5 พ.ย. เวลา 10:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

พิชัย' รมว.คลัง ชี้ ค่าเงินบาทผันผวน ไทยต้องรักษาเสถียรภาพ

พิชัย' รมว.คลัง ชี้ ค่าเงินบาทผันผวน ไทยต้องรักษาเสถียรภาพ-เพิ่มศักยภาพการส่งออกระยะยาว
นายพิชัย ชุณหวชิร รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2567 โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม โดยกล่าวถึงช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศสูงสุดในรอบ 10 ปี ว่า หลังจากมีนักลงทุนเข้ามาลงทุน สิ่งที่เราต้องทำ คือ ทำให้การผลิตเป็น Local Content (สัดส่วนมูลค่าการผลิตและวัตถุดิบในประเทศ) เพิ่มมากขึ้น
'พิชัย' รมว.คลัง ชี้ ค่าเงินบาทผันผวน ไทยต้องรักษาเสถียรภาพ-เพิ่มศักยภาพการส่งออกระยะยาว ย้ำ ไม่เข้าแทรกแซงแน่นอน
เมื่อใช้วัตถุดิบในประเทศแล้ว โครงสร้างความเป็นเจ้าของก็จะเป็นของคนไทย ไม่ใช่แค่นำเข้าวัตถุดิบเพื่อมาประกอบ ถือเป็นเรื่องดีที่มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้ไทยต้องเร่งพัฒนาศักยภาพ
สำหรับสถานการณ์ค่าเงินบาทจะแข็งค่าหรืออ่อนค่ามี 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือ หากเงินบาทอ่อนค่า เราต้องรักษาเสถียรภาพค่าเงินไม่ให้อ่อนค่าน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรักษาความสามารถในการส่งออก
ส่วนอีกประเด็น คือ สกุลเงินของแต่ละประเทศจะผันผวนไปตามเงินดอลลาร์ แต่ขณะนี้สถานการณ์ไม่เหมือนในอดีต ประเทศไทยมีสภาพคล่อง มีเงินสำรองเพียงพอที่จะดูแลเรื่องเหล่านี้ได้ จึงมองว่าปัญหาเหล่านี้คงไม่มากนัก โดยสิ่งที่สำคัญที่อยากเห็นคือความสามารถในการส่งออก โดยปัจจุบันยังมีช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่ง และบางช่วงก็อ่อนค่ากว่า แต่อยากให้มองในระยะยาว
เพราะฉะนั้นอัตราแลกเปลี่ยนเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น แต่แน่นอนว่าคงไม่ได้เข้าไปแทรกแซง โดยย้ำว่าอัตราแลกเปลี่ยนมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่รูปแบบการส่งออกเปลี่ยนไป
เมื่อถามว่าในที่ประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีการสอบถาม เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ทุกคนเห็นตรงกันว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีทั้งระยะสั้น กลาง ยาว โดยระยะกลาง-ยาว ส่วนมากเป็นโครงการใหญ่ เพื่อรองรับการลงทุนจากภาครัฐและเอกชน เป็นมาตรการที่จะทำให้ต้นทุนของเอกชน อยู่ในขีดความสามารถที่จะแข่งขันได้ เช่น การขนส่ง การเดินทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำตั้งแต่วันนี้ แต่ก็ยอมรับว่ามาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจระยะสั้นก็มีความจำเป็น
เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากฟื้นและแข็งแรง เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจระยะกลางและระยะยาวต่อไป เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าที่พูดคุยกันตอนนี้เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ขณะที่นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในประชุมกระทรวงการคลังได้มีการ พูดคุยถึงเรื่องการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้การเบิกจ่ายของงบลงทุนได้ถึง 80% ตั้งแต่ช่วงต้นปีงบประมาณ 2568 ซึ่งหากทำได้ก็เชื่อว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยได้มีการขอความร่วมมือทุกกระทรวง ซึ่งเรื่องนี้สามารถทำได้เลย เม็ดเงินที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้โดยที่ไม่ต้องมีมาตรการอื่น
เมื่อถามว่าช่วงสิ้นปี 2567 จะมีมาตรการใด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจบ้าง นายลวรณกล่าวว่า ในที่ประชุมยังไม่ได้มีการหารือเรื่องนี้ วันนี้เป็นเพียงการรายงานของส่วนราชการต่างๆ บางเรื่องเป็นความคืบหน้า บางเรื่องเป็นอุปสรรคที่ต้องการให้นายกฯ รับทราบและแก้ไข บางเรื่องเป็นการขอความร่วมมือข้ามกระทรวง
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่กระทรวงการคลังได้จัดทำ Data lake หรือการจัดเก็บข้อมูลส่วนกลาง ของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากและจะมีประโยชน์มากกว่านี้ถ้ามีข้อมูลของส่วนราชการอื่นๆที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ซึ่งหลังจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการจะเป็นผู้ดูแลต่อไป
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/monetary/235940
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา