4 พ.ย. เวลา 18:29 • เกม

มารู้จักกับ“Orokin: ราชาในห้องมืด”กัน

เมื่อความยิ่งใหญ่ของโอโรคินในอดีต ที่สุดท้ายกลับกลายเป็นราชาในห้องมืด—สง่างามในอดีตแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ในปัจจุบัน บทเรียนที่สอนให้เรารู้ว่าแสงสว่างอาจไม่ใช่การครอบครอง แต่คือการเข้าใจในความเป็นมนุษย์!
“โอโรคิน: เมื่อทองคำกลายเป็นน้ำหนัก”
หากพวกเขาอยู่ถึงทุกวันนี้ คงตั้งคำถามกันเองว่า "เรากำลังยึดติดกับความเป็นเลิศอยู่ใช่ไหม?" และบางทีอาจมีใครสักคนเสนอไอเดีย "เฮ้ ลองทำอะไรที่เรียบง่าย ๆ หน่อยไหม?" น่าเสียดายที่ไอเดียนั้นคงไม่ทันถูกนำมาใช้ เพราะท้ายที่สุดแล้วยุคสมัยแห่งโอโรคินนี้ต้องจบลง พร้อมกับความคิดที่ว่า "เราเก่งกว่าทุกสิ่งที่เราสร้าง" กลายเป็นบทเรียนให้ลูกหลานได้เรียนรู้ว่า แม้แต่ผู้ที่เคยสร้างสรรค์สิ่งสวยงามและทรงอำนาจที่สุด ก็ยังพลาดได้ เมื่อมองไม่เห็นความเขลาในตนเอง
1
หรือพูดอีกทีคือ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็ไม่มีใครหนีพ้นจากการเผลอเหยียบกับดักตัวเอง!
เรื่องราวของโอโรคินนี้คือ "เส้นทางเดินอันสง่างาม" ที่เต็มไปด้วยอำนาจ, การทดสอบ, และความเคร่งเครียดในระดับยิ้มแห้ง ๆ ใครทำอะไรไม่พอใจ ก็ถูกแปลงเป็น "เซลฟาลอน" ไปเลย (การเปลี่ยนคนให้เป็น A.I. กึ่งจิตสำนึกที่ช่วยงานโอโรคิน) หรือถ้าโชคร้ายหน่อยก็ลงเอยด้วยวิธีทรมานสุดแปลก แม้แต่คนที่ทำตัวดี ๆ บางทีก็ไม่รอด เรียกได้ว่า "กฎหมู่เหนือกฎหมาย" ตัวจริงเสียงจริง
โอโรคินมีแผนขยายอำนาจเต็มสูบ ถึงกับส่งยาน Zariman Ten-Zero ไปบุกระบบ Tau แต่แน่นอนว่าเจอเหตุการณ์เกินคาด—ผู้ใหญ่บนยานนั้นถ้าไม่บ้าชนิดศรีธัญญาต้องมารับก็ลาโลก(ไม่ก็ลายาน)ไปกันหมด แต่ตัวเด็ก ๆ ที่รอดชีวิตจากยานดันมีพลังพิเศษที่ควบคุมยากยิ่งกว่าไฮเทคโนโลยีของโอโรคิน! พวกเขากลายเป็น "เทนโน" ซึ่งโอโรคินคงไม่ได้คิดไว้แน่ว่าจะต้องงัดไม้เด็ดนี้ออกมาใช้(แถมยังคิดจะกำจัดทิ้งอีก) สุดท้ายโอโรคินจึงสร้าง "เซนเทียนท์" หุ่นที่ฉลาดเกินคาด แต่สุดท้ายดันทรยศเพราะรู้สึกว่าโดนใช้จนเกินไป!
เมื่อสงครามยกระดับ โอโรคินก็ได้กลับไปหาเทนโนผู้ลึกลับ โดยใช้ผลงานวิจัยจากอาร์คิเมเดียน มาร์กูลิส (ที่ตนเองได้สั่งประหารไปด้วยว่าอยากให้เก็บเทนโนไว้)และเอ็กซีคิวเตอร์ บัลลาส(คนรักมาร์กูลิสที่แอบแซ่บกันไม่ให้สังคมรู้)เพื่อเสริมแกร่งให้พลังของเทนโน และโอโรคินชนะสงครามสำเร็จ แต่เดี๋ยวก่อน! ช่วงฉลองชั่วข้ามคืน เทนโนเหล่านี้กลับลุกขึ้นเข่นฆ่าโอโรคิน เพื่อแก้แค้นให้มาร์กูลิส—และเพราะโลตัส ผู้เป็นเซนเทียนท์ที่เหมือนว่าจะโดนตั้งโปรแกรมเอาไว้ให้รับใช้โอโรคิน แต่จู่ ๆ ดันสั่งเทนโน "เผาเมือง" เสียอย่างนั้น
เมื่อโอโรคินล้มลง เรื่องราวอันตลกร้ายก็เริ่มขึ้น อาณาจักรที่พวกเขาปั้นมากลายเป็นความโกลาหล ทุกกลุ่มแย่งชิงอำนาจที่ว่างเปล่า เรียกได้ว่า โอโรคินนั้นเก่งทุกอย่าง ยกเว้นการ "รู้จักพอ"
ยานZariman Ten-zero จุดเริ่มต้นความป่วงทั้งปวง
ภาพยานZariman Ten-Zero ผ่านvoidjumpสู่มิติ Duviri และยานเผ่าSentient
สภาพสังคมอันฟู่ฟ่าหมาเห่าของโอโรคิน
ในจักรวาลของโอโรคิน ไม่ว่าคุณจะมองไปที่ไหน—จากถ้วยชารูปหรู ๆ จนถึงไรเฟิลในมือทหาร ก็ล้วนแล้วแต่ต้องหรูหรา โบราณวัตถุของพวกเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจในยุคปัจจุบัน ขนาดเฟอร์นิเจอร์ยังดูเหมือนต้องมีแสงไฟส่องแบบฮอลลีวูด บางคนถึงกับแต่งองค์ทรงเครื่องให้ร่างกายตนเองดูดุดันจนไม่อาจจะหาคำอธิบายได้ เช่น เปลี่ยนสีผิวให้เป็นสีน้ำเงินและทำให้แขนขวาข้างเดียวยืดยาวราวกับฟิกเกอร์งานศิลปะ!
โอโรคินไม่ได้แค่สร้างสรรค์ความงาม พวกเขา “ยึดถือ” ความงามเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ อะไรที่ไม่เฟี้ยวฟ้าว ก็ไม่คู่ควรจะอยู่ในสายตา
สถาปัตยกรรมของโอโรคินต้องยิ่งใหญ่และประดับทอง
ภาพสตรีและบุรุษชาวโอโรคินที่สวมชุดประดับทองคำและแขนขวามักยาวกว่าเสมอ
ความอนุรักษนิยมของโอโรคินถึงขั้นที่พวกเขามอง "ทุนนิยม" ด้วยความระแวงสุด ๆ เพราะมันหมายความว่าบางคนอาจจะรวยขึ้นจนเลื่อนชนชั้นได้ ซึ่งขัดกับแนวคิดที่ว่า "คนต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ขีดไว้" สิ่งที่ขัดใจพวกเขายิ่งกว่าคือการใช้เทคโนโลยีให้คนธรรมดาร่ำรวยเกินหน้าเกินตา
พวกเขาจึงยึดติดกับการใช้แรงงานทาสแม้จะมีเทคโนโลยีที่ทำแทนได้ แถมยังบังคับให้คนธรรมดาดัดแปลงพันธุกรรมให้เป็นแรงงานอย่างกรินเนียร์ ทั้งยังมี "ตลาดยูวาน" ที่เด็ก ๆ โดนยึดไปขายในตลาดเพื่อใช้ในพิธีเชื่อมจิต....ไม่ๆ ย้ายจิตต่างหาก เห็นแล้วก็พอจะเข้าใจได้ว่าพวกโอโรคินเป็นขุนนางที่เอาจริงเอาจังขนาดไหน
1
แม้แต่การปกครองก็ยังมีบทลงโทษแบบจัดหนักจัดเต็ม อย่างการตัดมือของผู้ขโมย เผาคนทั้งเป็นด้วยแสงหยก หรือถ้าอารมณ์ดีหน่อยก็แปลงโทษเป็นเซลฟาลอนเพื่อให้มาเป็นทาสดิจิทัลตลอดกาล!
น่าประหลาดใจที่แม้พวกเขาจะสร้างเทคโนโลยีล้ำยุคได้ แต่โอโรคินกลับปฏิเสธการใช้งานหุ่นยนต์อัตโนมัติ หุ่นยนต์ที่มีหน้าที่จริงจังถูกจำกัดให้ใช้ตรวจตราสิ่งแวดล้อมแบบเบา ๆ เท่านั้น การใช้ปัญญาประดิษฐ์แท้จริงถือเป็นข้อห้าม นี่เป็นสังคมที่ถือว่าแรงงานมนุษย์มีคุณค่ามากกว่าหุ่นยนต์อย่างแท้จริง ดูแล้วก็พอจะเห็นภาพว่าโอโรคินนั้น "เก่าทันสมัย" หรือ "โบราณติดไฮเทค" แบบสุดขั้ว
ฐานันดรเต็มขั้น ชนชั้นที่ห่างไกลในสังคม
องค์กรที่จัดว่าเป็น "หัวใจแห่งการตัดสิน" คือสภา Congress of Executors หรือที่หลายคนเรียกว่า "เจ็ดมหาเทพ" เพราะมีบทบาทในการตัดสินชะตากรรมของคนทั้งอาณาจักร และยังมีศาลสูงโอโรคินอีก ที่ใครไม่รู้ก็ได้แต่มองแบบว่า "มันจะเป็นอะไรซักอย่างที่สำคัญมากแน่ ๆ!"
Executor Tuvul ผู้เป็นทั้งสภาทั้ง7 และหัวหน้านักบวช
ในชนชั้นรองลงมา ก็จะเจอกับ Archimedeans ผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์, Lorists หรือผู้รักษาที่เปรียบได้กับนักบำบัด, Sectarus หรือนักนำทาง, Enginus ที่ยังไม่ชัดเจนว่าทำหน้าที่อะไร แต่ก็ฟังดูเข้มขรึม, และ Temple Guardians ที่ดูเหมือนจะมีไว้เพื่อคุ้มครอง แต่ก็ยังคงเป็นปริศนาทั้งหมด ราวกับว่าพวกเขาเป็นตัวละครลับในเกมที่ต้องปลดล็อคถึงจะรู้!
ภาพ Archimedean หญิง
โอโรคินยังมี "ชนชั้น Grineer" ทาสที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อทำงานหนักทุกชนิด ตั้งแต่อุตสาหกรรมจนถึงการทหาร ก็นึกภาพเหมือนคนที่ต้องทนกับงานประจำซ้ำ ๆ แต่เลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ส่วนประชากรที่เหลือคือกลุ่มฐานะธรรมดา ๆ ที่ทำงานตามความสามารถเท่าที่เทคโนโลยีจะเอื้อ ต่อมาก็กลายเป็นกลุ่ม Corpus ที่ตามคำสอนของ พาร์วอส กรานัม
3ภาพแรก:GrineerในยุคOrokin ภาพที่4: Grineer หลังโอโรคินล่มสลาย ภาพที่5:Parvos granum ผู้นำเหล่าCorpus
สุดท้ายก็มี "กลุ่ม Dax" นักรบสุดโหดที่โอโรคินฝึกและพัฒนาให้เป็นเหมือนเครื่องจักรสังหาร ขณะที่พวกเขาได้รับการปรับสภาพจิตใจให้ยอมเชื่อฟังแบบไม่มีเงื่อนไข การมีทหารที่แข็งแกร่งและภักดีเป็นเหมือนมีการ์ดสุดพิเศษในมือ แต่นี่คือทหารที่ทำตามคำสั่งทุกอย่างโดยไม่ถามสักคำ!
ทหารDax ในชุดเกราะชายแหละหญิง
**เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย**รายชื่อโอโรคินและผู้รับใช้ที่ปรากฎในเกม
เหล่าชนชั้นของโอโรคินมีสมาชิกที่ถูกบันทึกไว้บ้างเป็นระยะ ๆ แต่ไม่ใช่ชื่อธรรมดา เพราะแต่ละคนนั้นถือว่าเป็น "คนพิเศษ" ของระบบสังคมที่ซับซ้อนนี้ เหล่านามเหล่านี้เหมือนจะเป็นตำนานของตัวเองในแบบที่ใคร ๆ ก็อยากรู้แต่ไม่กล้าเข้าใกล้!
Executor
ผู้ที่อยู่ระดับบนสุดของลำดับชนชั้น โอโรคินระดับเทพ ที่ใคร ๆ ก็ต่างก้มกราบ ทั้งยังเต็มไปด้วยบุคลิกเข้มขรึมแบบที่ "ใครขวางก็มีสิทธิ์ถูกเชือด" ขนานแท้
-Executor Ballas - ขึ้นชื่อเรื่องความเก่งกาจ เจ้าเล่ห์และการมีเสน่ห์ล้ำลึก แต่ก็แอบมีวิธีการจัดการที่โหดอย่างที่ไม่อยากลองดีกับเขา
Ballad ชายผู้ถูกเหล่าTennoเกลียด
-Executor Tuvul - เป็นบุคคลที่แผ่อำนาจแบบที่ใคร ๆ ก็ต้องให้เกียรติ เป็นทั้งหนึ่งในเจ็ดมหาเทพ เป็นหัวหน้านักบวชแห่งYuvan Clerisy ควบคุมพิธีย้ายจิตและเป็นผู้สนับสนุนโปรเจ็ค Zariman Ten-Zero
Executor Tuvul
-Executor Karishh - แม้ชื่อจะฟังดูสบาย ๆ แต่บทบาทของเขาคงไม่ธรรมดาแน่นอนเขาเป็นเจ็ดมหาเทพที่มีกระเพาะมากถึง12 กระเพาะ!!!
-Executor Avantus - แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศขึงขังของชนชั้นสูงที่ไม่ควรไปท้าทายในเกมยังไม่มีข้อมูลมากพอสำหรับLore
Archimedean
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์และนักคิดหัวก้าวหน้าของโอโรคิน แต่ละคนดูเหมือนจะเป็นอัจฉริยะของยุคนี้ ราวกับเป็นนักปรัชญาหัวขบถที่ทำให้โอโรคินล้ำหน้าไปอีกขั้น
-Archimedean Margulis - ผู้เป็นดั่ง "แม่" ของเหล่าเทนโน มีทั้งสติปัญญาและหัวใจอันอ่อนโยน ถือเป็นบุคคลสำคัญที่Tennoทุกคนรักและไม่ว่าใครก็รู้จัก
Margulis
-Archimedean Yonta - เป็นอีกนักวิจัยที่ทำงานไม่หยุดหย่อน และชอบค้นหาอะไรแปลก ๆ จนบางครั้งคนก็สงสัยว่าเขาทำอะไรอยู่กันแน่ และเธอเป็นคนสั่งการในกระบวนการVoidjump ของยาน Zariman Ten-Zero (เป็นยานที่เธอออกแบบและสร้าง)ขึ้นจนเกิดเหตุการณ์ในเนื้อเรื่อง
Yonta
-Archimedean Silvana - ชื่อที่ได้ยินก็พอจะบอกใบ้ถึงอัจฉริยะด้านการแพทย์และชีวภาพ ที่รักในวิทยาศาสตร์แบบสุดตัว เธอเป็นผู้ที่แอบยักยอกทรัพยากรจากโอโรคินมาฟื้นฟูโลก แต่น่าเศร้าที่สุดท้ายพวกสภาทั้ง7จับได้ว่าเธอยักยอกทรัพยากรไป
-Archimedean Suda - เป็นอีกหนึ่งที่มีความคิดล้ำเหนือใคร แต่ก็เต็มไปด้วยความลึกลับที่ทำให้คนสงสัยมากกว่าเข้าใจ เธอรักในเสียงดนตรีและเธอยอมรับการเปลี่ยนตัวเองเป็นเซลฟาลอนในตอนท้าย
Cephalon Suda
-Archimedean Javi - น่าจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการแปรธาตุที่ชาวโอโรคินรังเกียจและเป็นคน คิดค้นนวัตกรรมที่ทำให้โอโรคินเป็นอารยธรรมขั้นสุด
Javi
Lorist
ผู้รักษาและบำบัดของสังคมโอโรคิน ราวกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ
-Lorist Ontella - ฟังแล้วรู้สึกถึงคนที่เป็นผู้รักษาระดับแนวหน้า ที่คอยดูแลสุขภาพของผู้คนในชนชั้นโอโรคิน
-Lorist Remballa - แม้จะไม่ค่อยมีชื่อเสียง แต่การมีอยู่ของเขาก็เป็นเครื่องยืนยันถึงระบบการรักษาที่โอโรคินต้องการ
Sectarus
กลุ่มผู้นำทางและนักขับยาน ผู้ควบคุมการเดินทางของโอโรคิน เหมือนนักบินระดับเทพในอาณาจักรที่ไม่ธรรมดา
-Sectarus Bilsa - ผู้ที่อาจทำให้การเดินทางทุกเส้นทางเป็นไปอย่างราบรื่นและสง่างาม แต่ก็ดูเหมือนจะเก็บตัวอยู่ในมุมของตัวเอง
Dax
นักรบชั้นยอดของโอโรคิน เปรียบเสมือนทหารรับใช้ที่ภักดีและโหดเหี้ยม ผู้ที่พร้อมต่อสู้เพื่อโอโรคินอย่างไม่ลังเล
-Teshin Dax - หนึ่งใน Dax ที่ทุกคนรู้จักในความเฉลียวฉลาดและการตัดสินใจที่แม่นยำในสนามรบ
Teshin Dax. ใน The new war และ ใน Duviri Paradox
-Varzia Dax - นักรบหญิงที่เก่งไม่แพ้ชาย มีทั้งความแข็งแกร่งและสง่างามในแบบของตัวเอง
VerziaและVerziaในช่วงสงครามThe old war ถูกErra ทำร้าย
-Dax Menz - เป็นนักรบที่น่าเกรงขาม ซึ่งดูเหมือนจะมีประสบการณ์ต่อสู้มากมาย
-Dax Isaah - เป็นอีกหนึ่งในผู้ที่คอยปกป้องโอโรคินด้วยความกล้าหาญเป็นบุตรชายของ"Umbra"แต่จุดจบไม่สวยนักเพราะถูกพ่อของตนเองในสภาพคลุ้มคลั่งสังหารตามแผนของบัลลาส
Isaash ขณะเยี่ยม Umbra ที่ถูกBallad ทำให้ติดเชื้อ
-"Umbra" - เป็นชื่อที่รู้จักกันดีในวงการนักรบโอโรคิน มีความสามารถในการต่อสู้ระดับตำนานแต่ภายหลังดันไปรู้ความรับของบัลลาสเข้าเลยถูกจับมาทำการเพาะเชื้อกลายเป็นwarframe Umbra และสังหารลูกชายตนเองจนต้องตกอยู่ในวังวนความเสียใจและความแค้น
Umbra ในอดีต และUmbra ที่ถูกทำให้เป็นWarfrme Excalibur Umbra
แนวคิดอันสูงส่งของเผ่าพันธุ์ที่สูงส่ง
คุณธรรมทั้งเจ็ด
แต่ละคุณธรรมนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คนธรรมดา ๆ อาจจะรู้สึกเหมือนกำลังดูรายการเกมโชว์อยู่ เพราะมีครบทุกด้านที่ควรมี ทั้ง "เร็ว พลัง เจ้าเล่ห์ คล่องแคล่ว อดทน ร่วมมือ และเงียบ" ราวกับว่าใครที่ทำได้ครบถ้วนก็จะกลายเป็น "สุดยอดโอโรคินแห่งยุค" เลยทีเดียว
1. ความเร็ว - ความไวที่ต้องพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ ราวกับการฝึกฝนให้กลายเป็นนักวิ่งโอลิมปิกของโอโรคิน
2. พลัง - ความแข็งแกร่งที่ใช้ในการควบคุมอาณาจักรที่กว้างใหญ่ บางทีก็เหมือนกับฟิตเนสคลับของชนชั้นสูง
3. ความเจ้าเล่ห์ - ต้องการเอาตัวรอดในโลกที่เจ้าเล่ห์ระดับนี้ ใครมีทักษะเจ้าเล่ห์สูงก็คงได้ไปรับรางวัลนักวางแผนแห่งปี
4. ความคล่องแคล่ว - ใครที่สามารถฝึกให้ตัวเองคล่องแคล่วได้เท่า Dax คงจะได้เป็นดาวเด่นในทุกเทศกาล
5. ความอดทน - หลักการที่ทำให้โอโรคินสามารถสร้างอาณาจักรยาวนาน แม้จะเผชิญหน้ากับสิ่งท้าทายมากมายก็ตาม
6. ความร่วมมือ - การทำงานร่วมกันแบบไร้ที่ติ ความร่วมมือเป็นเสาหลักแห่งโอโรคินและเป็นเหตุผลที่พวกเขาสามารถสร้างอารยธรรมระดับนี้ขึ้นมาได้
7. ความเงียบ - ความลึกลับและสงบนิ่ง เป็นการย้ำเตือนว่า บางครั้งสิ่งที่ไม่พูดออกมาก็มีค่าและทรงพลังในตัวมันเอง
แนวคิดคู่ตรงข้าม
ในยุคที่โอโรคินยังเป็นอารยธรรมรุ่งเรือง แนวคิด "คู่ตรงข้าม" (Dualism) ถือเป็นหลักการสำคัญ ชนชั้นปกครองถือว่าโลกนี้ประกอบด้วยสองขั้วที่เสริมกันให้สมบูรณ์ เช่น ความดีและความชั่ว ความเร็วและความเงียบ ความเจ้าเล่ห์และความซื่อตรง ราวกับว่าทุกคนจะต้องรู้จักสมดุลของตัวเองให้ดี ใครขาดอาจจะโดนมองว่าไม่ครบเครื่อง และอาจจะไม่ได้ขึ้นชั้นในโอโรคิน
กิจกรรมโบราณ
โอโรคินยังมีกิจกรรมสันทนาการมากมายที่ถูกมองว่าเป็นศิลปะโบราณที่ยังคงอยู่ในวัฒนธรรมสมัยใหม่ของพวกเขา เหมือนเป็นการพักผ่อนจากการปกครองอาณาจักรระดับจักรวาล เช่น:
โคมิ (Komi) - เกมบอร์ดสุดคลาสสิคที่ไม่รู้ว่าใช้สมองหรือเล่นเกมจิตวิทยามากกว่ากัน
Komiหรือหมากล้อม
ลูนาโร่ (Lunaro) - เกมกีฬาที่เหมือนจะเป็นการวิ่งข้ามอุปสรรคในสนามแบบไซไฟของโอโรคิน ชนชั้นสูงที่มีความคล่องตัวคงได้เปรียบแน่นอน
Lunaroมันคือ Handball ของwarframeแหละ
ชอว์ซิน (Shawzin) - เครื่องดนตรีที่สร้างบรรยากาศไพเราะ ราวกับว่าความสุขไม่ได้มาจากแค่เทคโนโลยี แต่ยังมาจากเสียงดนตรีที่เข้าถึงจิตใจคนฟังได้ด้วย
Shawzin:มันคือ ซังเก็นหรือซามิเซ็น เครื่องดนตรีสามสายของญี่ปุ่นแหละ
สะบัดนิ้วให้พลิ้วไหวไปตามตัวโน๊ต!!!
นาเบรัส (Naberus) - เทศกาลเฉลิมฉลองที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน นั่นคือ "การเป็นอมตะ" เทศกาลนี้เหมือนจะเปิดโอกาสให้คนได้ลิ้มลองความสุขชั่วนิรันดร์ ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่เป็นการสัมผัสบรรยากาศของนิรันดร์จริง ๆ
เทศกาลNaberusเทียบได้กับ เทศกาล Halloween ในโลกจริงนั่นแหละ
เรียกได้ว่า วัฒนธรรมของโอโรคินเต็มไปด้วยหลักการและกิจกรรมที่ย้ำถึงความเป็นชนชั้นสูงในทุกระดับ เหมือนว่าแต่ละเรื่องล้วนผ่านการกลั่นกรองแล้วเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์อันหรูหราให้กับโอโรคิน
เทคโนโลยี่ที่น่าทึ่งแต่แฝงความน่าสะพรึง!!!
โอโรคินได้สร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระบบออริจิน เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ยังไม่เคยมีใครเทียบได้ โดยเฉพาะในด้าน วิศวกรรมชีวภาพ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถสร้างเทคโนโลยีที่มีชีวิต มีความซับซ้อนเกินกว่าที่อารยธรรมอื่นจะทำได้
ด้านที่น่าทึ่งที่สุดคือความสามารถในการปรับเปลี่ยนร่างกายและจิตใจให้เข้ากับความต้องการของพวกเขา เช่นการสร้าง กองทัพทาสโคลน ที่เต็มไปด้วยพละกำลังและความจงรักภักดี การผลิต อาวุธมีชีวิต ที่แทบจะควบคุมไม่ได้เพราะความร้ายกาจ อีกทั้งยังมี โดรนปรับสภาพ ที่สามารถเปลี่ยนผู้บุกรุกให้กลายเป็นพันธมิตรหรือแม้แต่สร้างนักรบรูปมนุษย์สุดแกร่ง ที่เหล่า Tenno ใช้ในการต่อสู้
ในด้าน การขนส่ง โอโรคินได้สร้าง รางโซลาร์ ขนาดใหญ่เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างดาวเคราะห์และระหว่างดวงดาว ทำให้การเดินทางเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพ โอโรคินยังมีความสามารถในการ ปรับสภาพดาวเคราะห์ ที่ไม่เหมาะสมให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยได้ พร้อมทั้งนำทางในมิติที่ต่างออกไปอย่าง Void ซึ่งเป็นสิ่งที่เกินความเข้าใจของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในระบบ
1
Solar rails รางระบบสุริยะ
สิ่งหนึ่งที่สะท้อนถึงความหลงใหลใน ความหรูหรา และ การครอบงำ ของโอโรคินคือการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับศิลปะความงามอย่างไร้ที่ติ ซึ่งทำให้พวกเขามีชื่อเสียงในเรื่องของความฟุ่มเฟือยและความต้องการที่ไม่สิ้นสุด พวกเขาได้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติไปอย่างมากมายเพื่อสนองความต้องการเหล่านี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด สงครามระหว่างโอโรคินและ Sentients ที่ในที่สุดนำไปสู่การล่มสลายของโอโรคินเอง
นอกจากนี้ โอโรคินยังมีพิธีกรรมอันน่าสะพรึงกลัวที่เรียกว่า Continuityหรือการย้ายจิต ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ปกครองชนชั้นสูงสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวไร้ที่สิ้นสุดได้ พิธีกรรมนี้ทำโดยการถ่ายโอนจิตสำนึกของบุคคลหนึ่งไปยังร่างของผู้อื่น ทำให้จิตวิญญาณของผู้เจ้าของร่างกลายเป็นเพียงเปลือกที่ว่างเปล่าโดยการทรมานให้จิตใจแตกสลาย เป็นกระบวนการที่นำมาซึ่งความทุกข์ทรมานและความสิ้นหวัง
ทางเดินในวิหารYuvan อันศักดิ์สิทธิ์ทางเดินไปสู่ห้องพิธี Continuity
แม้ว่าในที่สุดผู้ปกครอง Grineer อย่างราชินีจะต้องทำพิธีกรรมนี้กับร่าง Grineer ที่บกพร่อง เนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น แต่พิธีกรรมนี้ทำให้พวกเธอมีชีวิตที่ยืนยาวท่ามกลางความเสื่อมสภาพแม้จะไม่ชอบความอัปลักษณ์ของร่างที่ตนต้องใช้ก็ตาม(เรียกว่าทนๆใช้ไป)
ระบบการเขียนที่เขียนยากของโอโรคิน
มีโครงสร้างพื้นฐานมาจากภาษาอังกฤษ แต่มีการสะกดที่ดิบและหยาบ โดยมักใช้การสะกดคำแบบ ฟอนีติก ตัวอักษรของโอโรคินจะมีลักษณะเอนเอียงไปทางขวา และเมื่ออยู่บนพื้นผิวเรียบ การเขียนมักจะเป็นไปในทิศทาง ซ้ายไปขวา อย่างไรก็ตาม ทิศทางของตัวอักษรสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่ออยู่ด้านซ้ายหรือขวาของวัตถุหนึ่งๆ ซึ่งอาจเกิดจากการถ่ายโอนและการสะท้อนภาพจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งระหว่างการพัฒนาเกม
รูปแบบอักษรอย่างคร่าวๆ
แม้จะไม่มีตัวอย่างการเขียนโอโรคินที่แสดงให้เห็นถึงวิธีการออกเสียง แต่ตัวละครต่างๆ เช่น Lotus, Ordis, Tenno และ Red Veil สามารถเข้าใจและสื่อสารในภาษาโอโรคินได้ ถือเป็นภาษาท้องถิ่นที่พวกเขาคุ้นเคยและใช้ในการติดต่อสื่อสาร
โอโรคินยังมี ระบบคำเฉพาะ ที่คาดว่าสร้างขึ้นโดย Albrecht Entrati ตัวอย่างหนึ่งคือคำว่า "Requiem" ที่ประกอบไปด้วยคำแต่ละคำซึ่งมีความหมายเฉพาะตัว คำเหล่านี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับ Void อย่างลึกลับ สะท้อนถึงแนวคิดทางจิตวิญญาณและเทคโนโลยีของโอโรคินในด้านที่เชื่อมโยงกับสิ่งที่เหนือธรรมชาติ
สัญลักษณ์ Requiem ทั้ง8
ตัวอักษรพยัญชนะจะมีลักษณะ เอียงๆ แบบคนรีบไปขึ้นยาน และเขียนจากซ้ายไปขวา ขณะที่ สระและเครื่องหมายเน้นจะเขียนอยู่ด้านบน ราวกับจะบอกให้คุณงงขึ้นอีกหน่อยว่าตกลงต้องอ่านจากไหนก่อน!
ส่วนของสระและหมายเลขบางตัวยังดูคล้าย สัญลักษณ์ขั้วไฟฟ้า ราวกับว่าโอโรคินอยากให้คุณคิดว่ากำลังอ่านโฆษณาเครื่องใช้ไฟฟ้าโบราณอยู่ ส่วนรูปแบบตัวอักษรนั้น ได้แรงบันดาลใจจากการเขียนพู่กันแบบบูชิโด เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพื่อให้ตัวอักษรดูเหมือน การฟันดาบสุดพริ้วไหว นั่นเอง! ดังนั้น การเขียนตัว "โอ" ในภาษานี้อาจจะฟังดูเหมือนวิชาดาบซามูไรเลยทีเดียว
สวยนะแต่อ่านยากมาก!!!
ส่วนตัวอย่างการออกเสียงของโอโรคินนั้นล่ะ? โอโรคินบอกว่า "ไม่มี!" พวกเขาทิ้งปริศนาให้เราต่อไป ใครอยากอ่านก็อ่านไป แต่ไม่ต้องหวังว่าจะได้ยินสำเนียง "โอโรคินแท้" จากใครได้ง่ายๆ (อาจต้องรอให้โอโรคินกลับมาเล่าเอง!)
การเขียนโอโรคินยังมีความท้าทายอีก เพราะมักจะมีการ ปรับทิศทางการเขียนแบบสุ่มๆ และมีการจัดแนวตั้งแบบไม่กลัวทำคนอ่านหลงทิศ แน่นอนว่าเหตุผลที่แท้จริงอาจมาจากความคิดของนักพัฒนาเกมที่อยากให้เราลองทดสอบประสาทตาและความอดทนในการถอดรหัส อาจจะเป็นการแซวเล็กๆ จากทีมโอโรคินว่า "ถ้าเข้าใจได้ก็เก่งแล้วล่ะ!"
***เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย***
ข้อมูลตัวละครที่น่าสนใจของโอโรคิน
ครอบครัว
DeNas - นี่คือครอบครัวที่ดูเหมือนจะต้องพบกับเรื่องราวอันแสนเศร้า เมื่อเด็กๆ ของพวกเขาถูกโรงเรียนการเมือง(ส่งนใหญ่สอนเกี่ยวกับการลอบสั่งหาร!!!) Scoria ขโมยไปเพื่อเป็น "นักเรียน" ของพวกเขา โดยใช้การกดทับความทรงจำ ทำให้เด็กๆ เหล่านี้ลืมว่าพวกเขาเคยมีครอบครัวและความรักมาก่อน แต่ไม่ต้องห่วง เพราะWarframe Ash มาถึงและช่วยเหลือพวกเขาอย่าง hero! (หรือว่าเป็น anti-hero กันแน่นะ?)
Entrati - ครอบครัวนี้อยู่ในเขต Necralisk บนดาว Deimos และพวกเขามีปัญหาติดเชื้อที่ต้องเผชิญ อีกทั้งความไม่สมดุลในครอบครัวอาจทำให้สมาชิกบางคนมีความรู้สึกเหมือน "มีปัญหาภายในครอบครัว" หากเล่นเกมจน Tenno บรรลุความเชื่อใจระดับ 5: ครอบครัว พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับเข้าสู่ครอบครัว Ayatan อย่างเป็นทางการ และเหมือนมีการตั้งบอร์ดติชมเกี่ยวกับการต้อนรับที่ดีมากในโลกของโอโรคิน!
Entrati family
ตัวละคร
Alarez - นี่คือโอโรคินที่มีประวัติไม่ค่อยสวย เพราะเขาถูกจัดอยู่ในเกรดต่ำกว่า Enginus เนื่องจากรูปร่างที่ผิดปกติและดวงตาที่ไม่สดใสของเขา พอถึงจุดหนึ่ง เขาโชคร้ายไปติดต่อ Bilsa และกลายเป็นอาหารให้กับ Veytok อย่างไม่ทันตั้งตัว!
Albrecht Entrati - นักวิทยาศาสตร์โอโรคินคนนี้ถือเป็นผู้กล้าคนแรกที่ได้เดินทางสู่ Void เขายังเป็นบรรพบุรุษของครอบครัว Entrati ซึ่งอาจจะทำให้เราเริ่มคิดว่า "การไปเที่ยว Void นี่มันน่าสนุกจัง" (หรือไม่ก็ไม่นะ)
Albrecht Entrati
Avantus - เป็นโอโรคิน Executor ที่ไม่โชคดีเอาเสียเลย เพราะถูก Grineer Veytok ฆ่าในการสร้าง Arid Eviscerator Synthesis หากเป็นเกม RPG คงจะมีข้อความว่า “Game Over” ปรากฏอยู่ข้างๆ
Ballas - เป็นหนึ่งในโอโรคินที่ซับซ้อนที่สุด เขารับผิดชอบในการสร้าง Warframes แต่ก็ไม่พลาดที่จะหักหลังอาณาจักรโอโรคินในสงคราม The old war จากนั้นก็จัดการเหตุการณ์ที่นำไปสู่ Prelude to War และ The New War ทำให้เขากลายเป็นผู้ปกครองใหม่ของระบบต้นกำเนิด ภายใต้ Narmer แต่ท้ายที่สุดก็ได้ไปพบกับ Lotus และ Tenno ที่มาทำลายความฝันของเขา!
Barroc - สมาชิกในทีม Railjack เดียวกับ Vilcor ในช่วงสงครามโบราณ เขาเป็นตัวละครที่อาจทำให้เรารู้สึกถึงความทรงจำที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ แต่ถ้าถามว่าเขารู้จักเคล็ดลับการซ่อมเครื่องบินไหม ก็คงต้องบอกว่า “ไม่รู้”
Bekran Zaft - เป็นผู้ทำความสะอาดพื้นของเรือนจำ Dabaoth-Kra เขารอดชีวิตจากการทำลายล้างของเรือนจำโดย Warframe Lavos และได้ใช้ชีวิตเพื่อเล่าเรื่องนี้ แต่อาจจะต้องบอกว่าเขาคือ "เจ้าพ่อเล่าเรื่องตำนาน" ในแวดวงโอโรคิน!
Bilsa - โอโรคินในระดับ Sectarus ที่ดูเหมือนจะไม่โชคดีนัก เมื่อเธอเข้าร่วมกับ Grineer Veytok ในการสร้างกองทัพหลังจากที่ Avantus ถูกฆ่า นี่อาจทำให้เราคิดว่า “บอกเลยว่าคุณเป็นฝ่ายไหน?”
Corphel และ Irilia - คู่รักโอโรคินที่มีความรักต้องห้ามที่มาพร้อมกับดราม่ามากมาย
พวกเขาตกหลุมรักทหารม้าของ Dax ซึ่งถือว่ามีสถานะสูง เนื่องจากความสัมพันธ์นี้ไม่เคยถูกเปิดเผยในที่สาธารณะ แต่เมื่อทหารม้ากลายเป็น Warframe ที่ชื่อว่า Dagath คู่รักนี้กลับเริ่มเบื่อหน่ายกันเอง เมื่อความต้องห้ามหายไปก็เหมือนกับการรับประทานอาหารที่เหลือในตู้เย็น ที่ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจแล้ว จากนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจทำให้ Warframe ต้องการแก้แค้นด้วยการยิงลำแสงละลายใบหน้าWarframe และในเช้าวันถัดมา Dagath ก็ไม่อยู่เฉย เลยทำให้คู่รักนี้ไม่มีใบหน้าเหมือนเธอ (เอาเป็นว่า…ห้ามปิดหน้าตาเวลาฆ่าใครเด็ดขาด!)
Warframe Dagath ผู้ไร้ใบหน้า
บุตรสาว (Kaelli Entrati) - บุตรสาวของครอบครัว Entrati เธอคือสุดยอดนักวิจัยและนักชีววิทยาโอโรคินที่มีการติดเชื้อบางส่วน อาศัยอยู่ในเขต Necralisk บนดาว Deimos อย่างไรก็ตาม การทำวิจัยในบ้านที่มีเชื้อโรคอาจทำให้เธอต้องเตรียมชุดป้องกันมิดชิด!
Kaelli Entrati
บิดา (Vilcor Entrati) - คุณพ่อผู้มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธโอโรคิน เขายังมีการติดเชื้อบางส่วนและอยู่ในเขต Necralisk บนดาว Deimos คงต้องถามว่าเขาเป็นคนที่สร้างอาวุธมาเพื่อลูกสาวเขาหรือเปล่า?(ความเห็ส่วนตัว-ลูกสาวVilcorถึงแม้จะติดเชื้อแต่เธอก็ยังเป็นตัวละครที่ผมชอบไปรับเควสบ่อยที่สุดในครอบครัว Entratiเพราะความน่ารักของเธอ)
Vilcor Entrati
คุณยาย - สมาชิกที่ดูเหมือนจะเป็นผู้สูงอายุที่สุดในครอบครัว Entrati ถึงจะมีการติดเชื้อบางส่วนแต่เธอก็บอกได้เลยว่า "ไม่เคยเป็นทหารหรือวิทยาศาสตร์" (คุณยายก็ไม่ต้องมาทำวิจัยแล้วนะลูกๆ)
Grandmother of Entrati
Grineer Queens - อดีตฝาแฝดโอโรคินที่ผันตัวไปอยู่ในร่าง Grineer หลังสงครามโบราณ สงสัยว่ามีเรื่องราวในตระกูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับความงามของโอโรคินที่ต้องรักษา!
Grineer queens ผู้พี่และผู้น้อง และภาพ concept art แสดงให้เห็นถึงขนาดตัว
Javi - Archimedean ผู้ที่มีความชำนาญด้านการแปรสภาพ ถูกจับในเรือนจำ Dabaoth-Kra ด้วยลัทธิที่มีแนวคิดที่แตกต่างกับความเชื่อของโอโรคิน แต่ดูเหมือนเขาจะสามารถโน้มน้าว warframe Lavos เดินตามรอยเขาในด้านอัลเคมี จนเกิดใหม่(หรือถูกแปรสภาพ)เป็นหนึ่งในงูที่แขนของ Lavos (งูก็คืออาวุธใหม่ใช่ไหม?)
warframe Lavos
Karishh - Executor โอโรคินที่มีความตะกละอย่างน่าสงสัย เขารอดชีวิตจาก The Collapse แต่โชคไม่ดีที่ต้องพบกับ Grendel ที่ทำให้เขาต้องจบชีวิต แต่อย่าห่วง คำว่า "ตะกละ" อาจหมายถึงการพยายามทำอาหารจากสิ่งที่เหลือ!
warframe Grendel ผู้กลืนกิน Karishh ผู้ตะกละ
Kailen - สมาชิกในทีม Railjack เดียวกับ Vilcor ในช่วงสงครามThe old war ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงมักจะมีประสบการณ์ที่น่าจดจำร่วมกัน (เช่น การเดินทางไปเที่ยวในอวกาศกับคนที่ซ่อมยานไม่เป็น!)
Margulis - Archimedean ที่ตัดสินใจจะเป็นแม่ให้กับ Tenno ทั้งหมดหลังจากเหตุการณ์ Zariman Ten Zero แต่ด้วยความกล้าหาญนี้ เธอถูกประหารชีวิตโดย Ballas อย่างน่าเศร้า (แบบนี้ต้องเรียกว่าแม่ของชาติหรือเปล่า?)
มารดา (Gomaitru/Euleria Entrati) - หัวหน้าครอบครัว Entrati นักวิทยาศาสตร์และนักคณิตศาสตร์ที่มีการติดเชื้อบางส่วน ซึ่งอาศัยอยู่ในเขต Necralisk บนดาว Deimos แต่คงไม่ต้องบอกว่าเธอเป็นแม่ที่เข้มงวดมากแน่ๆ
Euleria Entrati
Mutaru - สมาชิกในทีม Railjack เดียวกับ Vilcor ในช่วงสงครามThe old war ผู้ซึ่งอาจมีความทรงจำเกี่ยวกับการล่องเรือในอวกาศมากมาย (การท่องอวกาศของกลุ่มนี้คงเป็นเรื่องตลกในวันหยุดยาวได้เลยนะ!)
Myrmidon - นักล่าโอโรคินที่มีกิจกรรมฆ่า Warframes และลบพวกเขาออกจากประวัติศาสตร์ ซึ่งเขาถูกควบคุมโดย Executor โอโรคินเพื่อทำการทดลอง Warframes สุดท้ายเขาถูกเอาชนะโดย Ivara (คงจะไปทำให้ Ivara รู้ว่าการล่าไม่ใช่เรื่องง่าย!)
Warframe Ivara
Nihil - ผู้พิพากษาและผู้ประหารชีวิตโอโรคินที่มีหน้าที่สร้าง Cephalons เขารอดชีวิตจากสงครามโบราณด้วยการ "glassing"(เคลือบกระจก) ตัวเองและต่อมาได้รับการคุมขังใน oubliette ในตอนสุดท้ายของ เควส Nightwave: Series 3 - Glassmaker (นี่คือบทเรียนว่าอย่าลืมความปลอดภัยเมื่อทำการทดลอง!)
Nihil
Oubliette วัตถุที่ใช้คุมขัง Nihil
Porvis - นักประวัติศาสตร์โอโรคินผู้มีความสามารถในการเล่าเรื่องที่เก่งกาจ เขาเป็นผู้เล่าเรื่องราวของ Ivara (ซึ่ง Drusus เป็นผู้เล่าใน Leverian) จาก "The Secret History of the Orokin Court" ต้องขอบอกว่า Porvis อาจจะต้องระวังถ้าต้องเจอกับ Ivara เพราะเธออาจไม่ชอบให้ใครมาเล่าประวัติของเธอแบบนี้!
บุตรชาย (Kermerros Entrati) - สมาชิกอีกคนของครอบครัว Entrati ผู้ซึ่งเป็นนักวิจัยและนักชีววิทยาโอโรคินที่มีการติดเชื้อบางส่วนและอาศัยอยู่ในเขต Necralisk บนดาว Deimos ถ้าพูดถึงเขาแล้ว คงต้องบอกว่าเขาเป็นแบบอย่างของการพยายามทำงานที่บ้านในช่วงโรคระบาด!
Kermerros Entrati
Suda - Archimedean ที่มีชื่อเสียงที่อุทิศตนเพื่อรักษาประวัติศาสตร์และความรู้ของโอโรคินสำหรับคนรุ่นต่อไป แต่หลังจากที่เธอเป็นโรคเสื่อมประสาทที่ไม่ระบุได้ เธอจึงตัดสินใจแปลงร่างเป็น Cephalon โดยสมัครใจ อย่างน้อยเรายังมีข้อมูลดีๆ จากเธออยู่
Tuvul - Executor โอโรคินที่ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในการบันทึก Synthesis ของ Detron Crewman และเป็นสมาชิกของ Seven เขาเป็นหัวหน้าของ Yuvan Clerisy ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็ถูกฆ่าโดย Voruna ขณะพยายามหลบหนีจาก The Collapse โดยการทำ Continuity เข้าสู่ Operator (คงต้องบอกว่า สู้ตายเพื่อการอยู่รอดก็คุ้มค่า แต่การทำ Continuity นี่คือความพยายามที่ควรค่าแก่การจดจำ!)
ความเชื่อมโยงระหว่างโอโรคิน กับเผ่าอื่น
Corpus เป็นกลุ่มที่มุ่งมั่นที่จะรวบรวมและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีโอโรคิน รวมถึงการค้นพบที่เกี่ยวข้อง เพื่อขายในตลาดโลกของพวกเขา (ใช่แล้ว! ตลาดที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ไม่รู้จักของโอโรคิน ทำให้ทุกคนต่างก็อยากจะได้ครอบครอง) เป้าหมายนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างในเกม เช่น The Gradivus Dilemma และ Operation Oxium Espionage ซึ่งต้องบอกว่า การขายเทคโนโลยีโอโรคินให้ผู้เล่นชั้นล่างน่าจะทำให้ผู้บริหารพวกเขาหลับไม่ลง!
ตัวละครหลายตัวในเกมถูกกล่าวถึงว่าอาจเป็นโอโรคินหรือมีเชื้อสายตรงจากสายเลือดของพวกเขา (ซึ่งเป็นการแย่งชิง "สายเลือด" ที่ทำให้ผู้คนกลายเป็นกลุ่มชนที่มีอำนาจ) ผู้นำของ Corpus อ้างว่าเป็นเชื้อสายโอโรคินแท้ ๆ โดยเฉพาะ Alad V ที่ถูกเรียกว่าโอโรคินโดย Sentient Hunhow ใน The Second Dream และ Misery Acolyte (เพื่อน ๆ คงจะสงสัยว่าทำไม Alad V ถึงมีโชคดีแบบนี้!)
Alad V
ตามข้อมูลจาก The Tenets fragments ผู้ก่อตั้ง Corpus, Parvos Granum, เคยเป็นชาวนาใต้การปกครองของโอโรคิน ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจระหว่างครอบครัวของเขาที่เป็นชาวนากับชนชั้นสูงของสังคมโอโรคิน ส่งผลให้เขาสร้างลัทธิใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่สิทธิในการแสวงหาสิ่งที่ต้องการของตน (การเป็นชาวนาที่มุ่งหวังจะเป็นเศรษฐีจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยจริงไหม?)
แยกย่อยกับตำนานของ Dagath และข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับ Orokin
ในตำนานของ Dagath มีการกล่าวถึงว่าการมีความสัมพันธ์ระหว่าง Dax กับเจ้านายโอโรคินถือเป็นเรื่องต้องห้ามและมีโทษประหารชีวิตเพราะโอโรคินมีความคิดต่อต้านการมีความรักต่างชนชั้นและต่างเผ่าพันธุ์ (ใช่! ใครจะไปกล้ารักเจ้านายถ้าไม่อยากโดนประหาร!)
จนถึงตอนนี้ ผู้บังคับบัญชาที่ไม่ใช่โอโรคินเพียงคนเดียวที่แสดงให้เห็นถึงการใช้เทคโนโลยีโอโรคินอย่างชัดเจนคือ Captain Vor (โดยเฉพาะ Void Keys ที่เขาเป็นเจ้าของแบบไม่แคร์โลก!)
Captain VorและVoid keyสุดหวงของเขา
นอกจากนี้ Necramechs ที่พบเดินอยู่บน Cambion Drift และเฝ้าดู Isolation Vaults ยังสามารถถือเป็นตัวอย่างแรกของบอสที่สร้างโดยโอโรคินได้ (คือถ้าคุณเห็น Necramech ก็รู้ได้เลยว่า "โอ้ นี่คือของพรีเมียมที่ทำขึ้นมาจริง ๆ!")
หุ่น Necramech
Corpus Fusion MOA และ Oxium Osprey ถือเป็นผลลัพธ์โดยตรงจากการที่ Corpus ใช้เทคโนโลยีโอโรคินขั้นสูงจากแร่Oxium ที่ค้นพบโดยชาวโอโรคิน ซึ่งเป็นการอัปเกรดที่หาได้ยากสำหรับ MOA และ Ospreys ตามปกติ (คิดดูนะ! ถ้า MOA และ Ospreys สามารถไปซื้อสินค้าโอโรคินที่บูธได้ มันคงจะเจ๋งมากเลย!)
Oxium แร่โง่ๆ ที่ทำให้GrineerและCorpusขัดแย้งกัน
คำว่า "Orokin" อาจเป็นคำผสมระหว่างคำในภาษาสเปน/อิตาลี "Oro" และคำภาษาญี่ปุ่น "Kin" (金) ซึ่งทั้งสองคำหมายถึง "ทอง" ที่สอดคล้องกับความสวยงามของโอโรคินที่ใช้ทองคำเป็นหลักในสถาปัตยกรรมและการออกแบบ (โอโรคินต้องการที่จะเป็นทองคำจริง ๆ ไหมนะ? หรือแค่ชอบบาดแค่ผิว?)
แม้ว่าความหมาย "ทองคำ" อาจทำให้ความหมายนี้มีความเป็นไปได้น้อยลง แต่คำว่า "kin" ยังสามารถหมายถึงคำภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับครอบครัวหรือความสัมพันธ์ใกล้ชิด แสดงถึง "ครอบครัวทอง" (แบบว่าอาจจะต้องเปิด "คลับทองคำ" ขึ้นมาซะแล้ว!)
ด้วยการมีอยู่ของ Oro ในจักรวาล คำว่า "Oro" ใน Orokin อาจหมายถึงสิ่งนั้น มากกว่าที่จะอ้างถึงสิ่งที่เป็นจริงในโลก (เพราะโลกที่เราอยู่มันไม่สามารถจะมีทองคำขนาดล้อมดวงจันทร์หรือLuaได้หรอก!)
ศัตรูที่ถูก Corrupted จะถูกระบุว่าเป็นกลุ่มโอโรคินในเกม แทนที่จะเป็นกลุ่มแยกต่างหาก (น่าสนใจนะว่าศัตรูที่ถูกคอร์รัปต์ดูจะมีความเกี่ยวข้องกับโอโรคินในอดีต!)
Corrupted ทั้งจากเผ่าGrineer,Corpusและ Infested
ผู้บัญชาการโอโรคินระดับสูงได้รับการมอบหมายให้สวม Imperator Syandana (มันคือเครื่องประดับติดที่หน้าผากขนาดใหญ่แสดงถึงฐานะ!!!ดูเหมือนว่าความมีระดับยังมีอีกหลายรูปแบบในจักรวาลนี้!)
ตรงหน้าผากรูปปั้น ส่วนนั้นคือ Imperator Syadana
ส่วน Grineer Queens จัดว่าเป็นโอโรคินที่ทำการต่อเนื่องเข้าสู่ร่าง Grineer ซึ่งมีแนวโน้มว่าความเกี่ยวพันของพวกเขาได้รับการชี้ให้เห็นจากความสามารถของ Elder Queen ในการควบคุม Teshin ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่เธอมี Kuva staff ของเธอ (น่าตลกดีที่การเป็นควีนมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการควบคุมคนอื่น ๆ ด้วยการมีอุปกรณ์ล้ำค่า!)
การล่มสลายของโอโรคินเริ่มขึ้นจากการกบฏของเหล่า Tenno ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบที่โอโรคินสร้างขึ้นเพื่อเป็นอาวุธ (แค่คิดก็รู้แล้วว่าความรักในอาวุธของโอโรคินน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน!) แต่เมื่อโอโรคินเริ่มใช้ความโหดร้ายในการควบคุมและบังคับ Tenno แบบไม่มีเมตตา (คือขนาดสร้างมาทั้งทีม ยังไม่สนใจจิตใจเลยหรือ?!) จนทำให้เกิดความขัดแย้งและความแค้นอย่างมาก
เหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเหล่า Tenno ตัดสินใจลุกขึ้นสู้กับโอโรคิน พวกเขาใช้พลังจาก Warframe และ Void ในการต่อสู้ (โอ้! งานนี้ไม่มีใครยอมใครจริง ๆ!) ในพิธีการประลองที่จัดขึ้นใน "พิธีแห่งเงา" ซึ่งเป็นโอกาสที่ Tenno จะได้งัดพลังมาจัดการกับชนชั้นสูงของโอโรคิน (พูดง่าย ๆ ว่า “มวยหู” ระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์นั่นแหละ!)
นอกจากนี้ โอโรคินยังต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากเซนติเนนต์ที่เคยเป็นเครื่องจักรที่พวกเขาสร้างขึ้น (ไม่รู้ว่าเซนติเนนต์มีสิทธิ์ทำแบบนี้หรือเปล่า?) เมื่อเซนติเนนต์กลายเป็นศัตรูที่มีความสามารถในการคิดเป็นของตนเอง และเริ่มต่อต้านโอโรคินอย่างรุนแรง (คล้าย ๆ กับโดนลูกค้ากลับมาทวงของที่เคยทำให้แบบนี้นะ!)
สรุปเหตุผลการล่มสลาย
การล่มสลายของโอโรคินเกิดจากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ได้แก่:
1. การกดขี่และการทดลองอันโหดร้าย ที่สร้างความขัดแย้งระหว่างพวกเขากับเหล่า Tenno (เรียกได้ว่า “โอโรคิน: รักแท้แพ้แรงกดดัน!”)
2. การพึ่งพาเทคโนโลยีอย่างสุดขั้ว โดยเฉพาะเซนติเนนต์ที่กลายเป็นศัตรูในภายหลัง (เทคโนโลยีนี้แหละที่ทำให้ต้องคิดให้ดีก่อนใช้งาน!)
3. การแยกชนชั้นและการหยิ่งทะนง ที่ทำให้โอโรคินไม่เห็นความสำคัญของความเป็นมนุษย์และความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม (แบบว่า “เราคือชนชั้นสูง! ไม่จำเป็นต้องสนใจคนอื่น!”)
ในที่สุด โอโรคินที่เคยเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจสูงสุดก็ต้องพบกับความล่มสลาย (เหมือนการถูกถอนรากถอนโคนเมื่อถูก Tenno ทำลายชนชั้นสูงของพวกเขาจนหมดสิ้น) เห็นไหม? บางทีการทำตัวแย่ ๆ อาจทำให้คุณต้องจบด้วยความเศร้าอย่างไม่ทันตั้งตัว!
“บทเรียนจากโอโรคิน: เมื่อความสมบูรณ์แบบกลายเป็นกับดักอันวิจิตร”
ในที่สุดก็ถึงเวลามองย้อนกลับไปที่โอโรคิน—เหล่าผู้พยายามสร้างโลกอันเลิศหรู แต่ดันเผลอตกหลุมกับดักที่ตัวเองขุดไว้! เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้มีแค่สงครามเทคโนโลยีและการแสวงหาสิ่งเลิศล้ำ แต่ยังเป็นบทเรียนฮา ๆ ผสมปรัชญาที่สอนเราให้ระวังว่า ‘การไขว่คว้าความสมบูรณ์แบบอาจพาเราตกบันได’! ถ้าคุณอยากรู้ว่าโอโรคินล้มเหลวอย่างไร และมันเกี่ยวอะไรกับเราทุกวันนี้ บอกเลยว่าห้ามพลาดบทเรียนส่งท้ายที่ทั้งคมและขำขัน ชวนให้เราหัวเราะและคิดตามไปพร้อม ๆ กัน!
---
หวังว่าบทความนี้จะทำให้ผู้อ่านทุกท่านที่ไม่ใช่เทนโนและเหล่าเทนโนได้เพลิดเพลินกันนะ
หัวข้อต่อไปจะเป็นอะไรรอติดตามกันได้หรืออยากรีเควสเนื่อเรื่องไหนจากเกมอะไร บอกกล่าวไว้ในช่องแสดงความเห็นกันได้นะครับ จะได้หาเวลามาทำข้อมูลแลกเปลี่ยนกัน
หมายเหตุ:บทความนี้เล่นเอานอนน้อยเลย ถามว่าบทความนี้ครบถ้วนไหมก็คงบอกได้ว่าไม่ครับ ถ้าใครจะเสนอ/แย้ง/ติง ก็สามารถบอกกล่าวกันได้นะครับจะน้อมรับฟังด้วยความเคารพครับ
#warframe
#game
โฆษณา