่บนเนินเขาหรือบริเวณหลังบ้านของคุณมาร์กาเร็ตนั่นเอง
มุมภาพนี้คือ มุมที่ปรากฏในโพสต์การ์ดนั่นเอง สุนัขของมาร์กาเร็ตก็มีความเป็นกันเองและขี้เล่นอย่างยิ่ง ก็ลงมาร่วมถ่ายภาพด้วย อย่างน่ารักน่าเอ็นดูมาก
เราได้ภาพจำนวนมากจากโลเคชั่นนี้หลังจากนั้น มาร์กาเร็ตก็ออกมาจากบ้านมาบอกว่า พรุ่งนี้อาจมีหิมะตกบนยอดเขาเม้าท์วอชิงตันด้วยนะ ซึ่งเป็นยอดสูงที่สุดของ NewEngland
แล้วก็บอกให้เราถ่ายภาพได้ตามสบายไม่ต้องรีบ แต่เธอกับสามีจะต้องแวะไปธุระหาเพื่อนบ้านใกล้ใกล้ เธอบอกว่าถ่ายได้นานตามใจชอบ ไม่ต้องรีบร้อนอะไร
นอกจากนั้นยังมีต้นแอปเปิ้ล นอกจากต้นเมเปิ้ลสีเหลืองสีส้มสดใสแล้ว เธอได้ชี้ให้ดูต้นไม้ที่ยังคงมีใบเขียวจี แล้วเราพบว่ามันคือต้นแอปเปิ้ลจริงๆด้วย
มีแอปเปิ้ลเป็นจำนวนนับหลายสิบลูกและมีหล่นที่พื้นด้วย
เธอบอกว่าให้เก็บแอปเปิ้ลจากต้นทานได้ตามสบายเลย ใจดีสุดๆ
ตอนที่เราคุยทักทายกัน จึงทำให้ทราบว่าสองสามีภรรยาเคยไปเมืองไทยมาแล้ว โดยไปทำฟัน เพราะค่าทำฟันที่สหรัฐฯแพงมากๆ
ด้วยความที่ผู้เขียนและหมอติ้งเป็นแพทย์ จึงได้แนะนำตัว และบอกว่าเรามีเพื่อนซึ่งเป็นอาจารย์หมอฟันที่เก่งมากๆและพอดีมีความชำนาญเรื่องการทำครอบฟันตามที่บรูซต้องการพอดี
ตกลงสามีภรรยาคู่นี้ ก็เลยเชื้อเชิญให้เราทั้งสองคนเข้าไปไปนั่งพูดคุยกันในบ้านของเธอเลย
และทราบเพิ่มเติมว่ามาร์กาเร็ตเป็นที่ปรึกษาทางการศึกษา เคยมาบรรยายให้กับโรงเรียนนานาชาติในประเทศประเทศไทย ส่วนสามีก็เป็นครูเช่นกันแต่เกษียณอายุแล้ว
ได้แลกเปลี่ยนอีเมลกัน เพื่อที่จะนัดแนะการไปทำฟันที่ประเทศไทยในปีหน้า
โดยผู้เขียนได้เชื้อเชิญให้ทั้งสองคนเมื่อมาทำฟันที่ประเทศไทย ให้แวะมาทานอาหารเย็นที่บ้านได้ด้วย ท่าทางทั้งสองคนดีใจมาก
ตกลงวันนี้ก็นับเป็นวันโชคดีอีกวันนึง แม้ไม่มีแดดและมีฝนโปรยปรายตอนไปทะเลสาบ แต่พอตอนบ่ายมีแดดออกดีมาก
และเราได้ถ่ายภาพในจุดที่สวยงามมากของเมือง Peacham โดยความใจดี ความเป็นกันเองและน่ารักของครอบครัวอเมริกัน แห่งรัฐ Vermont
ซึ่งสร้างความทรงจำดีดี ให้เกิดกับผู้เขียน ซึ่งเป็นความประทับใจและมีความสุขอย่างมาก ของการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์และขับรถเอง
การเดินทางท่องเที่ยวจึงไม่ใช่เพียงแค่การรีบไป รีบมา เร่งถ่ายรูปให้ครบตามจุดที่ถูกกำหนดไว้ เร่งทานอาหารตามร้านที่ถูกกำหนดไว้
หากแต่ถ้ามีโอกาส น่าจะพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนที่อยู่ในท้องถิ่น แวะจุดเล็กจุดน้อย มีจุดมีมุมที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน เป็นโบสถ์ เป็นร้านค้าเกษตร หรือตลาดชุมชน
การขับรถตามถนนสายรอง ที่การจราจรน้อย สามารถลงมาแวะถ่ายรูปตามจุดที่เป็นธรรมชาติสวยงาม จึงเป็นความชอบที่ผู้เขียนเน้นเป็นพิเศษ
ทริปทำนองนี้ จะสร้างความทรงจำที่ดี และก่อให้เกิดความสุขมาก
ในครั้งนี้ ก็เป็นความทรงจำที่ประทับใจโดยมีสองสามีชาวอเมริกันให้ความเอื้อเฟื้อ และคาดว่าปีหน้าจะได้พบกันในประเทศไทยต่อไป
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
