6 พ.ย. เวลา 20:45 • สุขภาพ

เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก หายใจไม่อิ่ม เกิดจากปัจจัยและโรคอะไรได้บ้าง?

อาการหอบเหนื่อยและเจ็บหน้าอกเป็นอาการที่พบบ่อยอาการหนึ่ง ซึ่งอาจได้เกิดจากปัจจัยธรรมดา หรือจากโรคและภัยที่ควรใส่ใจ อย่างโรคปอดและหัวใจ
คนปกติต้องหายใจ เมื่อหายใจเข้าร่างกายจะนำออกซิเจนซึ่งมีอยู่ในอากาศไปให้ร่างกายใช้และเมื่อหายใจออกเพื่อนำเอาคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นของเสียที่สร้างขึ้นในร่างกายออกไป การหายใจควบคุมโดยศูนย์ควบคุมการหายใจในสมอง ซึ่งควบคุมให้ปริมาณการหายใจเป็นสัดส่วนกับความต้องการของออกซิเจนในร่างกาย โดยที่ตัวเองไม่ต้องรับรู้ (Involuntary Breathing) เมื่อร่างกายต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้น ศูนย์ควบคุมการหายใจก็จะกระตุ้นให้หายใจเพิ่มขึ้นตาม เมื่อต้องการออกซิเจนน้อยลง ศูนย์ควบคุมการหายใจจะสั่งให้หายใจน้อยลง
เหนื่อยหอบ
โดยไม่รู้สึกตัวว่าหายใจมากหรือหายใจน้อย แต่ตัวเองสามารถควบคุมการหายใจได้เช่นกัน เช่น ถ้าต้องการจะกลั้นหยุดหายใจหรือจะหายใจเร็วก็สามารถทำได้ (Voluntary Breathing) การหายใจต้องใช้พลังงานโดยมีกล้ามเนื้อช่วยการหายใจ ได้แก่ กล้ามเนื้อที่ยึดซี่โครงของทรวงอกและกระบังลมหดตัว ทำให้ทรวงอกเคลื่อนไหวเป็นตัวสำคัญ
อาการเหนื่อยง่าย หมายถึง เมื่อเราออกกำลังแล้วเหนื่อย ในขณะที่คนปกติอื่น ๆ ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันทำได้สบายโดยไม่มีอาการอะไร ดังนั้นพูดง่าย ๆ คือ คนอื่น ๆ เขาทำได้สบาย ไม่เหนื่อย แต่เราทำบ้างกลับมีอาการเหนื่อย
สาเหตุการเหนื่อยและหายใจไม่อิ่ม
สาเหตุจากโรคเรื้อรัง
โรคปอด สถิติจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ามารับการตรวจจากแพทย์ปีละ 24.4 ล้านราย และระบบไหลเวียนของเลือด 7.2 ล้านราย อัตราการตายของคนไทยจากโรคปอด ซึ่งรวมถึงปอดบวมและวัณโรค ด้วยอัตรา 31.9 ต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งเป็นโรคหัวใจจะมีอัตราตาย 27.7 จากประชากร 100,000 คน สำหรับโรคปอดในผู้ป่วยที่อายุน้อยและหนุ่มสาวมักเป็นโรคหอบหืด ส่วนคนอายุมากมักจะเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรังและถุงลมปอดโป่งพอง
โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ โรคนี้ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วย ผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 25 ปีมีโอกาสเป็นโรคเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ 0.2 รายต่อประชากร 100,000 ราย อายุ 35 – 44 ปีมีโอกาสเป็น 14.7 รายต่อประชากร 100,000 ราย อายุ 75 – 84 ปี มีโอกาสเป็น 1252.2 รายต่อประชากร 100,000 ราย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ถ้าผู้ป่วยมีอายุน้อยกว่า 44 ปี ไม่มีอาการเจ็บ ไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง โดยเฉพาะมีเอกซเรย์หัวใจและคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
ปกติแล้วอาจพูดได้เลยว่า โอกาสที่อาการเหนื่อยง่ายจะเป็นจากโรคหัวใจนั้นน้อยมาก แต่ถ้าผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจก็มีความจำเป็นที่ต้องให้แพทย์ผู้ชำนาญการทางโรคหัวใจตรวจหาสาเหตุที่แน่นอนและรักษาอย่างต่อเนื่อง
โรคอื่น ๆ ที่ทำให้มีอาการเหนื่อยอย่างปัจจุบัน
จากอุบัติเหตุเกิดบาดเจ็บที่ทรวงอก เพราะอาจมีอันตรายถึงปอดและหัวใจ โรคอื่น ๆ ที่ทำให้มีอาการเหนื่อยเรื้อรัง
- โรคสมองและประสาทเลี้ยงกล้ามเนื้อ (Neuromuscular Disease) เช่น หลอดเลือดเลี้ยงสมองตีบ โรคกล้ามเนื้อฝ่อ (Muscular Atrophy or Dystrophy) และ Myasthenia Gravis เป็นต้น
- โรคทางสมองส่วนใหญ่การตรวจร่างกายก็พอจะบอกได้ว่าเป็นโรคทางสมองหรือไม่ แต่จะเป็นชนิดไหนนั้นต้องมีการตรวจและรักษาต่อ โดยแพทย์ผู้ชำนาญทางสมอง จมูกอักเสบเรื้อรัง
- โรคโลหิตจาง
- โรคคอพอกเป็นพิษ ต่อมไทรอยด์ทำงานเกินขนาด (Thyrotoxicosis or Hyperthyroidism)
ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย (Hypothyroidism)
การพิการของกระดูกทรวงอกจำกัดการเคลื่อนไหวของทรวงอก ทำให้การหายใจลำบากขึ้น ออกแรงมากขึ้น
กรดในกระเพาะไหลย้อนกลับ (Gastroesophageal Reflux) และท้องอืด
- โรคไตเรื้อรัง
- โรคตับในระยะรุนแรง
สาเหตุเหนื่อยง่ายที่ไม่ใช่จากโรค
ออกกำลังกายน้อยมาก ไม่ค่อยได้ออกกำลัง (Physically Unfit)
กำลังฟื้นตัวจากไข้
พักผ่อนไม่เพียงพอ
เครียด กังวล ท้อใจ (เหนื่อยใจ)
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่มาหาด้วยอาการเหนื่อยง่ายมักไม่ได้เกิดจากโรค แต่มีโรคจำนวนมากที่ทำให้เกิดอาการเหนื่อย หากไม่รักษาหรือรักษาช้าไปอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหรือต้องพิการมีอาการเหนื่อยไปตลอดชีวิต
ความรุนแรงของอาการเหนื่อย
แพทย์มักถามถึงความรุนแรงของอาการเหนื่อยว่ามีมากน้อยเพียงใดโดยดูความสามารถในการออกกำลังเพื่อประเมินดูสมรรถภาพผู้ป่วยและความรุนแรงของโรค ที่ใช้กันทั่วไปแบบง่าย ๆ คือ ใช้ Word Scale (Modified Medical Research Council Scale) โดยแบ่งเป็น Grade 0 ถึง 4
Grade 0 ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ยกเว้นไปออกกำลังอย่างหนัก
Grade 1 มีอาการเหนื่อยเมื่อเดินเร็ว ๆ บนทางราบหรือเดินขึ้นเขา
Grade 2 ต้องเดินบนทางราบได้ช้ากว่าคนปกติที่มีอายุขนาดเดียวกันเพื่อหลีกเลี่ยงเกิดอาการหอบเหนื่อยหรือต้องหยุดพักเพื่อหายใจเมื่อเดินบนทางราบได้ระยะหนึ่ง
Grade 3 ต้องหยุดพักหายใจเพราะเหนื่อย เมื่อเดินได้ประมาณ 100 หลา หรือในราว 2 – 3 นาที
Grade 4 มีอาการเหนื่อยเมื่อต้องออกจากบ้านหรือเหนื่อยเมื่อสวมหรือถอดเสื้อผ้าออกเอง หรืออาจใช้การแบ่งของสมาคมโรคหัวใจของนครนิวยอร์ก (New York Heart Association Functional Classification) ที่แบ่งออกได้ ดังนี้
Class I ออกกำลัง (Physical Activity) ได้ไม่จำกัดเหมือนคนปกติ
Class II จำกัดการออกกำลังเพียงเล็กน้อย ไม่เหนื่อย สบายดีไม่มีอาการถ้าอยู่เฉย ๆ แต่ออกกำลังตามธรรมดามีอาการเหนื่อยบ้าง
Class III ต้องจำกัดการออกกำลังอย่างมาก ไม่เหนื่อย สบายดีไม่มีอาการถ้าอยู่เฉย ๆ ออกกำลังเล็กน้อยก็เหนื่อย
Class IV ไม่สามารถออกกำลังได้โดยไม่เหนื่อย แม้แต่อยู่เฉย ๆ ก็อาจจะเหนื่อย อาการจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อออกกำลังเพิ่มขึ้น
หน่วยกายภาพบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพหลายแห่งจะใช้การแบ่งที่ละเอียดกว่าในการประเมินอาการและติดตามผลการรักษาผู้ป่วย เช่น ใช้ Rating Scale for Dyspnea (Modified Borg Scale) เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/health/care/6074
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา