Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 14:15 • ไลฟ์สไตล์
เงิน งาน และความหมายของชีวิต
คีอานู รีฟส์ กับการใช้ชีวิตให้มีความหมาย มากกว่าแค่การสะสมเงินในบัญชีให้มากขึ้น
วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกอีกด้านหนึ่งของ คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) หนึ่งในดาราฮอลลีวูดที่หน้าตาหล่อเหลา เท่เหนือกาลเวลา จนหลายคนแอบล้อเล่นกันว่าเขาอาจเป็นแวมไพร์ เพราะรูปร่างหน้าตาของเขาดูไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และยังรวยระดับท่านเคานต์!
ตามรายงานของ Celebrity Net Worth เขาเป็นนักแสดงระดับ A-List ที่มีทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลกว่า 380 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 13,832 ล้านบาท) แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนหลงรักเขากลับไม่ใช่ตัวเลขในบัญชีธนาคาร หากเป็นพรสวรรค์ด้านการแสดงและจิตใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตาต่อผู้ร่วมงานและคนรอบข้างซะมากกว่า
จากเด็กหนุ่มที่เคยทำงานในร้านขายของชำและลานสเก็ต คีอานูได้พัฒนาตัวเองจนก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ที่มีทรัพย์สินหลักหมื่นล้าน เส้นทางการใช้ชีวิตให้มีความหมาย มากกว่าแค่การสะสมเงินในบัญชีให้มากขึ้นของ คีอานู รีฟส์ เป็นยังไงมาอ่านกันได้เลยครับ
[ จากโทรอนโต สู่ฮอลลีวูด ]
คีอานู รีฟส์ เกิดในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1964 แต่มาเติบโตในโทรอนโตและถือสัญชาติแคนาดา เขามีเชื้อสายหลากหลายจากทางพ่อที่เป็นชาว อเมริกัน เชื้อสายจีน-อังกฤษ-ไอริช-โปรตุเกส และแม่ชาวอังกฤษ ในวัยเด็กพ่อกับแม่ของหย่าร้างกันตอนเขาอายุ 3 ขวบ ทำให้ต้องเติบโตมากับแม่และน้องสาวอีกสองคน
จุดเริ่มต้นการเป็นนักแสดงของคีอานู รีฟส์ เริ่มขึ้นเมื่อแม่ของเขาแต่งงานใหม่กับ Paul Aaron ผู้กำกับละครบรอดเวย์ ผู้จุดประกายความรักในศิลปะการแสดงและดนตรีร็อกให้กับเด็กชายคีอานู จนเขาเริ่มแสดงละครเวทีตั้งแต่อายุ 9 ขวบกับคณะ Damn Yankees ในโทรอนโต
แม้เขาจะมีพรสวรรค์ในด้านการแสดง แต่เส้นทางการศึกษาของเขาไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากมีภาวะ Dyslexia หรือความบกพร่องในการอ่าน ทำให้เรียนไม่ทันเพื่อน และมักถูกล้อเลียน จนต้องลาออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 17 ปี เขาเลือกทำงานพาร์ทไทม์หลายอย่าง ทั้งลับใบมีดสเกตน้ำแข็งและทำงานที่ร้านขายของชำอิตาเลียน เพื่อเก็บเงินไปไล่ตามความฝันที่ฮอลลีวูด
จนอายุได้ 20 ปี คีอานู รีฟส์ ก็ย้ายไปลอสแอนเจลิส และเริ่มสร้างชื่อจากภาพยนตร์ "River's Edge" (1986) และ "Youngblood" (1986) ในบทบาทนี้เขาแสดงเป็นนักกีฬาฮ็อกกี้ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เขาได้รับการยกย่องในวงการแสดง แม้จะได้รับค่าตอบแทนเพียง $3,000 เท่านั้นในบทแรก (ปัจจุบันเขาได้รับค่าตอบแทนสูงถึง $30 ล้านจากภาพยนตร์ The Matrix ภาคสุดท้าย)
ในช่วงวัยรุ่นอาชีพนักแสดงไม่ใช่อาชีพเดียวของเขาเพราะใน ปี 1991 คีอานู รีฟส์ เคยเป็นมือเบสในวงร็อก - อัลเทอร์เนทีฟที่ชื่อว่า Dogstar และออกผลงานในฐานะวงถึง 2 อัลบั้ม ก่อนที่ Dogstar จะแยกวงในปี 2002
[ อะไรบ้างที่สร้างชื่อ ‘คีอานู รีฟส์’ ]
คีอานู รีฟส์ แจ้งเกิดในวงการบันเทิงจริงๆ ในปี 1994 จากภาพยนตร์เรื่อง "Speed" ในบทบาทตำรวจที่ต้องหยุดยั้งระเบิดบนรถบัสสาธารณะ แม้หนังจะประสบความสำเร็จอย่างงดงามและค่ายอยากให้เขามาเล่นต่อในภาค 2 แต่เขากลับปฏิเสธค่าตัว 11 ล้านเหรียญ เพื่อไปแสดงละครเวที Hamlet แทน ด้วยเหตุผลว่าบทกวีคลาสสิกของเชกสเปียร์มีความลึกซึ้งมากกว่า การตัดสินใจครั้งนั้นทำให้เขาถูกแบนจาก 20th Century Fox นานถึง 11 ปี
แต่โชคชะตาพลิกผันครั้งใหญ่อีกครั้งในปี 1999 เมื่อเขารับบท 'นีโอ' ในภาพยนตร์ "The Matrix" ผลงานที่คว้ารางวัลออสการ์ 4 สาขา ด้วยการนำเสนอโลกไซไฟและปัญญาประดิษฐ์ในมุมมองที่ไม่เคยมีมาก่อน ภาพของคีอานูในชุดหนังดำ แว่นตาดำ และฉาก Bullet Time อันโด่งดัง กลายเป็นไอคอนของวงการหนังที่ติดตัวเขาไปตลอดกาล
หนังเรื่องนี้ยังสร้างรายได้จากทั่วโลกได้ถึง 463 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียง 63 ล้านเหรียญ และนำไปสู่การสร้างภาคต่ออีก 2 ภาค ในเวลาต่อมา และเขาก็มีงานแสดงออกมาอีกเรื่อยๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของเรื่องราวความสำเร็จในวงการภาพยนตร์ของเขา
นักแสดงระดับตำนานหลายครั้งมักจะถูกจดจำจากบทนำในภาพยนตร์ระดับตำนานเพียงครั้งเดียวในชีวิต แต่ คีอานู รีฟส์ ทำสำเร็จอีกครั้งจากการแสดงหนังเรื่อง John Wick (2014) ในบทของอดีตมือสังหารผู้ไม่กลัวตาย และตั้งใจจะล้างบางเหล่ามาเฟียเพื่อสนองความแค้นอย่างสาสม หลังจากที่คนในแก๊งขโมยรถสุดรักและฆ่าสุนัขสุดหวงของเขา
John Wick ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนต้องมีการสร้างภาคอื่นๆ ขึ้นมาอย่าง John Wick Chapter 2, John Wick: Chapter 3 - Parabellum และภาคสุดท้าย ‘John Wick: Chapter 4’ มีรายงานจาก
Deadline.com
ว่ารายได้รวมของแฟรนไชส์ ‘John Wick’ ทะลุหลัก 1,000 ล้านเหรียญ และ ‘John Wick: Chapter 4’ ก็ได้ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดในแฟรนไชส์
ทั้ง The Matrix และ John Wick ไม่เพียงเป็นภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ แต่ยังได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมและนักวิจารณ์ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสำเร็จในชีวิตของคีอานู รีฟส์เท่านั้น
[ คีอานู รีฟส์ เอาเงินจากไหนมาแจก Rolex ให้สตั๊นท์แมน ]
รายได้ก้อนใหญ่ของคีอานู รีฟส์ มาจากแฟรนไชส์หนังต่างๆ ตั้งแต่ The Matrix (1999) ที่เขาได้ทั้งค่าตัวและส่วนแบ่งรายได้ 10% จากภาคแรก และ 15% จากสองภาคหลัง รวมแล้วมากกว่า 256 ล้านดอลลาร์
นอกจากงานแสดงแล้ว คีอานู รีฟส์ ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Arch Motorcycle ในปี 2011 ซึ่งเป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์บูติก กับการ์ด ฮอลลิงเจอร์ เขากล่าวว่า “ผมรักทุกอย่างเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์” และได้สร้างแบรนด์นี้ขึ้นเพื่อแบ่งปันความรักในมอเตอร์ไซค์ให้กับคนอื่น Arch Motorcycle เป็นแบรนด์คัสตอมไบค์ที่ไม่ธรรมดา เพราะนอกจะก่อตั้งโดย คีอานู รีฟส์ แล้วราคาของบิ๊กไบค์รุ่นแรกอย่าง Arch KRGT-1 ก็มีราคาที่สูงถึง 93,000 ดอลลาร์ หรือเกือบ 3 ล้านบาท
แม้จะไม่มีข้อมูลมากนัก แต่ตัวเลขเท่านี้ก็ทำให้เขาเข้าใกล้การเป็นนักแสดงที่ได้รับค่าตอบแทนสูงสุดตลอดกาลแล้ว แต่เรื่องราวความมั่งคั่งของเขาไม่ใช่ด้านเดียวที่คนสรรเสริญ เพราะ คีอานู รีฟส์ ยังมีชื่อเสียงในด้านการใช้ชีวิตติดดิน แฟนคลับของเขามักเห็นเขาเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ กินอาหารง่ายๆ นั่งคุยกับผู้คนที่เดินผ่านไปมาบนท้องถนน ว่ากันว่าคีอานู รีฟส์ ไม่เคยมีบ้านเลยจนกระทั่งในปี 2003 ที่เขาซื้อในราคา 5.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เพื่อนคนหนึ่งของเขาออกมาเล่ากับสื่อว่า สาเหตุที่ทำให้ คีอานู รีฟส์ ชอบบริจาคเงินช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอเป็นเพราะว่าเขาคิดว่าตัวเองมีเงินมากจนชีวิตนี้ก็ไม่มีทางใช้หมด และรู้สึกแย่ที่ตัวเองมีเงินเยอะจนเกินไป ในขณะที่คนธรรมดาๆที่ไม่มีชื่อเสียงที่ทำงานหนักมากกว่าหลายเท่ากลับได้เงินน้อยกว่าแบบเทียบกันไม่ได้
- เขาเคยมอบโบนัสพิเศษ 20,000 เหรียญ (ราว 670,000 บาท) ให้กับช่างในกองถ่ายที่ประสบปัญหาส่วนตัว
- เคยลดเงินเดือนตัวเองถึง 2 ล้านเหรียญ (ราว 72 ล้านบาท) เพื่อให้โปรเจกต์หนังเรื่อง Devil’s Advocate สามารถดึงตัวอัล ปาชิโน มาเล่นด้วยได้
- เคยซื้อมอเตอร์ไซค์ Harley Davidson ให้ทีมสตันต์ใน The Matrix Reloaded
- เคยมอบนาฬิกาโรเล็กซ์ Rolex Submariner มูลค่าเรือนละ 9,477 เหรียญ (300,000 กว่าบาทต่อเรือน) พร้อมสลักข้อความ “The John Wick Five” และ “Thank you ... Keanu ... JW4 2021"
ตามรายงานของ The Mirror คีอานู รีฟส์ ได้บริจาคเงินไปแล้วกว่า 31.5 ล้านดอลลาร์ให้องค์กรการกุศลต่างๆ และยังก่อตั้งมูลนิธิเอกชนที่เลือกไม่เปิดเผยชื่อ เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลเด็กและสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง
คีอานู รีฟส์ ให้สัมภาษณ์กับ Ladies Home Journal ไว้ว่า "ผมไม่อยากผูกชื่อเสียงของตัวเองไว้กับมูลนิธิ ผมแค่ปล่อยให้มูลนิธิทำหน้าที่ของมันไป ความรู้สึกซาบซึ้งที่ได้ทำประโยชน์ให้ผู้คนเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับผมแล้ว - ผมไม่จำเป็นต้องมีข้าวของมากมายล้อมรอบตัวเพื่อให้รู้สึกแบบนั้น"
1
[ 5 มุมมองเกี่ยวกับเงินที่น่าขบคิดจากเรื่องราวของคีอานู รีฟส์ ]
แม้คีอานู รีฟส์จะมีรายได้มหาศาล แต่เขาแทบจะไม่พูดถึงเรื่องเงินเลย หากเราค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับเงินที่เกี่ยวข้องกับเขาในเสิร์ชต่างๆ เราจะพบแต่เรื่องการบริจาคเงินจำนวนมากให้กับมูลนิธิ รวมถึงการให้ของขวัญกับทีมงานและนักแสดงที่เขาร่วมงานด้วย เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ World Entertainment News Network ว่า
“เงินไม่ได้มีความหมายอะไรกับผม ผมหาเงินได้มากมาย แต่ผมอยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องเครียดเพื่อสะสมเงินในบัญชีให้มากขึ้น ผมบริจาคเงินมากมายและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรมด้วยกระเป๋าเดินทางใบเดียว เราทุกคนรู้ดีว่าสุขภาพที่ดีนั้นสำคัญกว่า”
✅ 1. เงินเพิ่มความเครียด
ตามที่คีอานู รีฟส์ กล่าว “การสร้างเงินในบัญชีธนาคาร” เป็นสิ่งที่เครียด เพราะคุณต้องต่อสู้กับอะไรหลายอย่างเพื่อทำเงิน ยิ่งคุณมีเงินทองมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องใช้เวลาและความเอาใจใส่เกี่ยวกับมันมากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าคุณโลภน้อยลงและอยู่อย่างพอประมาณ เมื่อนั้นคุณก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เหมือนกับที่คีอานู รีฟส์ ไม่ยึดติดกับเงินทองและแบ่งปันรายได้ที่มาจากพรสวรรค์ของเขาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
✅ 2. เมื่อความมั่งคั่งทางการเงินเจริญรุ่งเรือง ด้านอื่นในชีวิตจะประสบปัญหา
นี่คือธรรมชาติของชีวิต เมื่อคุณทำได้ดีในด้านหนึ่ง เช่น การเงิน ด้านอื่นจะประสบปัญหา คีอานู รีฟส์ เคยให้ สัมภาษณ์กับลอเรน เคลลี่ในปี 2008 ไว้ว่า
“ชีวิตส่วนตัวของผมพบกับหายนะที่น่าเบื่อ แต่การทำงานดีมาก”
แม้แต่หนึ่งในนักแสดงที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกก็ยังมีด้านหนึ่งในชีวิตที่เป็นหายนะ เราทุกคนก็เช่นกัน เรามีตัวอย่างที่เห็นได้บ่อยๆ เกี่ยวกับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตด้านอื่นๆของเขากลับต้องพังทลายลง ต้องหย่าร้างกับภรรยาของเขาและลูกๆ ที่มักจะไม่ค่อยได้เห็น
นี่คืออีกตัวอย่างหนึ่งที่บอกเราว่าเรื่องเงินสามารถกลายเป็นสิ่งรบกวนจากสิ่งที่สำคัญอื่นๆในชีวิตได้
✅ 3. เงินเป็นผลพลอยจากสิ่งที่สร้างเท่านั้น
จิมมี่ คิมเมลกล่าวว่ากับคีอานู รีฟส์ไว้ว่า
“ภาพยนตร์ของคุณทำรายได้สามพันห้าร้อยล้านดอลลาร์…”
คีอานู รีฟส์ ตอบกลับอย่างไวว่า “เพราะมันได้ให้ความบันเทิง”
เหมือนกับที่เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์เคยพูดไว้ว่า
“อย่ากังวลเรื่องกำไรมากเกินไป ถ้าคุณทำงานของคุณได้ดี กำไรจะตามมาเอง”
หากงานของคุณสร้างประโยชน์ให้ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ สร้างความบันเทิง มอบแรงบันดาลใจ หรือทำให้คนหัวเราะ เป้าหมายเหล่านี้ย่อมสร้างคุณค่าในตัวเอง และบ่อยครั้งจะนำมาซึ่งรายได้ที่เกินความคาดหมาย เพราะหากโฟกัสเพียงแค่ผลตอบแทนทางการเงิน แม้ว่าจะเป็นแรงจูงใจที่ดี แต่กลับอาจสร้างผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม การทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยความตั้งใจจริงและความหมายจะสร้างความยั่งยืนทั้งในเรื่องของคุณค่าและรายได้
✅ 4. ให้เงินช่วยให้คุณใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
หนึ่งในความท้าทายของชีวิตสมัยใหม่คือความเหนื่อยล้าจากการต้องตัดสินใจตลอดเวลา ทั้งในเรื่องเล็กน้อยและสำคัญ ทุกทางเลือกดึงพลังงานของเรา การมีทรัพย์สินมากขึ้นมักหมายถึงการมีตัวเลือกมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนในการตัดสินใจ วิธีแก้คือการลดจำนวนการตัดสินใจที่ต้องทำในแต่ละวันด้วยการสร้างวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและอัตโนมัติ
เราสามารถใช้วิถีชีวิตของคีอานู รีฟส์เป็นแรงบันดาลใจได้ เช่น การที่เขาหลีกเลี่ยงที่จะใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ร่วมงานปาร์ตี้ของคนดัง ไม่สะสมทรัพย์สินเกินจำเป็น และเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินเสมอ ชีวิตที่เรียบง่ายและเลือกตัดสินใจในสิ่งที่สำคัญจริงๆ ช่วยให้เขาโฟกัสกับสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าเงิน และทำให้การใช้ชีวิตมีความสุขอย่างแท้จริง
✅ 5. แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การทำเงิน ให้ใช้ชีวิตด้วยความเอื้อเฟื้อ
นี่คือบทเรียนที่คีอานู รีฟส์แสดงให้เห็นผ่านการกระทำของเขา ไม่ใช่แค่คำพูด การใช้ชีวิตด้วยความเอื้อเฟื้อไม่เพียงแค่หมายถึงการใช้เงินไปกับการเลือกหาสิ่งดีๆ ให้ตัวเองเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแบ่งปันเวลาที่มีคุณค่า ลองดูทุกครั้งที่คีอานู รีฟส์ มีปฏิสัมพันธ์กับแฟนคลับของเขา ในคลิปต่างๆ บน YouTube หรือ Instagram คีอานู รีฟส์ ได้มอบเวลาอย่างเต็มใจและใส่ใจ ซึ่งเป็นของขวัญที่สำคัญยิ่ง คุณเองก็สามารถเลือกใช้ชีวิตด้วยความเอื้อเฟื้อ ด้วยการให้เวลาที่มีคุณค่าและใส่ใจคนรอบข้างเช่นกัน
🔚 จากเด็กหนุ่มที่ทำงานลับใบมีดสเก็ตในร้านเล็กๆ สู่ดาราระดับโลกที่ติดดินแต่มีทรัพย์สินติดตัวนับหมื่นล้านดอลลาร์อย่าง คีอานู รีฟส์ เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ที่ทำให้เราเห็นว่าความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้วัดกันที่ตัวเลขในบัญชีธนาคาร แต่อยู่ที่การค้นพบความหมายของการใช้ชีวิตของตัวเอง และการได้มีโอกาสได้ให้อะไรบางอย่างกลับคืนสู่สังคมบ้าง - และบางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาดูไม่แก่ เพราะความงดงามของการเป็นผู้ให้นั้นไร้กาลเวลา
#aomMONEY #คนดังกับการเงิน #คีอานูรีฟส์ #KeanuReeves
3 บันทึก
8
1
3
8
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย