4 พ.ย. เวลา 07:34 • ไลฟ์สไตล์

พุทธามหาเวท 3

ผมดีใจมากนะครับได้ของวิเศษได้ของครูบาอาจารย์มาเราอยู่ลำพังโดยตัวคนเดียวหัวเดียวกระเทียมรีบกลับไปทำอะไรได้มาก ทำอะไรไม่ได้มาก
ถ้ามีครูบาอาจารย์คอยช่วยเหลือคอยหนุนนำอะไรๆก็จะสำเร็จง่ายขึ้น อุปสรรคก็อาจจะเบาลง หรืออาจจะแพ้พลาดอยู่รอดปลอดภัย
ผมตั้งใจจะเลี่ยมกรอบพลาสติกขึ้นคอแต่ในใจก็คิดครับว่า ค่าเลี่ยมก็หลักร้อยบาท ก็แพงเอาการอยู่ ถ้าซื้อข้าว 30 บาทก็ได้ 3 จาน ถ้ากินวันละจานอยู่ได้ 3 วัน ถ้ากินขนมถั่วเขียวบัวลอยไข่หวานวันละถ้วยก็อาจจะได้ 4 วัน 5 วัน
ก็เลยคิดในใจเอาไว้ก่อนดีกว่าใส่กระเป๋าไปด้วยก็น่าจะพอได้ คิดอีกว่าจะไปหากรอบที่มีฝาประกบติดใส่พระลงไปแล้วช่างเขาตัดยางล้อมกรอบสีแดงๆล้อมรอบตัวพระ แล้วประกบฝาหน้าลงไปใส่ห่วงก็ห้อยคอได้แล้ว
หรือถ้าไม่ห้อยคอปกติผมไม่ชอบห้อยอะไรใส่อะไรสร้อยทอง สร้อยเชือกเชือกถักหรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ชอบใส่รู้สึกมันรำคาญ มันอึดอัด แล้วลองคิดดูนะครับว่าห้อยคอแขวนคอแล้ว เหงื่อเราออกทั้งมันเหงื่อมันๆ เยิ้มๆ เหนียวเป็นยางยังไงก็โดนเชือก เชือกก็อมเหงื่ออมน้ำมัน ใส่อีกวันมันน่าจะคันน่าจะสะสมคราบอะไรต่ออะไร
ผมก็เลยใช้วิธีแขวนแหนบหรือก้านยาวๆเป็นสแตนเลสที่เหน็บตามคอเสื้อแล้วห้อยพระอีกที กรอบสแตนเลสประมาณ 30-40-50 บาท ไม่เกินนี้กรอบธรรมดานะครับไม่คิดจะโชว์อะไรใคร แหนบ ก็อีก 15-20 บาท คิดว่ารวมๆแล้วก็ประมาณ 50 บาทก็ไม่แพงอะไรมากแถมแหนบก็ยังห้อยพระน่าจะได้ 2-3 องค์ก็มากโขงอยู่
ผมก็ไม่คิด ว่าจะแขวนพระมากสักเท่าไหร่คิดว่าห้อย 2 องค์น่าจะพอแต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดคือ อาจจะรักพี่เสียดายน้อง อาการพระแต่ละแบบมีปาฏิหาริย์มีวิชามีการเสกไม่เหมือนกัน มีพระสายเหนียว มีพระสายเมตตา สายเดียวก็ยังแบ่งคร่าวๆเป็นสายคงกระพันชาตรี สายแคล้วคลาดอีก
ผมนี่งงเลยมีคนอธิบายไว้ว่า มีประเภทที่ลูกปืนไม่ออกเลยอันนี้ประเภทมหาอุตฒ์ อีกประเภทลูกปืนออกแต่ไม่โดน สายนี้เขาเรียกแคล้วคลาด แต่ผมไม่คิดว่าจะไปตีรันฟันแทงกับใคร อยากได้สายเมตตาค้าขายจะดีกว่า
กระจายเมตตานี้ถ้าแยกย่อยพอก็ว่าน่าจะแบ่งแบบแรงๆกับเบาๆ เบาๆก็เมตตาเอ็นดูอยากช่วยเหลือ แรงๆนี่น่าจะเป็นอย่างขุนแผนมหาเสน่ห์ ขุนแผนก็มีหลายแบบอีกเท่าที่เคยได้ยินมา ขุนแผนพรายนี่น่าจะแรงสุดๆ เห็นเขาว่ากันว่าเอากระดูกคนตายเอาส่วนประกอบมาทำ เดี๋ยวจะเขียนเรื่องนี้อีกที
ผมเคยได้ยินหลวงพ่อบอกนะครับว่า “ พระกูนี่ฟันแทงไม่เข้าแคล้วคลาดปลอดภัย” ลูกศิษย์ถามกลับ หลังขนาดนั้นเลยหรือหลวงพ่อ หลวงพ่อตอบกลับมา
“ เขาฟัน เขาแทงกันมึงก็อยากเข้าไป หนีออกมาจะไปโดนได้ไง” ว่าไปนั่นหลวงพ่อก็มีมุกตลก
18/09/67
เริ่มเห็นบารมีครูบาอาจารย์
อย่างที่ผมบอกว่าผมเริ่มดูข้อมูลมากขึ้นเริ่มติดตามอ่านมากขึ้น สื่อโซเชียลมีเดียก็มีมากมาย ทำให้ข้อมูลไหลบ่าท่วมเข้ามามาก จนวันหนึ่งผมก็ได้ไปฟังคลิปหนึ่ง
จำไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นคลิปของใคร ใครเล่า แต่สนุกมากเสียจนแปลกใจว่า ผมไม่รู้จักหลวงพ่อองค์นี้ได้อย่างไร ถามว่าเคยได้ยินชื่อไหม ก็ตอบว่าเคยแต่รู้ว่าอิทธิปาฏิหาริย์ไปมาอย่างไรไม่ทราบเลย ที่ทราบลึกหน่อย ก็เกี่ยวกับหลวงปู่ดู่และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
อธิบายได้ไม่ยากเพราะหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเขียนหนังสือเองเขียนสนุกมากจนจะขาดใจตายได้ สนุกจริงๆ อัศจรรย์พันธุ์ลึกยิ่งกว่าหนังจีนหนังกำลังภายใน ใครไม่เคยอ่านขอให้ไปหาอ่านเอา หนังสือน่าจะชื่อ ประวัติหลวงพ่อปานวัดบางนมโค ชีวประวัติหลวงพ่อปานวัดบางนมโค ประมาณแถวๆนี้ มี 2 เล่ม เล่ม 1 และเล่ม 2 เอาไว้เหตุการณ์ประจวบหมดจะยกตัวอย่างสักเคสสักกรณี 2 กรณีให้ฟังกัน
กลับมาที่ผมตามศึกษาประวัติของหลวงปู่ศิลาสิริจันโท ก็ไปเจอตอน 1 ที่เหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหาไปกราบท่าน แล้วไม่รู้สิท่านหนึ่งเขาเก็บของดีไว้ในกระเป๋าเสื้อ เข้าใจว่าตัวเองก็ลืมไปพักใหญ่ว่าพอพระใส่ทิชชู่มาแล้วหยอดไว้ในกระเป๋าเข้าใจว่าจะเอาไปเลี่ยม ไปเข้ากรอบ ในไม่ช้า…แต่ดันลืม
แต่พอไปกราบหลวงปู่ศิลา หลวงปู่ศิลาคงเห็นแสงสว่างวาบพลังอิทธิอาคมพระเวทในระดับสูงแผนกกระจายออกมา หลวงปู่ศิลาก็ถามว่าในกระเป๋านั้น พระอะไร ลูกศิษย์น่าจะลืมไปแล้ว ก็บอกว่าไม่มีไม่มีอะไร แต่หลวงปู่ศิลาบอกว่ามี ลูกศิษย์ก็ทำความรู้ในกระเป๋าเสื้อก็นึกได้ว่า เป็นแหวนของหลวงพ่อกวยปลุกเสก
หลวงปู่สิมาตอนแรกพอรับพระไปเหมือนท่านไม่รู้จักหลวงพ่อกวยมาก่อนแต่ด้วยพลังยานบารมีก็รู้ว่าเห็นว่าเหมือนมีร่างหลวงพ่อกวยปรากฏ
โฆษณา