“Driving change to make obesity a healthcare priority.
We are working to change how the world sees, prevents and treats obesity”
คำโปรยในหน้าแรกของบริษัท…ที่เรากำลังจะพูดถึง นั่นคือ Novo Nordisk (NVO)
บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในยุโรป มี market cap สูงเป็นอันดับที่ 14 ของโลก มีมูลค่าเกือบ 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัทยาจากเดนมาร์ก ผู้บุกเบิกและพัฒนายารักษาโรคเบาหวาน ผู้ผลิตอินซูลินชั้นนำของโลก
.
.
บริษัทมี Product Champion คือ ยารักษาโรคเบาหวาน ที่ชื่อว่า “Ozempic”
Ozempic เป็นยารักษาโรคเบาหวาน…ซึ่งมีตัวยาที่ชื่อว่า Semaglutide (เซมากลูไทด์) ในเมืองไทยอาจจะรู้จักกันในนาม “ปากกาลดน้ำหนัก”
มันทำงานโดยเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งช่วยลดระดับกลูคากอนในเลือด…และเพิ่มระดับอินซูลิน
เมื่อยาเข้าสู่สมอง สมองจะสั่งการบอกเราว่า…เราอิ่มแล้ว ซึ่งจะลดความอยากอาหารของเรา และมันยังช่วยชะลอการย่อยอาหารอีกด้วย ทำให้เราทานได้น้อยลง
.
.
และถึงแม้ว่า ยา Ozempic จะได้รับอนุมัติให้เป็นยารักษาโรคเบาหวาน แต่มันดันส่งผลต่อการลดน้ำหนักได้ด้วย
บริษัทจึงมียาอีกตัวที่ชื่อว่า “Wegovy ” โดยมีตัวยา Semaglutide ซึ่งเป็นตัวยาตัวเดียวกันกับ “Ozempic” ออกฤทธิ์เหมือนกัน แต่ตัวนี้อนุมัติให้ใช้รักษาโรคอ้วนโดยเฉพาะ
.
.
โรคเบาหวาน…คนเป็นเยอะขนาดไหน?
โรคเบาหวาน..โรคที่มีคนเป็นมากกว่า 537 ล้านคน
คาดการณ์ว่าตัวเลขนี้จะขึ้นไปแตะ 643 ล้านคนในปี 2030 ซึ่งคิดเป็นเกือบ 10%ของประชากรโลก
โดยมีคนมากกว่า 140 ล้านคน หรือมากกว่า 11% ในประเทศจีนป่วยด้วยโรคเบาหวาน ซึ่งมากกว่าประเทศอื่นๆ ในโลก ตามมาด้วย อินเดีย ปากีสถาน และสหรัฐ และตัวเลขนี้ก็ไม่มีที่ท่าว่าจะลดลงด้วย
ปัจจุบันคาดว่าน่าจะมีผู้ป่วยเป็น…โรคอ้วน…อีกราว 750 ล้านคน โดยโรคอ้วนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตถึง 5% ทั่วโลก (ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก)
.
.
✨#งบการเงิน
ปี 2021 – รายได้ 140,800 ล้านโครน DKK
ปี 2022 – รายได้ 176,954 ล้านโครน DKK โตขึ้น 26%
ปี 2023 – รายได้ 232,261 ล้านโครน DKK ล้านเหรียญ โตขึ้น 31%
.
.
ปี 2021 – กำไร 47,757 ล้านโครน DKK
ปี 2022 – กำไร 55,525 ล้านโครน DKK โตขึ้น 31%
ปี 2023 – กำไร 83,683 ล้านโครน DKK โตขึ้น 36%
.
.
ปี 2021 – กำไรต่อหุ้น 10.40 โครน DKK
ปี 2022 – กำไรต่อหุ้น 12.26 โครน DKK โตขึ้น 18%
ปี 2023 – กำไรต่อหุ้น 18.67 โครน DKK โตขึ้น 52%
บริษัทมีการซื้อหุ้นคืนมาตลอด ทำให้กำไรต่อหุ้นโตขึ้นมาก
.
.
อัตราส่วนทางการเงินสวยงามมมม🤩
Gross Margin 85%
Net Profit Margin 36%
Ebitda Margin 48%
ROIC 88.5 %
Dividend payout ratio 50.2%
Free Cash Flow 68,326 ล้านโครน DKK
เงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น 30,230 ล้านโครน คิดเป็น 10% ของสินทรัพย์ทั้งหมด
มีหนี้สินมีดอกเบี้ยทั้งหมด 21,927 ล้านโครน
.
.
รายได้ของบริษัทมาจากผลิตภัณฑ์ 2 ส่วน คือ ยาที่เกี่ยวกับโรคเบาหวานและโรคอ้วน กับ ยารักษาโรคหายาก
ซึ่ง 93% ของรายได้ มาจาก Product ที่เกี่ยวกับโรคเบาหวานและโรคอ้วนทั้งสิ้น
ในนี้ แค่ยารักษาโรคเบาหวาน “Ozempic” ตัวเดียว ก็คิดเป็น 41% แล้ว
ตามมาด้วย ยารักษาโรคอ้วน “Wegovy” อีก 13%
โดยมี สหรัฐ เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด คิดเป็น 63% ของรายได้
.
.
✨Moats
Novo Nordisk เป็น first mover และผู้นำในตลาดยารักษาโรคเบาหวานทั่วโลก โดยมี Market Share อันดับ 1 ที่ 33.8%
ทั้งยังเป็นผู้นำในตลาดอินซูลิน ซึ่งมีผู้เล่นยักษ์ใหญ่เพียง 3 บริษัทเท่านั้น ได้แก่ Novo Nordisk, Sanofi และ Eli Lilly
ซึ่ง 3 บริษัทนี้เป็นควบคุมตลาดอินซูลินทั่วโลกมากกว่า 90% ซึ่งนำโดย Novo Nordisk52%, Sanofi17% และ Eli Lilly23%
.
.
✨Threats
1. เมื่อตลาดมีขนาดใหญ่ อีกทั้ง margin ก็ยังสูงมาก จึงเป็นการดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา โดยเฉพาะบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง Roche Holding AG, Pfizer, Amgen ก็มีการวิจัยและลงทุนยาในกลุ่มนี้แล้ว
อีกทั้ง คู่แข่งคนสำคัญอย่าง Eli Lilly ซึ่งมียารักษาโรคเบาหวานที่ชื่อว่า “Mounjaro” และยารักษาโรคอ้วนชื่อ “Zepbound” ซึ่งก็มียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และต้นปี Zepbound ก็ใบสั่งยามีมากกว่า Wegovy แล้ว
2. การเติบโตในประเทศจีนที่บริษัทเข้าไปบุกก่อนอาจไม่ง่ายหลังจากนี้
จีนเป็นตลาดยาที่ใหญ่ที่สุดในโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และมีประชากรที่เป็นโรคอ้วนจำนวนมาก
บริษัทมีเวลาอีกเพียง 2 ปีที่จะเร่งทำตลาด ก่อนที่สิทธิบัตรของยา Semaglutide จะหมดลงในปี 2026
และไม่เพียงแต่คู่แข่งอย่าง Eli Lilly จะเพิ่งได้รับอนุมัติให้ขายยารักษาโรคเบาหวาน Mounjaro ได้ในจีน ยังมีบริษัทสัญชาติจีน Huadong Medicine และ Shanghai Benemae Pharmaceutical ที่ผลิตยาแบบเดียวกันออกมาแข่งด้วย
3. ราคายาสูงมาก
ในสหรัฐอเมริกา Wegovy ราคายาที่ต้องจ่ายรายเดือนอยู่ที่ 1,350 ดอลลาร์ เปรียบเทียบกับ Zepbound อยู่ที่ 1,060 เหรียญ ซึ่งราคาถูกกว่า (อ้างอิงจาก GoodRx) ผู้ป่วยบางรายอาจหยุดใช้ยาเนื่องจากราคาที่สูงเกินไปที่จะจ่าย
ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะส่งผลต่อยอดขายของ Novo Nordisk รวมถึง margin ก็อาจจะไม่สูงเท่าเดิมด้วย
.
.
✨Opportunity
1. TAM ใหญ่มาก ทั้งโรคเบาหวาน คาดการณ์ตลาดน่าจะมีมูลค่าสูงถึงแสนล้านเหรียญในปี2032 (โดย Precedence Research) และ…โรคอ้วนมีมูลค่าราว 8 หมื่นล้านดอลลาร์ (โดย Bloomberg)
2. รายได้เติบโตได้อีก เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีปัญหาผลิตได้ไม่พอกับความต้องการ บริษัทได้มีการลงทุนสร้างโรงงานเพิ่ม ในปี 2023 เพียงปีเดียว ประกาศการลงทุนมูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านโครนเดนมาร์กเพื่อขยายสถานที่ผลิตทั่วโลก เพื่อรองรับ demand ที่เพิ่มขึ้นด้วย
3. การเติบโตจากยาตัวอื่น และ Product pipeline อื่น เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือด โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคฮีโมฟีเลียเอและบี
4. เติบโตจากยา Insulin icodec ซึ่งเป็นอินซูลินที่เป็นแบบฉีดครั้งเดียวต่อสัปดาห์ ซึ่งตัวนี้กำลังในขั้นตอนการวิจัย หากสำเร็จและได้รับการอนุมัติ Insulin icodec จะกลายเป็นอินซูลินแบบฉีดครั้งเดียวต่อสัปดาห์ตัวแรกสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน จากปกติที่ผู้ป่วยต้องฉีดทุกวัน
5. ยา semaglutide ไม่เพียงช่วยให้ผู้ป่วยลดน้ำหนักได้เท่านั้น แต่ยังช่วยเรื่องหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย มีการทดลองว่าสามารถลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ Novo Nordisk ได้ยื่นขอปรับปรุงฉลากของ Wegovy® ในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปแล้ว
6. ยา CagriSema ยาลดน้ำหนักตัวใหม่ที่ยังอยู่ในการทดลอง ซึ่งผลจากการทดลอง CagriSema สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 15.6% ใน 32 สัปดาห์ เมื่อเปรียบเทียบกับการลดลง 5.1% ด้วย Wegovy เพียงอย่างเดียว
.
.
✨สรุป Novo Nordisk บริษัทผู้นำผู้บุกเบิกยารักษาโรคเบาหวานและโรคอ้วน มีงบการเงินที่สวยงาม และอยู่ในตลาดที่ใหญ่และมีการเติบโตสูง ทั้งยังมีโอกาสเติบโตจาก product pipeline อื่นอีก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
