5 พ.ย. เวลา 05:34 • ความคิดเห็น
บังเอิญว่าครอบครัวเรามีหมอดูประจำ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แกมีศักดิ์เป็นอากู๋ หรือน้องชายของแม่เรา แกเป็นหมอดูตำราจีน ดูทั้งดวงชะตาและการวางฮวงจุ้ย แรกๆ เราไม่ชอบเอาเสียเลย เพราะเบื่อตรงที่ไปทีไรก็ต้องไปนั่งรอ เพราะแกจะนัดตรวจดวงเฉพาะวันพุธและพฤหัส เราจำยอมไปกับแม่ จนกระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่เราได้พบว่า ดร.ประไพพัตร โขมพัตร เป็นหนึ่งในผู้มาตรวจดวงกับอากู๋เราทุกปี ใครจะคิดว่านักข่าวสาวที่มั่นใจในตัวเองสูงขนาดนั้น จะสนใจการดูดวง และกลายเป็นลูกค้าประจำที่ไม่เคยพลาดเลย แถมพาสมัครพรรคพวกตามมาอีกด้วย
ในอีกมุมหนึ่ง เราคงต้องยอมรับว่า การดูดวงคือโหรา "ศาสตร์" และเมื่อมันมีคำว่า"ศาสตร์ " ก็แปลว่า มันคือองค์ความรู้อย่างหนึ่งที่มีมาแต่โบราณ สั่งสมมารุ่นต่อรุ่นนานนับพันปี ดังนั้น พวกเราจึงไม่ควรหมิ่นแคลน "ตัวองค์ความรู้ที่เป็นศาสตร์" พวกเรามีหน้าที่ใช้สติปัญญาในการพิจารณาแยกแยะ บนความน่าเชื่อถือของ "ตัวบุคคล" ที่นำศาสตร์มาใช้ เพราะหลายคนนำมาแอบอ้าง ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการที่มีคนหลายกลุ่ม มักหยิบยกนำเอาหลักคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า "มาแอบอ้างว่าตนรู้ดีที่สุด"
1
หากเราไม่ชอบอ่านหนังสือ เราก็จะไม่มีพื้นฐานความรู้ หากเราชอบคำพูดที่หวานหู เราก็จะเจอคนเจ้าชู้ปากหวาน หากเราหลงตัวเอง เราก็จะเจอคนที่มักยกยอปอปั้น หากเราเชื่อใน "ตัวบุคคล" มากกว่า "แก่นสาร" เราก็จะเจอกับคนที่พูดจาโน้มน้าวดุดันกระแทกใจไปหมดทุกเม็ด!
แม้คุณเบียร์ก็แค่มุนษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
ที่จบนิเทศน์ เอกสื่อสารแบรนด์
ที่มีประสบการณ์คลุกคลีกับผู้คน จนรู้อุปนิสัยสันดาน
ที่อ่านตำรับตำราและฝึกปฏิบัติ
(โปรดอ่านทวนเจตนาเราซ้ำหลายๆครั้ง)
แก่นคำสอนพระพุทธเจ้าคืออะไร?
1
โฆษณา