4 พ.ย. เวลา 15:27 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์

.
บทที่ 3 ลูกหาบชื่อ พัน
.
ศาสตราจารย์พาราด็อกซ์ "ลูกหาบคนหนึ่งของทีมไทย คุณต้องปลอมเป็นชายมาจากฝั่งพม่า เดี๋ยวแอชมัทจะแก้ไขให้คุณกลับมาเป็นคนปกติ และ ใส่โปรแกรมต่างๆให้แบบที่สุนันทวัฒน์เคยทำ"
.
ด้วยเหตุนี้PN-10ในชื่อใหม่ว่า "พัน" จึงเป็นคนสุดท้ายในทีมของไทยที่ออกติดตามฝรั่งหายก่อนหน้านั้น พันในชุดเดินป่าทะมัดทะแมงสีดำแบบชาวดง
.
ปล่อยผมหยิกหยักศกฟูเต็มศีรษะเหมือนภานิชาตอนภาคแรก ซ้ำยังใช้ผ้าขาวม้าปิดหน้าปิดตาจึงทำให้ทั้งผู้กองมานพและแสนสุริยาไม่สนใจเพราะเป็นลักษณะทั่วๆไปของลูกหาบ
.
คืนก่อนออกเดินทางแสนสุริยาฝัน เป็นความฝันที่เหมือนจริงเหลือเกิน หญิงสาวคนนั้นในม่านหมอกที่หนาทึบ แสนสุริยาไม่เคยพบหรือรู้จักมาก่อน แต่ทำไมคุ้นเคยและบอกกับตัวเองว่า เฝ้าคอยเธอมานานแสนนาน
.
เธอยิ้มอย่างแสนเศร้า "แสนสุริยาที่รัก ในที่สุดเราก็ได้พบกัน หลังจากที่ต้องจากกันไกลแสนไกล"
.
แสน "ผมรู้จักคุณหรือ คุณเป็นใคร ชื่ออะไร ต้องการอะไร"
ภาพของเธอห่างออกไป...ห่างออกไป... แสนสุริยาจึงออกวิ่งตามความฝันแต่ก็ตามไม่ทัน เธอหายไปในม่านหมอกหนาทึบนั้นทิ้งให้เขายืนงงอยู่เพียงลำพัง
.
ลูกหาบทั้ง5 ได้แก่ สกอ ส่างคำ ลำบง และ มะทอ รวมทั้ง พัน ต่างช่วยกันแบกขนสัมภาระหนักอึ้ง ติดตามผู้กองมานพและแสนสุริยาที่ถือปืนเดินนำหน้าไปด้วยกัน
อย่างรีบเร่ง แม้เหตุการณ์ทีมฝรั่งที่ขาดการติดต่อจะผ่านไปถึง 2 สัปดาห์แล้วก็ตาม
.
ขุนเขาสูงเสียดฟ้าเมฆหมอกปกคลุมไปทั่ว ทีมค้นหาต่างเดินโดยไม่มีการพูดคุยใดๆ แสนสุริยาใช้ความรู้ที่ได้รับจากปู่เกิ้น สำรวจร่องรอยที่ผ่านมาของทีมที่หายในระยะหนึ่งแล้วอย่างระมัดระวัง
.
ตกบ่ายจึงหยุดพักหุงหาอาหารกินที่ริมห้วยแห่งหนึ่ง มีข้าวกับเครื่องกระป๋อง ผู้กองมานพและแสนสุริยาถอดหมวกปีกกว้างออกมาโบกเพราะวันนั้นลมสงบ อากาศร้อนอบอ้าวผิดปกติสำหรับภูมิประเทศอันเป็นป่าสูงอย่างเนินเขา
.
แสน "คืนนี้ได้นอนเปียกกันแน่ครับผู้กอง"
.
"งั้นก็ต้องเร่งหาที่กำบัง แล้วปูพลาสติกหนาผืนใหญ่ พักรวมกันในเต็นท์ก็แล้วกัน"
.
แสนสุริยาเห็นสมควรแก่เวลาแล้วจึงเร่งให้ออกเดินทาง พวกเขาข้ามจากเขาลูกหนึ่งไปสู่อีกลูกหนึ่ง ผ่านดงสักและป่ายางที่หอมตลบไปด้วยกลิ่นกล้วยไม้ป่าสีขาวเหลืองและม่วง ดอกห้อยเป็นระย้าตามคาคบ
บางคราวฝูงค่างตะคอกขู่แล้วโจนหนี บางคราวเสียงไก่ป่าขันเพรียกหาอยู่ตามลานระหว่างกอไผ่
.
ราว 3 ชั่วโมงต่อมาก็ไปถึงเนินแห่งหนึ่งมีถ้ำใหญ่พอให้คน 7 คนเข้าพักได้ไม่แออัดนัก หลังจากทุกคนเข้ามากันพร้อมแล้ว ไม่ช้าไม่นานก็ได้ยินเสียงฟ้าคำรามมาจากคนละฟากเขา
 
.
เมฆตั้งเค้ามาจากทิศตะวันตก ลมโชยมาอ่อน ๆ แล้วเริ่มแรงขึ้นจนดังอู้มาตามป่าใหญ่เสียงกิ่งไม้หักโผงผาง แล้วฝนก็ตกลงมาพัดต้นไม้หักโค่นระเนระนาด
.
มีเสียงสายฟ้าฟาดลงมาที่ใดที่หนึ่งดังแต่ไกล พวกเขาต่างนั่งรวมกันรับประทานอาหาร แม้ฝนจะตกทั้งคืนก็ไม่มีใครกล้านอนเพราะเกรงเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นเช่น
น้ำป่าถล่มใส่
.
พันแอบมองแสนสุริยาผู้เป็นสามีผ่านผ้าขาวม้าที่ปิดบังใบหน้าเธอไว้ แต่กระแสจิตของเธออาจแรงเกินจึงทำให้แสนสุริยารู้ตัว และโดยไม่คาดคิดจู่ๆเขาก็มานั่งข้างกาย
.
แสน "แกแอบมองฉันทำไม"
.
พันถึงกับเงอะงะทำตัวไม่ถูก แสนสุริยาจึงยิ่งเค้น "ว่าไงล่ะ ทำไมไม่พูด หรือแกพูดภาษาไทยไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นพรุ่งนี้ฉันต้องส่งตัวแกกลับ เพราะผิดเงื่อนไขที่ลูกหาบ
จะต้องพูดและฟังภาษาไทยได้"
.
พันใจหายวาบแล้วมันเรื่องอะไรจะไปเสียง่าย ๆ กว่าจะได้พบได้เจอ เธอรู้ไหมแสนสุริยาที่รัก ฉันต้องผ่านข้ามช่วงเวลานับเป็นพันปีเชียวนะ ด้วยเหตุนี้พันจึงเงยหน้า
ขึ้นมอง
 
.
แม้จะเป็นเพียงแสงสลัวแสนสุริยาก็ใจหายวูบ ทำไมเจ้าลูกหาบพม่าคนนี้จึงมีหน้าตาเหมือนนางในฝันของเขา
กระนั้นแสนสุริยาก็แสร้งทำท่าทีขึงขัง "แกมีอะไรกับฉันไหม จึงได้คอยแอบมองตั้งแต่ออกเดินทางแล้ว"
.
พันอึกอักจะให้ตอบว่า "นี่ฉันเอง ภานิชาของเธอ จำไม่ได้หรือ" วิธีการนี้ก็ใช้ไม่ได้ เพราะตอนนี้เป็นพศ. 2529 กว่าจะได้พบกันจริงๆคือพศ. 2530 พันจึงแกล้งตอบ
แบบพูดไทยไม่ช้ด "พูดได้นิดๆน่ะ นายจ๋า"
.
แสน "ตกลงแกเป็นพม่าหรือแขกอินเดียกันแน่"
.
พัน "อีนี้จ๋านเป็นทุกอย่างที่นายว่าน่ะ นายจ๋า"
.
แสน "แล้วแกแอบมองฉันทำไม"
.
พัน "คือที่ประเทศอินเดียและที่พม่าของจ๋าน อีนี้ไม่มีใครหล่อเท่านายสักคนน่ะ"
.
แสนสุริยายิ้มแก้มแทบแตก แม้จะรู้ว่าเด็กคนนี้กะล่อนชมเสียเวอร์ แต่เขาก็พอใจ
ในวาจาหวานหูไม่รู้หาย แต่ต้องพูดไว้เชิงเสียหน่อยพอเป็นพิธีเดี๋ยวจะหาว่าบ้ายอ
.
แสน "มากไป ที่พม่ามี ไป๋ ทากุน ที่อินเดียก็มีอีกเพียบทั้ง จีเทนด้า, ทั้งตระกูลกุมาร แถมด้วยอมิตาป บาจัน และ ราเยส คานนา คนหลังนี้ว่ากันว่าหล่อมากจนสาวอินเดีย ฆ่าตัวตายไปหลายคนทันทีที่รู้ว่าเขาแต่งงานไปโดยไม่ขออนุญาตจากพวกเธอ บางคนแต่งงานกับภาพถ่ายของเขาก็มี"
.
พันเผลอตัวหัวเราะเสียงใส แสนสุริยาจับจ้องด้วยความสงสัย ทำไมเสียงหัวเราะจึงเป็นเสียงผู้หญิงไปได้ หรือมันเป็นตุ๊ด????
หน้าตาท่าทางอย่างนี้หากเป็นผู้หญิงจริงๆเขาคงขอจีบไปแล้ว แสนสุริยาได้สติเขาต้องรีบเผ่นก่อนที่จะเห็นไอ้เด็กลูกหาบสวยไปกว่านี้ และ เพื่อเป็นการแก้เขินให้ตัวเอง เขาจึงสั่งพันว่า "แกเลิกแอบมองฉันได้แล้ว ตกลงแกชื่ออะไร"
.
"อีนี้ชื่อ พัน จ้ะ นายจ๋า"
.
จบบทที่ 3 ลูกหาบชื่อ พัน ภาพปกจาก เตือนภัยพิบัติโลก พระอาทิตย์ตกใน แคลิฟอร์เนีย
โฆษณา