8 พ.ย. เวลา 08:33 • สุขภาพ

หนองในเทียม อาการ วิธีรักษา สาเหตุ รวมข้อมูลที่ควรรู้ไว้ที่นี่แล้ว

โรคหนองในจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ โรคหนองในแท้ (Gonorrhoea) และโรคหนองในเทียม (Non Gonococcal Urethritis : NGU) แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มโรคเดียวกัน แต่ก็มีลักษณะอาการและชนิดของเชื้อที่แตกต่างกัน โรคนี้มีผู้ป่วยบางรายไม่แสดงอาการ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหนองในเทียม ที่แสดงอาการน้อย หรือไม่มีอาการเลย
เพื่อให้ทุกคน ทั้งหญิงและชาย ได้เฝ้าระวังการแพร่เชื้อของโรคมากขึ้น PrecisionLife จะพาไปทำความรู้จักกับโรคหนองในเทียมอย่างละเอียด ใครที่สงสัยว่า หนองในเทียม อาการเป็นอย่างไร มีสาเหตุ วิธีรักษา และวิธีดูแลตัวเองอย่างไร หาคำตอบได้ที่บทความนี้เลย
หนองในเทียม สาเหตุเกิดจากอะไร?
หนองในเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในกลุ่มโรคหนองใน ส่วนใหญ่เชื้อที่ก่อโรคคือ เชื้อแบคทีเรียคลาไมเดีย ทราโคมาติส (Chlamydia trachomatis) รองลงมาคือ Ureaplasma urealyticum, Ureaplasma parvum, Mycoplasma genitalium, Mycoplasma hominis
ซึ่งผู้ติดเชื้อบางรายอาจมีอาการแสดงออกไม่ชัดเจน เนื่องจากเป็นเชื้อที่ไม่รุนแรงเท่ากับหนองในแท้ ผู้ป่วยหลายรายจึงมักไม่รู้ตัว แต่ถึงอย่างไรหนองในเทียม เมื่อเป็นแล้วต้องได้รับการรักษากับแพทย์เช่นเดียวกับหนองในแท้ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำซ้อน
หนองในเทียมติดต่อทางไหน?
หนองในเทียม เป็นโรคเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ จึงสามารถแพร่เชื้อผ่านสารคัดหลั่ง จากอวัยวะเพศ ทวารหนัก ช่องปาก จากการทำกิจกรรมทางเพศ เช่นเดียวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ซึ่งบริเวณที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ ได้แก่ ปากมดลูก องคชาต ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ลำคอ และเยื่อบุตา
การติดเชื้อสามารถติดเชื้อได้ทั้งการมีเพศสัมพันธ์แบบชายหญิง และรักร่วมเพศ แต่ผู้ที่มักมีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพิ่งเปลี่ยนคู่นอนใหม่ เคยมีประวัติติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ถุงยางอนามัยสม่ำเสมอ จะยิ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการรับเชื้อมากขึ้น
ดังนั้น ในรายที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง อย่าชะล่าใจเด็ดขาด แม้ว่าตนเองนั้น จะมีคู่นอนเพียงคนเดียวก็ตาม เพราะไม่อาจรู้เลยว่า คู่นอนของเรา อาจมีเชื้ออยู่ในร่างกาย ซึ่งจะนำโรคมาแพร่เชื้อให้กับเราหรือไม่ ฉะนั้น สังเกตพฤติกรรม อาการของตนเองและคู่นอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รู้ทันโรค
หนองในเทียมแตกต่างจากหนองในแท้อย่างไร?
ความแตกต่างหนองในแท้-หนองในเทียม
หนองในจะมีสาเหตุจากเชื้อที่ต่างกันดังภาพ โดยหนองในแท้และหนองในเทียม อาการมีความคล้ายกัน เช่น ปัสสาวะแสบขัด มีหนองที่ปลายอวัยวะเพศ หรือตกขาว มีสีเหลือง เขียว เพียงแต่หนองในเทียมจะมีระยะฟักตัวนานกว่า จึงมีอาการไม่ชัดเจน หรือบางรายอาจมีอาการน้อยกว่า หรือไม่มีอาการเลย หรืออาจเป็น ๆ หาย ๆ ในขณะที่อาการหนองในแท้จะแสดงอาการชัดเจนกว่า แต่ไม่ว่าคุณจะติดเชื้อไหนก็ตาม จำเป็นต้องได้รับการตรวจและรักษา เพราะทั้ง 2 โรคหากไม่ได้รับการรักษาให้หาย อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงเช่นเดียวกัน
หนองในเทียม อาการเป็นอย่างไร?
หนองในเทียมอาการจะแตกต่างจากหนองในแท้ตรงที่ ส่วนมากไม่มีอาการ หรือมีอาการแสดงน้อย ไม่ชัดเจน อาการสามารถหายได้เอง แม้เชื้อจะมีอยู่ในร่างกาย แต่ถึงแม้ไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อได้ หรือบางรายอาจแสดงอาการช้าหลังได้รับเชื้อ 1 - 3 สัปดาห์ จึงทำให้ผู้ที่เป็นโรคหนองในเทียมมักรู้ตัวช้า กว่าจะได้รับการรักษาก็อาจมีอาการรุนแรง
สำหรับรายที่มีอาการอาจสังเกตความผิดปกติได้ ดังนี้
ลักษณะอาการหนองในเทียมผู้ชาย
• ปัสสาวะแสบขัด บริเวณปลายท่อบวมแดง คันบริเวณปลายท่อปัสสาวะ
• มีอาการอักเสบบริเวณหนังหุ้มปลาย
• มีหนองไหล และระคายเคืองที่ท่อปัสสาวะมาก
• ทวารหนักอักเสบ เจ็บรอบ ๆ ทวารหนัก มีหนองไหลออกมา
• ปวดบวมลูกอัณฑะ ปวดหน่วงอวัยวะเพศ
• คออักเสบเรื้อรัง มีหนองในคอ
• มีสารคัดหลั่งออกจากทวารหนัก
• รู้สึกเจ็บเวลาถ่ายอุจจาระ
• หากติดเชื้อที่เยื่อบุตา อาจสังเกตพบตาอักเสบ
ลักษณะอาการหนองในเทียมผู้หญิง
• ปากมดลูกอักเสบ
• คออักเสบเรื้อรังและมีหนองในคอ
• ปัสสาวะแสบขัด ปลายท่อปัสสาวะบวมแดง
• รู้สึกปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ มีเลือดไหลออกจากช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์
• ตกขาวผิดปกติ โดยจะมีปริมาณมากขึ้น มีสีเปลี่ยนไป เช่น เป็นสีเหลือง หรือสีเขียว และมีกลิ่นเหม็น
• ปวดท้องน้อย และมีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด
• มีอาการอักเสบบริเวณปีกมดลูกและอุ้งเชิงกราน
• อาจเกิดอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดและกดเจ็บบริเวณท้องน้อยร่วมด้วย
• มีสารคัดหลั่งออกจากทวารหนัก
• รู้สึกเจ็บเวลาถ่ายอุจจาระ
• หากติดเชื้อที่เยื่อบุตา อาจสังเกตพบตาอักเสบ
นอกจากนี้อาการหนองในเทียมที่พบบ่อยบริเวณอวัยวะเพศ ยังสามารถพบได้ในอวัยวะอื่น คือ เยื่อบุตาอักเสบ คออักเสบ รอบรูทวารอักเสบ และต่อมน้ำเหลืองบวม เมื่อมีอาการดังกล่าว บริเวณใดก็ตาม ควรได้รับการตรวจคัดกรองโรคและรักษา เนื่องจาก หากไม่รักษา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้อีก
อาการดังกล่าว อาจเป็นลักษณะอาการที่เกิดขึ้นได้จากการรับเชื้อหนองในแท้เช่นกัน ผู้ป่วยจึงอาจแยกได้ยาก หากไม่ได้รับการตรวจอย่างละเอียด ดังนั้น แนะนำว่า คัดกรองเชื้อหนองในแท้-หนองในเทียมกับผู้เชี่ยวชาญดีที่สุด เพื่อทำการรักษาตรงกับโรคที่เป็น ซึ่งจะช่วยให้รักษาหายไว ลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ
ภาวะแทรกซ้อนโรคหนองในเทียม
ในผู้หญิงอาจมีอาการปวดท้องขึ้นไปส่วนบน หรือปวดท้องน้อยเรื้อรัง ท่อนำไข่ตีบ และท้องนอกมดลูก ในผู้ชาย อาจมีอาการอัณฑะอักเสบ และทั้งหญิงและชาย อาจมีบุตรยากในอนาคต จึงแนะนำว่า มีอาการให้รีบตรวจ และรักษาทันทีทั้งในชายและหญิง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีตรวจหาเชื้อและการรักษาหนองในเทียม ได้ที่ https://www.precisionlife.store/blog/how-to-treat-chlamydia
โฆษณา