8 พ.ย. เวลา 09:22 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ทิศทางทองคำวันนี้ 8 พ.ย.67 พูดคุยกับ คุณวิโรสินี สดากร ชายน์นิ่งโกลด์

เกาะติดทิศทางราคาทองคำวันนี้ 8 พ.ย.67
พูดคุยกับ คุณวิโรสินี สดากร AISA ผจก.ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน
สถานการณ์ราคาทองคำไม่สู้ดี หลัง“ทรัมป์”คว้าชัย- จุดยืน FED เริ่มแกว่ง ลุ้นอย่าหลุด $2,550 เพื่อรอการดีดกลับ
ดำเนินรายการโดย อนุสรณ์ แก้วประจันทร์ บรรณาธิการข่าว GoldAround.com
คุณวิโรสินี สดากร ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บจ.ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน กล่าวกับ goldaround
ถึงทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ และ ธนาคารกลางสหรัฐได้ปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุม FOMC เดือนพ.ย.
คุณวิโรสินี ระบุว่า นอกเหนือจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” จะประกาศคว้าชัยชนะไปแล้ว สิ่งที่ต้องรอดูหลังจากนี้ก็คือคะแนนเสียงในสภา ซึ่งขณะนี้ฝั่งพรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงในสภาสูงได้แล้ว เหลือเพียงสภาล่างรอดูว่าจะครองได้เบ็ดเสร็จหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นได้การดำเนินนโยบายต่าง ๆ จะทำได้สะดวก ซึ่งจะเป็นสิ่งที่กดดันราคาทองคำ
นอกจากนั้นยังต้องจับตานโยบายเรื่องของสงครามในภูมิภาคต่าง ๆ โดยในส่วนของรัสเซียและยูเครนคาดว่าน่าจะจบลงได้เร็ว ขึ้นอยู่กับว่าวิธีการจะจบจะเป็นอย่างไร เพราะสหรัฐคงไม่ยอมให้รัสเซียได้รับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จ
ขณะที่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะจบยากกว่า เพราะกลุ่มเครือข่ายที่อิหร่านให้การสนับสนุนมีเป็นจำนวนมาก อาจจะทำให้การแก้ปัญหาทำได้ยากกมากว่า
ขณะที่เรื่องของเศรษฐกิจแน่นอนว่าเรื่องของกำแพงภาษีจะถูกกนำกลับมาใช้ เพื่อหนุนนโยบายการสร้างอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
แต่ทั้งนี้ต้องดูว่าความพยายามที่จะดึงการผลิตกลับมายังสหรัฐจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะอาจจะทำให้เงินเฟ้อกลับมาพุ่งขึ้น เรื่องนี้จะส่งผลต่อการดำเนินงานของเฟด เกี่ยวกับเรื่องนโยบายดอกเบี้ยในอนาคต เพราะหากว่าเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นการลดดอกเบี้ยจะทำอย่างไร ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจจะมากดดันราคาทองคำได้
“ทั้งนี้ยังมองว่าผลพวกจากนโยบายต่างๆ ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะทำให้ดอลลาร์แข็งค่า ตัวเลขการจ้างงานน่าจะดีขึ้น และความร้อนแรงของความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ลดลง น่าจะเป็นแรงกดดันราคาทองคำให้ปรับลดลงได้ โดยมองว่ามีโอกาสที่ราคาจะลดลงมาแตะระดับ 2,600-2,550 ดอลลาร์ ซึ่งแนวรับแถว 2,550 ดอลลาร์ไม่ควรหลุดลงไป เพราะอาจจะลงไปถึง 2,500 ดอลลาร์ได้
ส่วนแนวต้านด้านบนต้องมาลุ้นว่าปีนี้จะสามารถขึ้นไปทดสอบ 2,790 ดอลลาร์ หรือทะลุขึ้นไปแตะ 2,800 ดอลลาร์ได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอดูท่าทีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในช่วงหลังจากนี้ แต่มองว่าระยะกลางและยาวราคาทองคำยังมีแนวโน้มการปรับขึ้นได้อีก “ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัท ชายน์นิ่งโกลด์ บูลเลี่ยน จำกัด กล่าว
ส่วนเรื่องผลการประชุม FOMC เดือนพ.ย. เมื่อคืนนี้ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps. สู่ระดับ 4.5%-4.75% และปธ.เฟดกล่าวว่า การเป็นประธานาธิบดีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ไม่สามารถกดดันให้เขาลาออกจากตำแหน่งได้ แต่ก็ไม่ได้ระบุถึงความมั่นใจที่มากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวไปสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนอีกต่อไป พร้อมเชื่อว่าการทำงานของเฟดหลังจากนี้จะไม่เรียบง่าย
นอกจากนโยบายที่ต้องคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อแล้ว ความมั่นคงทางตลาดแรงงานก็ถือเป็นคีย์สำคัญที่จะชี้ว่าเส้นทางการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างต่อจากนี้
อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ราคาทองคำ gold spot ทำ Technical Rebound รับข่าวความยืนหยัดของเฟดสำหรับการเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อ แต่ก็ยังไม่สามารถซ่อมเทรนด์ให้ภาพเสียรายสัปดาห์กลับมาดูดีได้ จนกว่าราคาจะปิดเหนือ 2,738 ดอลลาร์ หรือหากจะลุ้นการพยายามซ่อมเทรนด์ต่อในสัปดาห์หน้า ก็อย่างน้อยควรปิดเหนือ 2,724 ดอลลาร์ให้ได้
กลยุทธ์การลงทุนเฉพาะราคาทองคำ Gold Spot และเหมาะสมหรับคนที่รับความเสี่ยงได้สูงและเคร่งครัด Stoploss ได้เท่านั้น โดยรอราคารีบาวน์ให้ Open Short ที่ 2,709 หรือ 2,719-2,723 ดอลลาร์ จุดใดจุดหนึ่ง เผื่อถัวเฉลี่ย 2,738 ดอลลาร์ ส่วนจุด SL อยู่ที่ 2,748 ดอลลาร์ โดยมีแนวรับที่ 2,700/2,685 และ 2,665 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำไทยได้ทำ Technical Rebound กลับมาทดสอบแนวต้านที่เคยเป็นแนวหลุดก่อนหน้าแถว 43,600-650 บาท ซึ่งบริเวณนี้หากยืนได้จะไปลุ้นกันอีกครั้งที่ 43,750 และ 43,950 บาท แต่หากไม่สามารถยืนแนวดังกล่าวได้ ราคายังมีโอกาสพักฐานลงมาใหม่
นักลงทุนระยะกลาง ที่แบ่งเข้าซื้อสะสมก่อนหน้านี้ ตามจุดสำคัญ 43,300-43,200 บาท สามารถนำออกมาแบ่ง Take Profit เพื่อรอการย่อตัวกลับเข้ามาสะสมเพิ่มเข้าไปใหม่ โดยให้แนวต้านที่ 43,650-43,750 และ43,950 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 43,300/43,000 และ 42,600 บาท
โฆษณา