โรคหนองในคืออะไร มีสาเหตุและอาการอย่างไร ต้องรักษาแบบไหนดี
หนองใน นับเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีผู้ติดเชื้อถึง 50% ของกลุ่มโรคติดต่อทางเพศทั้งหมด อาจเนื่องจากบางรายเป็นแล้วอาจไม่แสดงอาการ อาการน้อย หรือแสดงอาการช้า จึงทำให้โรคหนองในติดต่อกันได้ง่ายมากขึ้น โดยที่คุณเองไม่ทันระวังตัว โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือชอบ One Night Stand ควรหมั่นสังเกตอาการตนเอง และคู่นอน ถ้าพบว่าตนเอง หรือคู่นอนมีอาการปัสสาวะแสบขัด ตกขาวเขียว คัน กลิ่นแรง สงสัยว่า เป็นหนองใน ห้ามพลาดบทความนี้เลย!
ใครที่สงสัยว่า อาการหนองในแท้ผู้ชาย ผู้หญิง เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร PrecisionLife ได้นำสาเหตุ อาการของโรคหนองในแท้ หนองในเทียม ทั้งในหญิงและชาย รวมถึงวิธีรักษา และค่าจ่ายในการรักษาหนองใน มาให้ทุกท่านได้เช็กกัน รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับโรคหนองในที่คุณควรรู้ไว้ที่นี่แล้ว ตามไปดูกันเลย!
โรคหนองในคืออะไร สาเหตุเกิดจากอะไร?
โรคหนองใน (Gonorrhea) คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งบริเวณลำคอ อวัยวะเพศ ช่องคลอด หรือทวารหนัก จากการมีเพศสัมพันธ์ของผู้ที่ติดเชื้อแบคทีเรียไนซีเรียโกโนเรีย (Neisseria gonorrhoeae) หรือที่เรียกว่า “หนองในแท้”
นอกจากนี้ยังมีโรคหนองในเทียมที่อาการคล้ายคลึงกับโรคหนองในแท้ แต่มีอาการรุนแรงน้อยกว่า เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียคลามัยเดีย ทราโคมาทิส (Chlamydia trachomatis) หรือเชื้อยูเรียพลาสม่า ยูเรียไลติคุ่ม (Ureaplasma urealyticum)
โดยทั้ง 2 โรคหากผู้ป่วยมีเชื้ออยู่ในร่างกาย จะก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณอวัยวะเพศ หรือนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงอย่างการเกิดภาวะมีบุตรยาก จนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์โดยเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าการรักษาย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย เราจึงอยากให้ทุกท่าน มองโรคหนองในเป็นเรื่องใกล้ตัว เพื่อป้องกันไว้ดีกว่าแก้ไข
เชื้อหนองในติดต่อกันทางไหน?
เชื้อหนองในสามารถติดต่อกันได้จากบุคคลหนึ่งไปสู่บุคคลหนึ่ง ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยหนองใน จากการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือมีเพศสัมพันธ์ทางปาก (oral sex) รวมถึงมารดาที่ติดเชื้อหนองในระหว่างคลอด สามารถแพร่เชื้อให้กับทารกได้
เชื้อหนองในมักติดต่อกันที่บริเวณใด
โดยส่วนใหญ่ ผู้ที่ได้รับเชื้อหนองในจะติดเชื้อบริเวณปากมดลูก ทวารหนัก ลำคอ รวมถึงที่เยื่อบุตา
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคหนองใน
ผู้ที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ถือว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคหนองใน
• มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อหนองใน
• เปลี่ยนคู่นอนใหม่
• ไม่สวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
• มีคู่นอนมากกว่า 1 คน
• มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก
• มีเพศสัมพันธ์ทางปาก (Oral sex)
• มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
หากพบว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโรคหนองใน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองเชื้อและเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง เนื่องจากหากไม่ได้รับการตรวจ อาจไม่ทราบว่า ติดเชื้อหนองในแท้ หรือหนองในเทียม หรือมีการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ หรือไม่
หากผู้ป่วยมาตรวจหาเชื้อตั้งแต่รู้ว่ามีความเสี่ยง หรือมีอาการ จะตรวจพบเชื้อได้ง่าย และใช้ระยะเวลารักษาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น สำหรับใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ไม่มั่นใจติดเชื้อหรือไม่ สามารถทำแบบคัดกรองหนองใน และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้เลย เพียง 2-3 นาทีรู้ผลเบื้องต้น
หนองในแท้ หนองในเทียม แตกต่างกันอย่างไร
หนองในแท้และหนองในเทียมอาการมีความคล้ายกันตามลักษณะข้างต้น แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่ระยะเวลการติดเชื้อก่อนเกิดอาการ ดังนี้
• หลังจากติดเชื้อหนองในแท้ ประมาณ 2-7 วัน จึงจะแสดงอาการ
• หลังจากติดเชื้อหนองในเทียม ประมาณ 7-21 วัน จึงจะแสดงอาการ
อาการหนองในแท้ หนองในเทียม เนื่องจากมีความคล้ายกัน ทำให้ผู้ป่วยอาจแยกได้ยาก ต้องอาศัยการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าได้รับการรักษาที่ถูกต้อง นอกจากการติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศของโรคหนองในแท้ หนองในเทียม ยังมีหนองในที่คอ เยื่อบุตา ที่ต้องระวังด้วยเช่นกัน
อาการหนองในแท้ ผู้หญิง Vs อาการหนองในแท้ ผู้ชาย
ผู้ที่รักสนุก ชอบเปลี่ยนคู่นอนเป็นประจำ ควรหมั่นเช็กอาการของตัวเองบ่อย ๆ เพราะอาจไม่รู้เลยว่า ใครที่มีเชื้ออยู่ในร่างกาย หรือคู่นอนนำโรคมาติดหรือไม่ สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเช็กอาการเบื้องต้นอย่างไร สามารถประเมินได้จากอาการหนองในแท้ ผู้หญิง และ อาการหนองในแท้ ผู้ชาย ที่เป็นอาการบ่งชี้ของโรค ตามเช็กลิสต์ด้านล่างนี้เลย!
เช็กลิสต์! อาการหนองในแท้ ผู้หญิง
อาการหนองในแท้ผู้หญิง
• ตกขาวสีเหลืองหรือตกขาวเขียว
• ตกขาวเยอะ
• ปัสสาวะแสบขัด
• คันจุดซ่อนเร้น
• มีสารคัดหลั่งออกจากช่องคลอดผิดปกติ เช่น มีหนองผสม
• ปวดอุ้งเชิงกรานในขณะมีเพศสัมพันธ์
เช็กลิสต์! อาการหนองในแท้ ผู้ชาย
อาการหนองในแท้ผู้ชาย
• อัณฑะปวด บวม
• ปัสสาวะแสบขัด
• มีมูกใสหรือเหลวข้นสีเหลือง หรือขาวออกจากน้องชาย
• ลูกอัณฑะข้างใดข้างหนึ่งมีอาการฟกช้ำ
• รอบ ๆ อวัยวะเพศมีสีแดง
อาการหนองในเทียม ผู้หญิง Vs อาการหนองในเทียม ผู้ชาย
นอกจากอาการหนองในแท้แล้ว ยังมีอาการหนองในเทียม ผู้หญิง และ หนองในเทียม ผู้ชาย มาให้สาว ๆ ได้เช็กลิสต์อาการของตนเองกันด้วย จะมีความแตกต่างกันอย่างไร ตามไปดูกันเลย!
เช็กลิสต์! อาการหนองในเทียม ผู้หญิง
• คออักเสบเรื้อรังและมีหนองในคอ
• ปัสสาวะแสบขัด ปลายท่อปัสสาวะบวมแดง
• รู้สึกปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ มีเลือดไหลออกจากช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์
• ตกขาวผิดปกติ โดยจะมีปริมาณมากขึ้น มีสีเปลี่ยนไป เช่น เป็นสีเหลือง หรือสีเขียว และมีกลิ่นเหม็น
• ปวดท้องน้อย และมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน
• มีอาการอักเสบบริเวณปีกมดลูก และทำให้เกิดไข้สูง หนาวสั่น ปวด และกดเจ็บบริเวณท้องน้อยตามมา
• มีสารคัดหลั่งออกจากทวารหนัก
• รู้สึกเจ็บเวลาถ่ายอุจจาระ
• ตาอักเสบ ข้ออักเสบ
• คลำพบก้อนต่อมน้ำเหลืองโตตามร่างกาย
เช็กลิสต์! อาการหนองในเทียม ผู้ชาย
• ปัสสาวะแสบขัด บริเวณปลายท่อบวมแดง คันบริเวณปลายท่อปัสสาวะ
• มีอาการอักเสบบริเวณหนังหุ้มปลาย
• มีหนองไหล และระคายเคืองที่ท่อปัสสาวะมาก
• ปวดบวมลูกอัณฑะ ปวดหน่วงอวัยวะเพศ
• คออักเสบเรื้อรัง มีหนองในคอ
• มีสารคัดหลั่งออกจากทวารหนัก
• รู้สึกเจ็บเวลาถ่ายอุจจาระ
• ตาอักเสบ ข้ออักเสบ
• คลำพบก้อนต่อมน้ำเหลืองโตตามร่างกาย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีอาการเหล่านี้ แต่ถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยงควรที่จะเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคหนองในเป็นประจำ เนื่องจากพบว่า เพศหญิงติดเชื้อหนองใน 50% และเพศชายที่ติดเชื้อหนองใน 10% ไม่แสดงอาการ ทำให้ชะล่าใจ จึงไม่ได้รับการตรวจและรักษา เชื้อจึงอาจฝังอยู่ในร่างกาย จนเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคหนองในตามมาได้
ADD LINE @PrecisionSTD เพื่อเข้ารับการตรวจหนองในกับแพทย์
อาการหนองในหายเองได้ไหม กี่วันหาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้ https://www.precisionlife.store/blog/get-to-know-gonorrhea-symptoms-and-treatment
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
