ฆราวาสออกมาแสดงธรรมได้ ไม่ผิด แต่การพูดจาประจานผู้ปฏิบัติดีไปพร้อมแสดงธรรมนั้นผิด

เมื่อวันก่อนผมได้เข้าแอพฯจีนสีเหลืองแล้วบังเอิญเห็นคลิปฆราวาสผู้ชายที่เป็นอาจารย์สอนพระสูตรท่านหนึ่ง แกยึดบาลีฉบับหลวงเป็นหลัก ได้กล่าวสอนบาลีให้พุทธบริษัทฟัง โดยหยิบยกพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล ว่าเป็นผู้ไม่รู้บาลี จึงสั่งสอนธรรมผิดๆให้พุทธบริษัท โดยประกาศในแอพฯเหลืองว่า ยะมะสะ ไม่ใช่ชื่อเรียกพญายม บาลีที่ถูกต้องจะต้องเรียกว่า ยมราช (ยะมะราชะ) และยืนยันชัดเจนว่าพระอาจารย์คึกฤทธิ์สอนผิด
พระพุทธเจ้าสอนให้หยุดพูดเรื่องไม่ดีของผู้อื่น และพูดเรื่องดีของผู้อื่นให้มาก หยุดยกยอตนเอง และกล่าวโทษตนให้มากเพื่อปรับปรุงตน
เท่าที่ฟังมา ผมเข้าใจว่า มีความเป็นไปได้ว่าฆราวาสท่านนี้อาจจะเข้าใจถูกหรืออาจจะผิดก็ได้ และพระอาจารย์คึกฤทธิ์อาจจะเข้าใจผิดจริง หรือ พระอาจารย์อาจจะเข้าใจถูกแล้วก็ได้ แต่ผมติดอยู่อย่างเดียวตรงวิธีการนำเสนอของฆราวาสท่านนี้ นั่นก็คือรูปแบบของการพูดให้ความรู้แบบพาดพิงคนอื่นโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังทำให้พุทธบริษัทเกิดความแตกแยก ข้อสังเกตก็คือ หากอยากสอนภาษาบาลีที่ถูกต้อง เหตุใดเขาจึงไม่สอนไปเลยตรงๆโดยไม่พูดว่า "อยากให้พระคึกฤทธิ์กับลูกศิษย์ไปอ่านบาลีกันซะใหม่ จะได้ไม่เข้าใจผิดๆ สอนผิดๆอีก"
การกล่าวอ้างพาดพิงตัวบุคคลเช่นนี้ เจ้าตัวคนพูดอาจมองว่ามันคือการให้ประโยชน์แก่สังคมชาวพุทธ แต่อีกด้านหนึ่ง ที่ผมผู้ซึ่งเป็นปุถุชนอดคิดไม่ได้เลยก็คือ เหตุใดฆราวาสคนนี้ถึงเจาะจงการเอาข้อผิดพลาดของพระอาจารย์คึกฤทธิ์มาตีโมงขยายข่าวให้เกิดผัสสะมโนกรรมวจีกรรมขึ้นในบรรดาชาวพุทธที่ยึดมั่นในพุทธวจน ซึ่งพุทธวจนทั้งหมดนี้ได้รับการรับรองแล้วว่าเป็นข้อความที่ถ่ายทอดจากพระโอษฐ์ของพระพุทธองค์ โดยคัดลอกมาจากพระไตรปิฎกบาลีฉบับสยามรัฐล้วนๆ
ก่อนจะไปขมวดปมประเด็นนี้ ขอแจ้งให้ทราบก่อนว่า บาลีในพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ เป็นบาลีที่คัดลอกมารุ่นสู่รุ่นจากจารึกอักษรพรหมันบนแผ่นเสาหินของพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นบาลีที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังหลงเหลืออยู่ในยุคปัจจุบัน เก่ากว่าบาลีฉบับหลวง ซึ่งมั่นใจได้ว่าเนื้อความในสยามรัฐนั้นแม่นยำที่สุด และไม่เพี้ยนไปจากพระโอษฐ์ที่สุด (ประเด็นเรื่องเอาคำพระพุทธองค์มาได้มากน้อยแค่ไหน ครบทุกคำที่พระพุทธองค์เคยตรัสออกมาในชีวิตมั้ยนั้นขอตัดออกไป เพราะหลักๆ แก่นสำคัญก็ยังเหลืออยู่ในไตรปิฎกฉบับนี้อย่างเพียงพอ)
กลับมาที่การพาดพิงพระอาจารย์คึกฤทธิ์ว่าสอนธรรมผิด หากคนมีธรรมจริงๆ มองปราดเดียวย่อมรู้ว่าวิธีการเดินมรรคของพระอาจารย์คึกฤทธิ์นั้นถูกต้อง ไม่ว่าท่านจะแปลบาลีผิดไปบ้างในบางคำจริงหรือไม่อย่างไรนั้นไม่ใช่ประเด็น นอกจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์แล้ว ยังมีพระปฏิบัติดีอีกหลายท่านที่ถูกกล่าวตู่ให้เสื่อมโดยไม่มีโอกาสออกมาแย้งเพราะกำลังฝึกฝนจิตอยู่อีกหลายคน เช่น พระอาจารย์ต้น พระอาจารย์ปราโมทย์ หลวงปู่ชา พระพยอม หรือแม้แต่ฆราวาสที่อยู่ในปฏิปทาอีกหลายท่านที่แม้ไม่ได้เป็นนักนิรุกติศาสตร์ภาษาบาลีแต่ก็เดินมรรคดีมาก
ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์เบียร์คนตื่นธรรม แพร์รี่ไพรวัลย์ ก็ล้วนเป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการพุทธศาสนาเพราะช่วยยกระดับจิตใจให้ปุถุชนพ้นมิจฉาทิฏฐิได้จริงอย่างเห็นได้ชัด การสังเกตว่าใครเดินมรรคถูกหรือไม่อย่างไรนั้น ให้ดูที่การกระทำ และดูที่ผลลัพธ์จากการถ่ายทอดคำสอนออกมา ว่าได้ผลตรงตามที่พระพุทธองค์ทรงตั้งพระปณิธานหรือไม่ ถ้าใช่ แล้วได้ผล ต่อให้เป็นผู้ไม่เป๊ะบาลีร้อยเปอร์เซนต์ แต่การเดินมรรครุดหน้าจริง อยู่ในสัมมาทิฏฐิ ไม่พาดพิงผู้อื่น ไม่เพ่งโทษใครเพื่อดึงคนร่วมพวก นั่นถือเป็นปฏิปทาที่ถูกแล้ว
พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนเสมอว่า เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม เจตนาของผู้เผยแพร่ธรรมะที่ดีย่อมสังเกตได้ง่ายว่ามีความหมั่นไส้หรือไม่พอใจผู้อื่นปนอยู่หรือไม่จากวิธีสื่อสารการพูด ไม่ได้ดูจากองค์ความรู้ว่ามีภูมิความรู้สูงมากด้วยอักขระวิถี หากผู้สอนธรรมอ้างบุคคลอื่นว่าเป็นผู้ผิด ตนนั้นถูก แทนที่จะสอนไปเลยเฉยๆ ดันไปพาดพิงผู้อื่นที่เป็นผู้ที่มีปฏิปทาดีพร้อมเป็นพระสุปฏิปัณโณ ในขณะที่สมมติสงฆ์ผิดวินัยอีกมากมายที่เผยแผ่สื่อธรรมะผิดเพี้ยน ไปในทางเดรัจฉานวิชา กลับไม่ยอมพูดถึง
กลับพูดถึงแต่พระนามอุโฆษที่สอนพุทธภาษิต พุทธวจนจนได้รับความเชื่อถือมากในพุทธบริษัท ว่าเป็นพระสงฆ์ที่สอนผิด สอนมั่ว ทำให้คนที่เขายังไม่ทันได้เข้ามาเรียนรู้ธรรมะจากพระโอษฐ์กับพระอาจารย์ท่าน ได้เกิดอคติล่วงหน้าแล้วเลือกที่จะหนีห่างจากธรรมะ โดยหวังไปว่าฆราวาสที่ศีลน้อยกว่าพระแต่เก่งตำราหนังสือและพุทธประวัติจะช่วยนำพาตัวเองให้รอดพ้นภัยในวัฏสงสารได้
นอกจากนี้เจ้าของช่องยังมีการคอมเม้นต์สนับสนุนคนที่เข้ามาด่าว่าหัวเราะเยาะพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และพระอาจารย์ต้น รวมทั้งอาจารย์เบียร์ อีกด้วย เราในฐานะชาวพุทธเห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาไม่ได้อยู่ในระบบสัมมัตนิยามคือระบบแห่งความถูกต้อง ไม่ได้มีปัญญาอุเบกขา แทนที่จะสอนธรรมแล้วจบไปโดยไม่ต้องพาดพิงคนอื่น กลับไปคอมเม้นต์สนับสนุนคนที่ค่อนขอดพระอาจารย์คนนั้นคนนี้ ข้อสังเกตที่ชัดเจนคือ ฆราวาสสอนพระสูตรคนนี้จะพาดพิงแต่พระอาจารย์ที่ดังๆเท่านั้น แบบนี้ไม่น่ารักเลยครับ ถ้าจะเป็นรัตนะห้าต้องไม่ทำอย่างนี้นะครับ
แม้คุณได้ชื่อว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้านการสอนตำราความรู้ที่แม่นฉมังเพียงใด แต่อย่าลืมว่าการเสพคบธรรมะเป็นสิ่งที่อาศัยพระสูตรเพื่อการก้าวไปสู่การละทิ้งสมมติบัญญัติเพื่อเดินมรรคอย่างเต็มรูปแบบ เป้าหมายเพื่อการบรรลุวิมุตติหลุดพ้นออกจากกระแสของปุถุชน หรือเรียกง่ายๆว่าการบรรลุธรรม ผ่านการปฏิบัติให้เข้าถึง ไม่ใช่การหยิบยกอักขระวิถีมามาปรามาสว่าคนนั้นถูก คนนี้ผิด คนนี้โง่ คนนี้ฉลาด เรื่องของปัญญาเป็นภูมิจิต ไม่ใช่การลับสมอง ไม่จำเป็นต้องใช้มันแบ่งฝักแบ่งฝ่ายชาวพุทธหรอกครับ ต่อให้คุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
แอดมินสกิทาเทพ แห่งเพจเฟซบุ๊คธรรมะแฟนตาซี
โฆษณา