แยกขยะกันทำไม
การแยกประเภทขยะก่อนทิ้งเป็นสิ่งสำคัญเพราะ:
1. ลดปริมาณขยะที่ไปสู่หลุมฝังกลบ: การแยกประเภทขยะช่วยให้สามารถนำขยะบางส่วนไปรีไซเคิลหรือทำปุ๋ยหมักได้ ลดปริมาณขยะที่จะไปฝังกลบหรือเผาทำลาย ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการย่อยสลายของขยะ
2. ส่งเสริมการรีไซเคิล: ขยะที่ถูกแยกประเภทจะทำให้การรีไซเคิลมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้จะไม่ปนเปื้อนด้วยขยะประเภทอื่น
3. ลดมลพิษ: การแยกประเภทขยะช่วยลดการปนเปื้อนของสารเคมีหรือสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อขยะผสมปะปนกัน เช่น ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีสารอันตราย
4. ช่วยสร้างงานและธุรกิจ: การจัดการขยะที่ถูกต้องเปิดโอกาสให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิลและการผลิตใหม่สามารถเจริญเติบโตได้ รวมถึงสร้างงานให้กับผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้
5. ปกป้องสิ่งแวดล้อม: การแยกขยะช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ โดยสามารถนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาผลิตใหม่ ช่วยลดการตัดไม้ การขุดเจาะ และการผลิตวัตถุดิบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ
การแยกขยะจึงเป็นวิธีหนึ่งที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนได้.
การแยกขยะควรแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้:
1. ขยะทั่วไป (ขยะที่ย่อยสลายไม่ได้): เช่น โฟม, ถุงพลาสติกที่สกปรก, ซองขนม ฯลฯ ขยะประเภทนี้ไม่สามารถรีไซเคิลได้ ควรนำไปทิ้งในถังขยะทั่วไป
2. ขยะรีไซเคิล: เช่น ขวดพลาสติก, กระดาษ, กระป๋องอลูมิเนียม, แก้ว, โลหะ ขยะเหล่านี้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ควรทำความสะอาดก่อนทิ้ง
3. ขยะอินทรีย์ (ขยะเปียก): เช่น เศษอาหาร, เปลือกผลไม้, เศษผัก ขยะประเภทนี้สามารถนำไปทำปุ๋ยหมักหรือใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
4. ขยะอันตราย: เช่น ถ่านไฟฉาย, หลอดไฟ, สารเคมี, แบตเตอรี่ ขยะประเภทนี้มีสารที่อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ควรทิ้งในจุดรับขยะอันตรายที่มีการจัดการอย่างเหมาะสม
5. ขยะอิเล็กทรอนิกส์: เช่น โทรศัพท์มือถือเก่า, สายไฟ, คอมพิวเตอร์ ขยะเหล่านี้มีวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ แต่ต้องนำไปทิ้งในจุดรับขยะอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะ
การแยกขยะให้ถูกต้องช่วยให้สามารถจัดการกับขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมการรีไซเคิล ช่วยลดมลพิษและการใช้ทรัพยากรใหม่.
ขยะบางประเภทสามารถนำไปขายหรือแลกเป็นเงินได้ โดยขยะกลุ่มที่มักได้เงินคืนกลับมาคือ:
1. ขยะรีไซเคิล: ขยะที่มีมูลค่าและสามารถขายได้ เช่น
กระดาษ: หนังสือพิมพ์, กล่องกระดาษ, กระดาษแข็ง
ขวดพลาสติก: ขวดน้ำดื่ม PET, ขวดน้ำอัดลม
กระป๋องอลูมิเนียม: กระป๋องเครื่องดื่ม เช่น กระป๋องน้ำอัดลม, กระป๋องเบียร์
โลหะ: เศษเหล็ก, อลูมิเนียม, ทองแดง
2. ขวดแก้ว: ขวดเบียร์, ขวดน้ำอัดลมที่เป็นแก้ว สามารถขายให้กับร้านรับซื้อขยะหรือสถานที่รีไซเคิลได้
3. ขยะอิเล็กทรอนิกส์: เช่น โทรศัพท์มือถือเก่า, คอมพิวเตอร์, สายไฟ บางสถานที่หรือศูนย์รีไซเคิลมีการรับซื้อขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดึงวัสดุที่มีค่า เช่น ทองแดงและโลหะอื่น ๆ
การนำขยะเหล่านี้ไปขายหรือนำไปแลกเป็นเงินนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะในสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้เสริมได้อีกด้วย ควรตรวจสอบร้านรับซื้อขยะในพื้นที่หรือสถานที่รับรีไซเคิลที่สามารถรับซื้อได้.
ไม่เทรวม ขยะ ช่วย กทม.
ช่วยกันรณรงค์
📣 ขอชวนทุกคนร่วมกันไม่เทรวม หลัง กทม. ขึ้นค่าเก็บขยะจาก 20 บาทต่อเดือน เป็น 60 บาท ❗️ แต่ถ้าบ้านไหนแยกขยะ เก็บ 20 บาทเหมือนเดิม 🗑
🚮 ร่วมกันแยกขยะง่าย ๆ โดยระบุข้อความบนถุงขยะ เพื่อความสะดวกในการคัดแยก 🚮
👉🏼 ขยะทั่วไป เช่น
ถุงพลาสติกเปื้อนอาหาร
ซองบะหมี่ ถุงขนม
กล่องโฟม
ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
👉🏼 ขยะเศษอาหาร เช่น
เศษผักผลไม้
เศษอาหาร
เศษเนื้อสัตว์
👉🏼 ขยะรีไซเคิล เช่น
กระดาษ
พลาสติก
แก้ว
โลหะ
👉🏼 ขยะอันตราย เช่น
หลอดไฟ
แบตเตอรี่
ถ่านไฟฉาย
ยาหมดอายุ
กระป๋องสเปรย์
ขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ
🤜🏻 *ย้ำ !!! รถขยะ กทม. ไม่เทรวมแล้วจริง ๆ นะ* 🤛🏻
#ไม่เทรวม #สิ่งแวดล้อมดี
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก กทม. และ Chat GPT มากๆ ครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
