เมื่อวาน เวลา 07:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุป ตำนานพรรครีพับลิกัน จาก อับราฮัม ลินคอล์น สู่การกลับมาอีกครั้งของ ดอนัลด์ ทรัมป์

“รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน จะไม่สลายหายไปจากโลกนี้..”
คือประโยคปิดท้ายสุดทรงพลังของ อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของประเทศสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีคนแรกจากพรรครีพับลิกัน
2
โดยสุนทรพจน์อมตะนี้ ไม่ได้เกิดจากการเขียนสคริปต์อย่างประณีตแต่อย่างใด เพราะเขาได้โยนมันทิ้งไปก่อนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์หลังจบสงครามกลางเมือง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ก็มีประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันอีกมากมาย โดยล่าสุดก็เป็น ดอนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะกลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 หลังจากเคยเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ไปแล้วครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม นอกจากอับราฮัม ลินคอล์น และดอนัลด์ ทรัมป์ แล้ว เรื่องราวของพรรครีพับลิกัน มีอะไรน่าสนใจ และประธานาธิบดีจากพรรคนี้ มีใครมีชื่อเสียงโด่งดังบ้าง
MONEY LAB จะมาสรุปเรื่องนี้ ให้เข้าใจ
- ยุคของ อับราฮัม ลินคอล์น (1861-1865)
พรรครีพับลิกันเริ่มต้นในปี 1854 โดยมีอุดมการณ์เริ่มต้นจากการต่อต้านระบบทาส โดยพรรคได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งแรกในปี 1860 ภายใต้การนำของ อับราฮัม ลินคอล์น
อับราฮัม ลินคอล์น จึงได้กลายมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 โดยมีนโยบายที่โดดเด่น อย่างการเลิกทาส
ซึ่งนำมาสู่สงครามกลางเมืองอเมริกา ระหว่างฝ่ายเหนือซึ่งก็คือรัฐบาลกลาง ที่สนับสนุนการเลิกทาส และฝ่ายใต้ที่สนับสนุนให้ยังมีทาสอยู่
สุดท้าย สงครามจบลงที่ชัยชนะของฝ่ายเหนือ และสิ้นสุดยุคของการมีทาสในสหรัฐอเมริกา
- ยุคของ ธีโอดอร์ โรสเวลต์ (1901-1909)
ประธานาธิบดีที่มีชื่อเสียงจากพรรคนี้ คนต่อมาคือ ธีโอดอร์ โรสเวลต์ ประธานาธิบดีคนที่ 26
นโยบายเด่นในยุคของโรสเวลต์ ประกอบด้วย “Trust Buster” ที่เน้นต่อต้านการผูกขาดทางธุรกิจ และ “Square Deal” ที่พยายามสร้างความสมดุลระหว่างทุนใหญ่ แรงงาน และประชาชนทั่วไป
โดยเรื่องน่าสนใจเล็ก ๆ ของประธานาธิบดีท่านนี้ก็คือ ท่านมีสัตว์เลี้ยงเป็นลูกหมีดำ ที่เก็บมาเลี้ยงจากตอนออกไปล่าสัตว์ ซึ่งกลายเป็นต้นแบบของ “ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้” ในเวลาต่อมา
1
- ยุคของ ริชาร์ด นิกสัน (1969-1974)
ริชาร์ด นิกสัน เป็นประธานาธิบดีคนที่ 37 โดยในยุคนี้เป็นยุคสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม เพราะมีประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงต่อต้านสงคราม นำไปสู่การที่สหรัฐอเมริกาได้ถอนทหารออกไปจากประเทศเวียดนาม
5
สำหรับเหตุการณ์โด่งดังที่เกิดขึ้นในสมัยนี้ ก็อย่างเช่น การเปิดความสัมพันธ์กับประเทศจีน และการยกเลิกมาตรฐานทองคำ ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่มีทองคำมาค้ำมูลค่าอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามยุคของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ก็จบลงไม่ค่อยดีนัก เพราะคดีวอเตอร์เกต ซึ่งเป็นเหตุการณ์การดักฟัง และขโมยเอกสารลับของพรรคเดโมแครต ที่ตึกวอเตอร์เกต
2
- ยุคของ โรนัลด์ เรแกน (1981-1989)
โรนัลด์ เรแกน เป็นประธานาธิบดีคนที่ 40 โดยในยุคนี้สหรัฐอเมริกามีการปฏิวัตินโยบายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ที่รู้จักกันในชื่อ “Reaganomics”
3
Reaganomics เป็นนโยบายที่จะเน้นไปที่การลดภาษี ลดการใช้จ่ายของภาครัฐ และลดข้อกำหนดกฎเกณฑ์การควบคุมเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อสูงพร้อมเศรษฐกิจชะงักงัน หรือ Stagflation
และในยุคนี้ นโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา จะทำผ่านกลไกนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก
ผลจากนโยบาย Reaganomics ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีการเติบโตเป็นช่วงระยะเวลาที่ยาวนานที่สุด มีอัตราการว่างงานลดลง และแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้
- ยุคของ ดอนัลด์ ทรัมป์ (2017-2021)
ดอนัลด์ ทรัมป์ เริ่มต้นจากการต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว จนกลายมาเป็นมหาเศรษฐีได้ ก่อนที่จะตัดสินใจตบเท้าเข้ามาสู่เส้นทางการเมือง
และต่อมาในปี 2017 เขาได้กลายมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 มีนโยบายชูโรงคือ การทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกากลับมาเป็นมหาอำนาจของโลกอีกครั้ง
ผ่านมาตรการ อย่างเช่น การตั้งกำแพงภาษีกับประเทศจีน ซึ่งนำไปสู่สงครามการค้า และการสร้างกำแพงเพื่อป้องกันปัญหาผู้อพยพ ที่จะเข้ามาแย่งงานคนอเมริกัน
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่า เราน่าจะเข้าใจกันดีขึ้นแล้วว่า จากจุดเริ่มต้นมาจนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาพรรครีพับลิกัน มีพัฒนาการของนโยบายเป็นอย่างไร และมีประธานาธิบดีคนไหนโดดเด่นบ้าง
จากพรรคที่มีจุดเริ่มต้นมาจากอุดมการณ์การเลิกทาส ภายใต้การนำของรัฐบุรุษอย่าง อับราฮัม ลินคอล์น ตามมาด้วยประธานาธิบดีชื่อดังอีกหลายคนที่มาสร้างตำนานทางการเมือง ต่อจากเขา
และวันนี้ เรากำลังจะมีประธานาธิบดีจากพรรคนี้อีกคนแล้ว นั่นก็คือ “การกลับมาอีกครั้ง ของ ดอนัลด์ ทรัมป์..”
โฆษณา