Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
I see I write
•
ติดตาม
18 ธ.ค. เวลา 06:51 • ไลฟ์สไตล์
เกาะเกร็ด
บ้านเรา เพื่อนเก่า ก๋วยเตี๋ยวเรือ เบ้าหล่อชีวิต ความคิด และจิตใจ
🏡 ยามที่จากบ้านเกิด แล้วได้พบเห็น ได้สัมผัสบรรยากาศความเป็นบ้านที่เราคุ้นเคยและผูกพัน
ตั้งแต่ รูปทรงบ้าน ฝาไม้เก่า ระเบียงนั่งเล่น และธรรมชาติที่อยู่ใกล้เคียง หรือ รอบ ๆ บ้าน เช่น แม่น้ำ ลำคลอง ทะเลผืนป่า และภูเขา
หลายท่าน คงมีอาการหวลคิดไปถึงบ้านที่เคยพักพิง รวมถึงเรื่องราวแห่งความหลังที่เกิดขึ้นในถิ่นพำนักเดิมนั้น
ซึ่งมีส่วนหล่อหลอมชีวิต ความคิด นิสัยใจคอ ความมั่นคงภายในจิตใจ และมุมมองต่อภายนอกให้เรา 🧑🍼
เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับผม เมื่อนั่งรถตู้มาเที่ยวกับเพื่อน ๆ สมัยเรียนชั้นมัธยมต้นด้วยกันจาก อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อไปยังพื้นที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ในจังหวะที่ลงจากรถตู้ เพื่อแวะชมวิว ถ่ายรูป บริเวณใกล้สะพานสายรุ้ง ริมชายทะเล แถบ ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ก่อนเดินทางต่อไป นั้น
ผมมองไปเห็นบ้านไม้ชั้นเดียวหลังหนึ่ง
ตั้งอยู่ริมทะเล เด่นสง่า อย่างสะดุดสายตาโดยบังเอิญ🏠
ซึ่งบ้านหลังนี้มีหลายสิ่ง หลายอย่าง
ใกล้เคียงกับความเป็นบ้านเดิมของผม
ที่เกาะเกร็ด นนทบุรี
โดยเฉพาะความเป็นไม้ และพื้นที่หน้าบ้านสำหรับนั่งเล่น นอนเล่น ฟังผู้ใหญ่เล่านิทาน เรื่องราวในอดีต
และแหงนดูพระจันทร์ยามคืนเดือนหงายในบางคืน
อีกทั้งตั้งอยู่ริมน้ำคล้ายกัน (แม้จะเป็นน้ำทะเล) จะต่างกันอยู่บ้างตรงที่บ้านของผมนั้น อยู่ริมลำคลองเล็ก ๆ ซึ่งห่างจากแม่น้ำราว ๆ 100 กว่าเมตร
ผมยืนมองบ้านหลังนี้ด้วยความหลงไหล และถ่ายรูปเก็บไว้หลายมุม
บ้าน ใกล้สะพานสายรุ้ง จุดหวลคิด
พอเดินไป เดินมาได้สักพักหนึ่ง...เรื่องราวต่าง ๆ ในวัยเด็ก ที่อยู่ในความทรงจำก็เริ่มผุดขึ้นมา...
คิดไปถึงความสุขบนความเรียบง่ายของพ่อ แม่ พี่น้องที่เคยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในบ้านไม้ ชายคาเดียวกันอย่างอบอุ่น
คิดถึงฉากของความอดทน ต่อสู้ ความเสียสละ และอีกหลาย ๆ ฉากในการดำเนินชีวิตที่มีทั้งความล้มเหลว และความสำเร็จ ปะปนกัน
จากนั้น คิดไปถึงฉากของแม่น้ำ ลำคลอง เรือกสวน ไร่นา ที่มีเพื่อน ๆ ซึ่งเติบโตมาในละแวกบ้านเดียวกัน
เคยวิ่งเล่น เตะบอล ผลัดหัดเล่นกีตาร์
(ที่มีอยู่ตัวเดียว) หาปลา ยิงนก เดินผจญภัยไปตามเส้นทางธรรมชาติเพื่อไปยังท้องนาที่อยู่กลางเกาะ🚶
หัดเล่นกีตาร์ เพลงครู "เหมือนไม่เคย"
โดยที่ระหว่างทางสนุกไปกับการโหนเถาวัลย์ใต้ต้นไทรลอยตัวแบบทาร์ซานในหนังผจญภัยที่โด่งดัง
แล้วหลงทาง ตกหลุม ตกบ่อ ลุยโคลน และกระโดดข้ามท้องร่องสวนมาด้วยกัน
รวมทั้ง ชวนกันเดินหาของเก่าตามลำคลอง และริมแม่น้ำ จำพวก เศษเหล็ก และสายไฟ เพื่อปลอกเอาทองแดงออกไปชั่งกิโลขาย
วันไหนที่โชคดีเจอเศษสตางค์หล่นตามรายทางด้วย ก็เอาสตางค์ไปซื้อขนมแบ่งกันกินด้วยความเบิกบานใจ
ทั้งนี้ การใช้ชีวิตด้วยกันมาในวัยเด็กแบบนี้ มีทั้งที่ถูกใจกันบ้าง ผิดใจกันบ้าง ทว่าทุกคนต่างให้อภัยกัน 🤼
แล้วนำไปใช้เป็นบทเรียนและครูสอนพวกเราโดยไม่รู้ตัว
โดยไม่มีใครชวนใครไปในทิศทางที่จะนำความทุกข์ใจมาให้พ่อแม่ในภายหลัง จึงมักไม่เคยถูกพ่อแม่ห้าม เวลาที่ขอไปเล่นกับเพื่อน ๆ ในละแวกบ้านที่คุ้นเคยกัน🤾
บ้านเดิม@เกาะเกร็ด ติดลำคลองเล็ก ๆ
เมื่อผมใช้เวลากลับไปไล่เรียงความทรงจำอีกครั้งหนึ่ง ถึงจุดเด่น ๆ ที่เรียนรู้จากเพื่อน เสมือนตำราชีวิตที่ประกอบด้วยหลายบทเรียน
ซึ่งมีเพื่อน ๆ ช่วยกันแต่ง ช่างเต็มไปด้วยเรื่องราวที่มีคุณค่ายิ่ง เริ่มจาก...
สมบัติ...ผู้ที่อาสาพาเพื่อน ๆ เดินไปตามท้องนา เวลาปิดเทอมภาคฤดูร้อน และเป็นผู้ชายที่เก่งงานบ้าน งานครัว ช่วยแม่หุงข้าว ทำกับข้าวได้ ตั้งแต่อายุน้อย ๆ
จึงมีทักษะการแก้ไขปัญหาและคล่องตัวสูง นำไปประยุกต์ใช้ในวิชาลูกเสือที่สมบัติชอบและผูกพันตั้งแต่ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาถึงชั้นมัธมศึกษา🏕️
แล้วพัฒนาตนเองเป็นพี่เลี้ยงที่เสียสละดูแลรุ่นน้อง จนเป็นที่รู้จักและยอมรับกันในโรงเรียน
นอกจากนี้ สมบัติยังชอบกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจมากกว่าตำราในห้องเรียน และกล้าฝัน กล้าทำ ทั้งยังกล้านำ
ชักชวนเพื่อน ๆ รวมทีมไปสมัครแข่งขันในรายการต่าง ๆ ทั้งในเกาะเกร็ด และนอกเกาะ นอกเหนือไปจากการเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน ⚽
แถมยังเดินทางเข้ากรุงเทพฯ อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด เพื่อไปสมัครเข้าร่วมโครงการสร้างนักฟุตบอล ของ อาจารย์สุเมธ แก้วทิพยเนตร
ซึ่งเรียนจบหลักสูตรโค้ชฟุตบอลมาจากอังกฤษ และบราซิล มีชื่อสียงโด่งดังในยุคนั้น
สมบัติ จึงก้าวกระโดดในเรื่องภาวะความเป็นผู้นำ ตั้งแต่อายุน้อย ๆ
ส่วน โป๊ะ...นั้น เป็นเพื่อนอีกคนที่มีแบบฉบับของความเป็นช่าง และนักประดิษฐ์ โดยโป๊ะจะทำเครื่องมือ ยิงนก ตกปลาด้วยตัวเอง 🐦🐟
อาทิ หนังสติ๊กยิงนกที่ทำจากง่ามไม้มะม่วง และไม้สะแก รวมทั้ง คันเบ็ดตกปลา ที่ทำจากไม้ไผ่ และกิ่งต้นเต่าร้าง
โป๊ะมักจะทำหนังสติ๊ก และคันเบ็ดเผื่อผมบ่อย ๆ ด้วยเห็นว่า ผมนั้น มักจะทำอะไรชักช้า งุ่มง่าม ไม่ทันกิน 🥰
ทั้งนี้ ภาพจำที่ติดตาผมมาจนถึงทุกวันนี้ คือ
ภาพที่โป๊ะชวนผมไปกู้เบ็ด ซึ่งปักล่อปลาไว้บริเวณป่าช้าวัด ยามคืนเดือนหงาย เมื่อคราวน้ำท่วมเกาะเกร็ด ปี 2518 🌛
ป่าช้าอยู่ด้านหลังวัดปรมัยยิกาวาส (วัดที่มี เจดีย์เอียง ตั้งอยู่ริมน้ำ)
ใจผมตอนนั้นที่กลัว(ผี) เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หันมองไปทางไหนก็ยิ่งเวิ้งว้าง และทันทีที่ได้ยินเสียงปลาตัวหนึ่งฮุบในน้ำ...
ความรู้สึกที่ว่า หัวใจหล่นวูบตกไปอยู่ที่ตาตุ่มหรือเท้าเป็นอย่างไร ได้สัมผัสเป็นครั้งแรกตั้งแต่ครั้งนั้น แต่ผมก็ทำใจดีสู้เสือเอาไว้
เพราะเห็นโป๊ะ นิ่ง และมุ่งไปที่กู้คันเบ็ดแต่ละคัน โดยไม่มีอาการใดที่บ่งบอกถึงความกลัว(ผี) แม้แต่น้อย
ภาพจำต่อมา คือ ภาพที่โป๊ะโชว์หนังสติ๊กที่ทาเลือดนกลงบนง่ามไม้สะแกขัดมัน ซึ่งทำไปด้วยความคึกคะนองตามประสาเด็กในวัยเพียง 13-14 ปี
เสมือนจะบ่งบอกถึงความเป็นนายพรานที่มีฝีมือในการล่า
นอกจากนี้ โป๊ะยังมีฝีมือการประดิษฐ์ว่าวเล่น ช่วงเวลาลมหนาวมาเยือนตอนปลายปี🪁
โดยทำโครงว่าวจากไม้ไผ่ และใช้กระดาษแก้วสีเหลืองใสทำตัวว่าวที่ขอมาจากพระในวัดข้างบ้าน ซึ่งญาติโยมใช้ห่อของถวาย
รวมทั้ง ยังมีน้ำใจคอยสอนและทำงานประดิษฐ์ส่งคุณครูให้ผมหลายชิันงาน
ทุกวันนี้ แม้โป๊ะ จะจากผมไปแล้วก่อนเวลาอันควร แต่ความทรงจำดี ๆ ที่มีต่อโป๊ะ...เพื่อนรัก ยังมีตลอด ในยามที่หวลคิดไปถึงชีวิตที่ผ่านมา
สำหรับ ตุ๊กแก และกุ้ง...เพื่อนอีกสองคนนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องการหาปลา ทั้งโดยการตกเบ็ด และใช้สวิงช้อน
รวมทั้ง ดำน้ำงมหากุ้งก้ามกรามซึ่งซ่อนตัวอยู่ตามซอกก้อนหิน ที่ถมไว้กันคลื่นกัดเซาะพื้นดินตามแนวริมฝั่งแม่น้ำ ด้านหน้าเกาะเกร็ด
แม่น้ำด้านหน้าเกาะเกร็ด
ผมตามเพื่อนทั้งสองคนไปหาปลา ดำน้ำ งมหากุ้งบ้างเป็นครั้งคราว ด้วยความสนุกสนานเป็นที่ตั้ง
นาน ๆ ครั้ง จะฟลุ๊คได้กุ้งตัวเล็ก ๆ ติดไม้ติดมือมาบ้าง
ในขณะที่ ตุ๊กแก และกุ้ง รวมทั้งเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่เชี่ยวชาญการดำน้ำ งมหากุ้ง มีรายได้เป็นระยะ จากการขายกุ้งก้ามกรามให้ร้านอาหารดังย่านปากเกร็ด
นำไปทำอาหารขายจานละหลายร้อยบาทให้นักชิมจากกรุงเทพ ฯ ได้ลิ้มรส
เมื่อชีวิตเติบโตขึ้น เพื่อนสองคนนี้ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับลำน้ำ ราวกับชีวิตลิขิตไว้ให้อยู่ในเส้นทางนี้
โดยตุ๊กแกไปทำงานเดินเรือระหว่างประเทศอยู่หลายปี และกุ้งไปเป็นทหารเรือ
เพื่อนวิ่งเล่นในวัยเด็กที่ผมยกตัวอย่างมานั้น พอถึงวัยหนึ่งที่พวกเขาเติบโตขึ้น สิ่งที่ติดตัวมาอย่างเห็นได้ชัด...
คือ มุมมองที่ดีในการเผชิญต่อปัญหาอุปสรรคน้อยใหญ่ ด้วยความมานะอดทน รวมทั้ง มีทักษะในการปรับตัว คล่องตัวในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
และสามารถทำงานช่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในบ้านได้ด้วยตนเอง
ซึ่งแตกต่างไปจากผม ที่คอยจะเรียกช่างหรือวานญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน มาแก้ปัญหาพื้นฐานให้บ่อยครั้ง เวลาที่ น้ำไม่ไหล ไฟดับ แก๊สไม่ติด💡
และแม้กระทั่งปรับจูนรับสัญญาณโทรทัศน์ดูบอลถ่ายทอดสดไม่ได้ เป็นต้น
พลอยทำให้ภรรยาและลูกไม่กล้าพึ่งฝีมือเรื่องทำนองนี้จากผม ตั้งแต่สร้างครอบครัวด้วยกัน จนถึงทุกวันนี้ 🤣
หลังจากใช้เวลาถ่ายรูปรอบ ๆ บ้าน(เขา) หลังนั้น และเดินกินลม ชมวิว สัมผัสบรรยากาศที่สะพานสายรุ้ง พื้นที่ ต.กาหลง อยู่พักหนึ่ง
สะพานสายรุ้ง จุดแวะชมวิว ถ่ายรูป
จึงเดินทางต่อมาแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านแถบ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ช่วงเวลาที่รับประทานอาหาร มีบางเมนูที่สั่งมาแล้ว กระตุ้นใจให้คิดแว้บหนึ่งไปถึงอาหารรสมือแม่
อย่างน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ซึ่งแม่มักจะทำกินเอง ไม่เคยซื้อจากร้าน และทำถวายพระในบางครั้ง
น้ำพริกกะปิ ผักชะอม ปลาทอด
เสร็จจากรับประทานอาหาร พวกเรา
เดินทางมาถึงที่พัก ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำแม่กลอง แถบ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ในเวลา ประมาณ 4 โมงเย็น
บริเวณที่พัก มีศาลาไม้ริมน้ำอยู่ด้านหน้าให้ผู้มาพักได้นั่งรับลม ชมวิว และเลี้ยงสังสรรค์กันได้
รวมทั้ง ทำบุญใส่บาตรให้กับพระที่มาบิณฑบาตยามเช้า
บุญที่ได้เกิดมาในแผ่นดินนี้
พอได้สัมผัสบรรยากาศริมน้ำแบบนี้อย่างใกล้ชิด ยิ่งทำให้ใจผมที่เครื่องเริ่มติดมาก่อนหน้านี้แล้ว
หันกลับไปโหยหาชีวิตที่ผ่านมาอีกหลาย ๆ มุม ทั้งที่คิดจากมโนภาพเดิม และที่ถูกกระตุ้นจากสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าโดยบังเอิญ...
ก๋วยเตี๋ยวเรือ วิถีขายของดั้งเดิม
ซึ่งเป็นฉากของพี่ตี๋ พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่วิ่งเรืออยู่กลางแม่น้ำแม่กลอง พูดผ่านไมค์ ชักชวนลูกค้าให้ลิ้มลองรสชาติ
ทำให้พวกเราพร้อมใจกันกวักมือเรียกทันทีที่แลเห็นและได้ยินเสียงไมค์ เหมือนโหยหาอดีต และกินเป็นมื้อเย็นไปพร้อมกัน
พอเรือจอดเทียบท่าเรียบร้อย คำสั่งซื้อทะยอยกันมาติด ๆ ตั้งแต่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ บะหมี่ ทั้งแห้ง น้ำใส และ ต้มยำ ตามด้วย เกาเหลา และเย็นตาโฟ
พี่ตี๋ ตอบรับลูกค้าอย่างนิ่มนวลด้วยถ้อยคำว่า..จ้ะ..ทุกครั้งที่รับออเดอร์
ราวกับถูกปลูกฝังเรื่องเอาใจลูกค้ามา
ช้านาน แลดูเป็นธรรมชาติและมาจากสัญชาติญาณภายใน
หยิบเครื่องปรุงที่จัดเรียงไว้อย่างดี
จากนั้น ค่อย ๆ ทำ ด้วยความชำนาญ และใช้เวลาปรุงไม่นานในแต่ละชาม
เป็นข้ออ้างอิงว่า น่าจะผ่านสังเวียนรับมือกับลูกค้ามาอย่างโชกโชน
พอทำครบทุกชาม ระหว่างรอเก็บชามที่กินแล้วเสร็จ ผมคั่นเวลาชวนคุยถามบางเรื่อง เลยทราบว่า พี่ตี๋ รับกิจการต่อมาจากรุ่นคุณพ่อ
และยังมีภาระต้องส่งลูกเรียนหนังสือระดับอุดมศึกษาอีก 1 คน จึงต้องขยันอดทน จัดสรรรายได้ไว้รองรับค่าใช้จ่าย
ทอนตังค์ หลังได้แบงค์พันจากพวกเรา
ถึงตอนนี้...ผมนึกไปถึงพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวเรือแถบริมน้ำย่านเกาะเกร็ด
ในยุคที่ผมเป็นเด็ก
ที่คนรู้จักชื่อกันดีเรียกว่า เจ๊กตี๋ ชื่อเดียวกัน บ้านอยู่เยื้อง ๆ เจดีย์เอียง
ซึ่งขยันขายทุกวัน แทบจะไม่มีวันหยุด อดทนต่อความเหน็ดเหนื่อย เพื่อสร้างอนาคตให้ลูกจากน้ำพักน้ำแรงตนเอง
ไม่ต่างไปจากพี่ตี๋ อัมพวา
บ้านเจ๊กตี๋ อยู่เยื้อง ๆ เจดีย์ด้านหลัง
อย่างไรก็ดี ความทรงจำของผมที่มีต่อก๋วยเตี๋ยวในช่วงเวลาที่ผ่านมาราว ๆ 50 ปี นั้น มีบางมุมแตกต่างไปจากการกินในปัจจุบันอยู่บ้าง
ด้วยยุคนั้น ก๋วยเตี๋ยวไม่ได้มีขายอย่างแพร่หลาย และจัดเป็นอาหารมื้อพิเศษที่ไม่มีโอกาสได้กินบ่อยนัก
จึงมีส่วนทำให้ผมไม่คุ้นเคยในการใช้ตะเกียบคีบเส้น แถมมีอาการเคอะเขิน ขาดความมั่นใจเวลาที่เข้าไปกินก๋วยเตี๋ยวในร้าน ซึ่งเป็นสังคมการกินรูปแบบใหม่ในยุคนั้น
และยังจำได้ว่า ในช่วงวัยเด็ก โอกาสที่จะได้กินก๋วยเตี๋ยว ก็ต่อเมื่อป่วย
ไม่สบาย ตัวร้อน และมักจะกินคู่กับข้าวสวย เพื่อช่วยให้อิ่มท้อง
เมื่อมองจากคนกิน...ก๋วยเตี๋ยว จึงสื่อความหมายถึงการรอคอย และการฝึกเข้าสังคมอย่างหนึ่ง
และหากมองจากคนขาย...ก๋วยเตี๋ยว สามารถยึดเป็นอาชีพ สร้างรายได้ สร้างฐานะ และความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
รวมทั้ง สร้างลูกให้รับผิดชอบ ช่วยเหลือทำมาหากินในบ้าน และผลพลอยได้อีกอย่างที่ตามมา
คือ ลูกเก่งวิชาคณิตศาสตร์อย่างคาดไม่ถึง เพราะได้ฝึกการคิดสตางค์ ทอนสตางค์ค่าก๋วยเตี๋ยวอยู่บ่อย ๆ
อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับผมในห้องสอบวิชาเลขคณิตคิดในใจ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ที่เพื่อน ๆ พากันส่งสัญญาณร้องขอ
ให้วิเชียร เพื่อนคนหนึ่งที่บ้านขายก๋วยเตี๋ยว เอียงกระดาษคำตอบให้เพื่อน ลอก
ก่อนที่คุณครูจะบอกว่าหมดเวลา ให้ทุกคนวางปากกา...✍️
เหมือนกับผู้อ่าน...คงอยากจะบอกผมว่าควรจะเขียนจบในย่อหน้านี้ได้แล้วนะ
ไม่อย่างนั้น จะมีแต่น้ำมากเกินไป
ช่างคลับคล้ายคลับคลากับเสียงเฮียตี๋ ถามย้ำผมอีกครั้งว่า "เอาเล็กแห้ง หรือ น้ำ ครับ"
ในขณะที่ผมเหมือนยังลังเลจะเลือกแบบไหนดี เฮียตี๋ก็ให้ทางเลือกเพิ่มมา
"หรือ จะเอาแบบ..เส้นเล็กน้ำขลุกขลิกจะได้อรรถรสในการกินไปอีกแบบ ครับ"
ในที่สุดผมตัดสินใจเลือก เส้นเล็กน้ำขลุกขลิก 🍜
ว่าแต่ว่า ผู้อ่านจะรู้สึกขลุกขลิกในเรื่องบ้านเรา เพื่อนเก่า และก๋วยเตี๋ยวเรือ
ไปกับผมด้วยหรือเปล่า น้า....
🙏ขอบคุณมากครับ
มุมชัย นัยสอิ้ง/20 ธ.ค.67
แนวคิด
เรื่องเล่า
สื่อทางเลือก
บันทึก
5
5
1
5
5
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย