8 พ.ย. เวลา 06:20 • ความคิดเห็น
เป็นคนมองการไกลไม่เป็น รู้แค่พรุ่งนี้จะทำอะไร แค่นั้นเอง ไกลกว่านี้คิดไม่ออกแล้ว
ส่วนเรื่องในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เป็นคำโบราณ ที่อนาคตคงไม่เหมือนเดิม จะทำให้เหมือนเดิม อนาคตอาจเป็นเรื่องยาก
เพราะน้ำอุ่นขึ้น ถ้าสังเกตจะเห็นว่าสัตว์เมืองหนาว ตัวใหญ่กว่าเมืองร้อน ปลาในแถบน้ำเย็นจะตัวใหญ่กว่าแถบน้ำอุ่น โลกร้อนทำให้อุณหภูมิน้ำสูงขึ้น สัตว์ที่ทนร้อนไม่ได้จะตาย และสัตว์เมืองหนาวที่เคยตัวใหญ่ก็จะเล็กลง ปลาบางชนิดอาจสูญพันธ์ และปลาบางชนิด ถ้าไม่กลายพันธ์เอง มนุษย์เนี่ยแหละที่จะตัดแต่งพันธุกรรม ให้ทนร้อนมากขึ้น
ปลาหรือสัตว์ที่ทนต่อมลพิษได้ ตามธรรมชาติ มักจะหน้าตาไม่น่าดูและไม่น่ากิน ไม่รู้ว่าสัตว์ที่เหลืออยู่ตามธรรมชาติจะกินได้หรือเปล่านะ นึกถึงสัตว์ที่อึดสุดๆอย่าง แมลงสาบ ตัวเงินตัวทอง หรือ ปลาหมอคางดำ มันไม่ได้น่ากินเลยสักนิด
ถ้าจะเลี้ยงสัตว์ที่กินได้ ต้นทุนน่าจะสูงน่าดู เหมือนปลาไหลในญี่ปุ่น ฤดูหนาว ปลาไหลอยู่ในบ่ออนเซน น้ำอุ่น ในขณะที่หิมะตกด้านนอก แต่น้ำที่เลี้ยงปลาไหล อยู่ในอุณหภูมิปกติ ส่วนปลาไทยอาจจะอยู่ห้องแอร์ ในขณะที่ด้านนอกร้อนตับแตก
จากที่เคยดูข่าว ข้าวไทยอร่อย แต่ต้นทุนสูง ให้ผลผลิตน้อย คือสูงสุดของไทย ยังสู้ข้าวเวียดนามและข้าวจีนไม่ได้เลย อนาคตก็ไม่รู้ว่า ถ้าคนจีนจะมากว้านซื้อหรือเช่านาไทยได้หรือเปล่า เราอาจจะได้กินข้าวจีนก็ได้นะ ให้ผลผลิตมากกว่า และถูกกว่าข้าวไทย
อนาคตคงต้องถามว่า ในน้ำมีปลา ปลาอะไร ในนามีข้าว ข้าวใคร ถ้าเรามีที่ จะให้คนจีนเช่าหรือทำเอง ทำเองก็ต้นทุนสูงมาก ให้เช่าก็นอนกินค่าเช่า และซื้อข้าวซื้อปลาจีนจากที่นาของตนเอง
โฆษณา