เรียนรู้เสื่อมสุขเสื่อมลาภจากคดีดัง(104)ตอน1

การพิจารณาธรรมะหรือการเจริญปัญญา เจริญวิปัสสนา เป็นการใช้ "ปัญญาอบรมจิต" จิตของเราเต็มไปด้วยความทุกข์ที่ทับถมอยุ่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นความเศร้าโศก ความทุกข์ทางกายทางใจ ความคับแค้นใจ เราสามารถใช้ "ปัญญา"ของเราที่ถือว่าเป็น "จิต" อีกดวงหนึ่งของเรา ที่เป็นหลักธรรมทางพุทธศาสนาที่ได้สอนเราไว้ในเรื่องของ "ไตรลักษณ์" ความไม่เที่ยงแท้ ความทุกข์ ความไม่มีตัวตน มาอบรมมาพิจารณา "จิตอีกดวงหนึ่งที่เต็มไปด้วยความทุกข์ครอบงำชีวิตของเรา" การอบรมจิตของเรา ก็คือ การเจริญปัญญา เจริญวิปัสสนา
-การพิจารณาความทุกข์จากการประสบกับสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบ เช่น เรื่องดิไอคอน ความคับแค้นจากเพื่อนที่ทำร้ายจิตใจของเรา หรือแม้กระทั้งคนรักเก่า มันได้เกิดขึ้นมาแล้วและมันก็ได้ฝั่นอยู่ที่ "จิตใจอารมณ์ของเรา" มันคอยปรุงแต่งจิตของเราอยู่ตลอดเวลา คิดถึงทุกครั้งก็หยุดไม่ได้ มันได้กัดกร่อนจิตอารมณ์ของเราให้เป็นคนที่"ไม่มีความสุขในชีวิต" การใช้ "ปัญญาของเรา" มาพิจารณาความทุกข์ที่เกิดให้พิจารณาว่ามันเป็นสิ่งที่เรา "ปรุงแต่งหรือจิตสังขาร" ขึ้นมาเอง ที่สุดแล้วมันก็แปรเปลี่ยนไป มันไม่มีตัวตนที่แท้จริง
การเจริญปัญญาเจริญวิปัสสนาเปรียบเหมือนกับ "จิต"ของเราคือบ้านหลังหนึ่งที่สกปรกเหลือเกิน ต้องทำความสะอาดบ้านต้องอาศัยเครื่องมือเช่น น้ำ ไม้กวาด มาทำความสะอาดให้บ้านสะอาด เครื่องมือที่ทำความสะอาดบ้าน เช่น น้ำ ไม้กวาด "ก็เป็นจิตอีกดวงหนึ่ง" นั้นเอง
การเจริญปัญญาจะทำให้เราจิตของเราสะอาดมากขึ้นรู้เท่าทันความทุกข์มากขึ้นและสุดท้ายอยุ่เหนือความทุกข์ เราจะพบกับความสุขอย่างมากการมี "ชีวิตอยู่ในปัจจุบัน" ชีวิตที่สะอาด สว่าง สงบ เราจะค้นพบกับปรากฎการณ์ดังกล่าว
เหมือนกับการพิจารณาความทุกข์จาก "ความตาย" หรือการพลักพรากจากสิ่งที่เรารักชอบ การพิจารณาความตายในชีวิตประจำวันจากสิ่งที่เราได้พบเจอ เช่น การไปงานศพ คนที่เรารักได้จากไป จะทำให้ "ปลงกับชีวิต" คำว่า "ปลงกับชีวิต" ไม่ใช้ว่าจะทำให้เราเหนื่อยหน่ายกับชีวิต ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไมเดี๋ยวก็ตายแล้ว ไม่ต้องทำอะไร แต่ความจริงเมื่อเราเจริญปัญญาในเรื่อง "ความตาย" จะทำให้จิตของเรายอมรับความจริงกับชีวิตว่าที่สุดก็ต้องตาย จะทำให้ใช้ชีวิตอย่าง "สงบ"และมี"ความสุข" ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างรู้คุณค่า
โฆษณา