7 พ.ย. เวลา 00:00 • หนังสือ

ชั่วยามที่เรามีชีวิต ก็ใช้ชีวิต

บางครั้งขณะเดินหรือนอนอยู่บนเตียง ผมจินตนาการว่าพื้นดินที่ผมเหยียบหรือเตียงที่ผมกำลังนอนอยู่ค่อย ๆ หายไป แผ่นดินหายไปทีละชั้น ลึกลงไปเรื่อย ๆ จนผมสามารถมองเห็นใจกลางโลกที่ร้อนระอุ แล้วใจกลางโลกก็สลายตัวตามไป อีกซีกโลกหนึ่งหายไปเช่นกัน ในที่สุดโลกทั้งใบก็อันตรธานไป เหลือผมคนเดียวยืนกลางดาราจักร รอบตัวผมคือมวลดาวจำนวนมหาศาล
4
แม้นี่เป็นภาพจินตนาการ แต่มันจะเป็นภาพที่เกิดขึ้นจริงในอนาคตอันไกลแสนไกล เมื่อสิ่งมีชีวิตบนโลก สรรพสิ่งบนโลก และตัวโลกเองสูญสลายไปตามกฎของธรรมชาติ หายไปทั้งหมดทั้งสิ้น
มองในมุมนี้ ทุกชีวิต ทุกสิ่ง ทุกเรื่องของโลกนี้เป็นเพียงฉากสั้น ๆ ฉากหนึ่งในละครแห่งจักรวาล เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวในชานเมืองดาราจักรทางช้างเผือก จากบรรดาดาราจักรนับหลายแสนล้านดาราจักรในทะเลเอกภพ
1
ถ้าเช่นนั้นในอดีตที่ผ่านมา จักรวาลมีกี่โลกที่สูญหายไปแล้ว? เราไม่รู้ แต่อาจเดาได้ จักรวาลมีอายุ 13.8 พันล้านปี ยาวพอที่จะให้กำเนิดและยุติโลกจำนวนมหาศาล เป็นไปได้สูงที่มีโลกซึ่งหายไปแบบนี้มาแล้วนับล้าน ๆ ๆ โลก อาจมีสิ่งมีชีวิตในโลกเหล่านั้นสักหลายสายพันธุ์ซึ่งคิดและตั้งคำถามอย่างที่ผมทำอยู่ตอนนี้ และพวกเขาก็หายไปหมดแล้ว เราไม่รู้จักพวกเขา
1
ก็พามาสู่คำถามว่า เรามาเกิดที่มุมนี้ของจักรวาลทำไม? เราเกิดมาเองจากความว่างเปล่า? หรือว่ามีใครสร้างเรา? มีเหตุผลอะไร? ทำไมเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีโครงสร้างชีวิตแบบที่เป็นอยู่นี้? ทำไมเราคิดได้? ถ้าเราคิดได้ ก็แปลว่าเรามีบางอย่างพิเศษหรือเปล่า? พูดสั้น ๆ คือชีวิตเรามีความหมายหรือไม่? ถ้ามี อะไรคือความหมายของชีวิต? อะไรคือคุณค่าของชีวิต? และชีวิตจำเป็นต้องมีความหมายหรือคุณค่าหรือไม่?
5
เหล่านี้ย่อมไม่ใช่คำถามใหม่ และก็ไม่ใช่คำถามที่มีคำตอบ นักปรัชญาในอดีตกาลพยายามหาคำตอบ ทั้งในด้านแนวคิดเชิงปรัชญาและในเรื่องจิต เรื่องอำนาจที่อยู่เหนือเรา ฯลฯ
แม้แต่นักปรัชญาก็เห็นไม่ตรงกัน บ้างเห็นว่าชีวิตก็ต้องมีความหมายซี! (“เราเป็นสัตว์ประเสริฐ”) บ้างพูดถึงความหมายที่โยงกับความรัก สันติภาพของโลก ไปจนถึงนิพพาน แต่บ้างก็เห็นว่าคิดไปถามไปก็เปล่าประโยชน์ มันเป็นอจินไตย ฯลฯ
1
บางทีเราเป็นสัตว์โลกที่ชอบหาความหมายจากโลกซึ่งอาจไม่มีความหมายโดยสิ้นเชิง เราพยายามจะเข้าใจทุกอย่าง สร้างหลักการ เพื่อจะรู้สึกว่าเราควบคุมทุกอย่างได้ เราพยายามหาความหมายอะไรสักอย่าง เพื่อเกาะกุมไว้ให้สบายใจ หรือเพื่ออะไรก็แล้วแต่
1
ตั้งแต่เป็นเด็ก ผมก็สงสัยการดำรงอยู่ของตัวเอง สงสัยว่าเรามาได้ยังไง ทำไมเราจึงมีสติสัมปชัญญะแบบนี้ อย่างที่ผมเคยเล่าว่า ผมรู้สึกเหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกโดยอยู่ในเปลือกของร่างกายมนุษย์
1
จนโตเป็นหนุ่ม ก็ตั้งคำถามเสมอว่า ชีวิตมีความหมายหรือไม่ เราตื่นเช้าไปทำงาน พักเที่ยง ทำงาน เลิกงาน กลับบ้าน ดูโทรทัศน์ นอน แล้วตื่นเช้าไปทำงาน ชีวิตมีแค่นี้เองหรือ? มนุษย์เกิดมาเพื่อทำเรื่องซ้ำซากแค่นี้เองหรือ?
2
ในมุมมองของปรัชญาเต๋า ชีวิตคือลูกโซ่ของเหตุการณ์มากมาย เชื่อมด้วยความเปลี่ยนแปลง เต๋าสอนว่าอย่าไปต้านมัน (อู๋เหวย) มองความจริงตามจริง และให้มันคลี่คลายตามทางของมัน
ปรัชญาเต๋าเห็นว่า นักเดินทางที่ดีย่อมไม่มีแผน และไม่คิดจะไปให้ถึง
4
The journey is more important than the destination.
1
การเดินทางสำคัญกว่าจุดหมายปลายทาง
1
แม้จะเป็นการเดินทางเข้าไปในจิตวิญญาณเราก็เช่นกัน
สาระของเรื่องบางเรื่องไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย แต่อยู่ที่ชั่วขณะของการเดินทาง
บางทีเราควรหยุดหาความหมายของโลก
2
เพราะการมีชีวิตอยู่ในโลกก็คือความหมายของชีวิต
1
ชั่วยามที่เรามีชีวิต ก็ใช้ชีวิต
4
ท่อนหนึ่งจาก หิน 15 ก้อนของ สตีฟ จ๊อบส์ / วินทร์ เลียววาริณ
สนใจหนังสือเล่มนี้ มีโปรโมชั่นพิเศษ
สั่งจาก Shopee คลิกลิงก์ https://shope.ee/1LIFbnHXOK?share_channel_code=6
1
โฆษณา