Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Dremzo
•
ติดตาม
8 พ.ย. เวลา 12:00 • ความงาม
Trends : Color & Packaging Design in beauty market 2025
ปัจจุบันแนวโน้มของสีและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในตลาดความงามกำลังปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการในด้านความยั่งยืน ความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม หรือการสะท้อนตัวตนผ่านความเรียบง่าย
.
วันนี้ Dremzo จะพาคุณไปสำรวจว่า สีและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในตลาดความงามในปี 2025 จะมีทิศทางอย่างไรบ้าง
1.Minimalist & Luxe
เน้นความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความหรูหรา จะใช้เป็นสีโทนอ่อน เช่น ชมพูอ่อน, ม่วงลาเวนเดอร์, เขียวมินต์, และฟ้าอ่อน ซึ่งสร้างความรู้สึกสงบ,ความบริสุทธิ์ และความเป็นผู้หญิง
.
หรือจะเป็นโทนสีนู้ด เช่น สีเบจและชมพูอ่อน รวมกับการตกแต่งโลหะเล็กน้อย จช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราและสะอาดตา นอกจากนี้ยังมีการใช้บรรจุภัณฑ์โปร่งใสหรือกึ่งโปร่งใส เพื่อแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของส่วนผสม ซึ่งสอดคล้องกับการให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย
ตัวอย่างแบรนด์
Rhode : ใช้โทนสีที่เป็นกลางและอบอุ่น เช่น สีขาว สีเบจ สีเทาอ่อน และโทนสีครีม ซึ่งให้ความรู้สึกสงบ เรียบง่าย และหรูหราในเวลาเดียวกัน สีเหล่านี้ยังสะท้อนถึงธรรมชาติและความสะอาด แบรนด์นี้ออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยใช้ฟอนต์ที่สะอาด อ่านง่าย และไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อน
.
Glossier : เป็นที่รู้จักในเรื่องการใช้สีโทนอ่อน ฟอนต์ที่เรียบง่าย และรูปทรงที่ทันสมัย เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่ชอบความหรูหราแบบเรียบง่าย
.
Malin + Goetz : ที่มุ่งมั่นในดีไซน์ที่เน้นการใช้งานจริงและการขจัดวัสดุที่ไม่จำเป็นออกไป รูปแบบนี้เน้นประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์มากกว่าการตกแต่งที่เกินความจำเป็น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่อยากได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากผลิตภัณฑ์ แนวโน้มความงามแบบเรียบง่ายและสะอาดคือบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ซับซ้อนและเน้นความสามารถในการใช้งาน
2.Metallics Interactive and Multi-Sensory
โทนสี Metallic อย่างเช่น สีทอง,โรสโกลด์ และสีเงิน ยังคงเป็นที่นิยมสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความหรูหราและสง่างาม การใช้สีเมทัลลิกในบรรจุภัณฑ์ผสานกับดีไซน์แบบมินิมัลลิสต์ทำให้สินค้าดูโดดเด่น บรรจุภัณฑ์ที่เน้นการสร้างประสบการณ์สัมผัส เช่น การปั๊มนูนหรือพื้นผิวที่นุ่ม ก็มีความนิยมมากขึ้น นอกจากนี้ เอฟเฟกต์โฮโลกราฟิก หรือการสะท้อนแสงบางส่วนก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้า และทำให้เป็นที่ดึงดูดใจบนสื่อสังคมออนไลน์
ข้อดีของ Multi-Sensory Packaging คือช่วยให้แบรนด์โดดเด่นบนชั้นวาง และมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจทุกครั้ง ที่ผู้บริโภคสัมผัสหรือใช้งาน ทำให้สินค้า
ถูกพูดถึงและจดจำได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างแบรนด์
Dear Lrean : เเบรนด์ที่เเฝงความมินิมอลเเต่เน้นสร้างประสบการณ์ที่หรูหราผ่านเเพคเกจจิ้งที่ดีไซน์ด้วยเมทัลลิคสีทองปั้มเฉพาะจุด
.
Hermès Beauty : เป็นที่รู้จักจากดีไซน์ที่หรูหราและใส่ใจในรายละเอียด Hermès Beauty อาจจะใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีการปั๊มนูนโลโก้ หรือพื้นผิวผิวโลหะมันเงาเพื่อสร้างความหรูหรา และอาจมีการออกแบบที่ให้ความรู้สึกสะดุดตาเมื่อสัมผัส
.
Pat McGrath Labs : โดดเด่นด้วยบรรจุภัณฑ์ที่มีพื้นผิวแบบแมทท์และเอฟเฟกต์แสงจากการพิมพ์ปั้มนูนเเละปั้มจมต่างกันเเละโดดเด่นด้วยสีสันสะดุดตา เป็นที่รู้จักจากการใช้พื้นผิวที่หลากหลายในการออกแบบ
3.Sustainability and Earth Tones
Earth Tones (เอิร์ธโทน) หรือสีที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติ เช่น สีเบจ สีน้ำตาลอ่อน สีเขียวใบไม้ และสีฟ้าอ่อน ยังคงเป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะสีเหล่านี้สร้างความรู้สึกอ่อนโยน เรียบง่าย และสงบ ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การใช้ชีวิตที่ผู้คนต้องการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือเครื่องสำอางต่างๆ โทนสีเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูอบอุ่นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แต่ถ้าหากว่าคุณรู้สึกอยากใช้สีทีดูสดใสเพื่อเป็นจุดเด่น และยังคงสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ สีที่แนะนำก็คือ น้ำเงินไฟฟ้า สีคอรัล และสีเหลืองสดใส สีเหล่านี้จะเพิ่มความสดชื่นและดึงดูดสายตา โดยไม่ทำลายความเรียบง่ายของบรรจุภัณฑ์
ไม่ใช่แค่สีเท่านั้น วัสดุที่ใช้ก็ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เน้นความยั่งยืน โดยมักจะเลือกใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลและย่อยสลายได้ เช่น กระดาษ,แก้ว,พลาสติกที่ย่อยสลายได้ นอกจากนี้บางแบรนด์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถเติมหรือนำบรรจุภัณฑ์นั้นกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อลดปริมาณขยะ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและน้ำหอมระดับไฮเอนด์
ตัวอย่างแบรนด์
Aesop : ใช้ขวดสีน้ำตาลเพื่อสะท้อนถึงการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ผสานกับสีสดใสเล็กน้อยเพื่อสร้างความดึงดูด
.
Tatcha : ทีเลือกโทนสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เช่น สีเขียว น้ำตาล และสีฟ้าน้ำทะเล ช่วยสื่อถึงความหรูหราและความเป็นธรรมชาติ
.
RMS Beauty เลือกใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายและรีไซเคิลได้ เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
อีกหนึ่งอย่างที่อยากพูดถึงก็คือ แนวคิดการสร้างเเรงจูงใจทางการตลาด การกระตุ้นให้ลูกค้าหันมารีไซเคิลบรรจุภัณฑ์เป็นที่นิยมมากขึ้น เช่น แบรนด์ Charlotte Tilbury ที่จะมอบส่วนลด 20% ให้ลูกค้าที่ส่งบรรจุภัณฑ์เก่ากลับมาเพื่อรีไซเคิล สิ่งนี้สร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้าและเสริมความยั่งยืนให้กับแบรนด์ ในอนาคตเราอาจจะเห็นแบรนด์อื่นๆ เพิ่มระบบการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการใช้งานซ้ำของบรรจุภัณฑ์
การปรับแต่งและบรรจุภัณฑ์แบบโมดูลาร์
บรรจุภัณฑ์แบบ “ โมดูลาร์ ” และการปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะบุคคล เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรง ผู้บริโภคสามารถปรับแต่งสีของบรรจุภัณฑ์หรือสลักชื่อบนผลิตภัณฑ์ได้เอง ทำให้สินค้าดูเป็นส่วนตัวและมีความพิเศษเฉพาะตัวมากขึ้น นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์แบบโมดูลาร์ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำมารวมกัน เช่น กระปุกสกินแคร์ขนาดเล็ก หรือลิปสติกหลากสี เพื่อให้เกิดประสบการณ์ใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์และน่าจดจำ
ตัวอย่างแบรนด์
Function of Beauty : เสนอการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าสามารถเลือกสีและชื่อส่วนตัวบนฉลากได้
.
Bite Beauty : ช่วยให้ผู้บริโภคปรับแต่งสีและดีไซน์ลิปสติกเองได้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ตรงกับความชอบและสะท้อนตัวตน
การใช้เทคโนโลยีในบรรจุภัณฑ์ (Smart Packaging)
บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะที่ผสานเทคโนโลยี เช่น QR codes และ AR (Augmented Reality) กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง QR code สามารถพาผู้บริโภคไปยังข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม เช่น แหล่งที่มาของส่วนผสม การใช้งาน และการติดตามความยั่งยืน ในขณะที่ AR สามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจ เช่น การลองใช้ผลิตภัณฑ์แบบดิจิทัล หรือคำแนะนำในการใช้ผ่านแอปพลิเคชัน
จะเห็นได้ว่าข้อดีของ Smart Packaging คือการเพิ่มโอกาสในการเชื่อมต่อกับลูกค้าและสร้างประสบการณ์ที่ทันสมัย ทำให้แบรนด์ดูโดดเด่นและเพิ่มความน่าสนใจ
ตัวอย่างแบรนด์
L’Oréal : ใช้ QR codes และ AR เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ นำเสนอข้อมูลด้านความยั่งยืนและการใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างละเอียด
.
Estée Lauder : พัฒนา AR ที่ช่วยให้ลูกค้าลองใช้ผลิตภัณฑ์และรับคำแนะนำจากที่บ้าน สร้างประสบการณ์ที่เป็นมิตรและสะดวกสบาย
สรุป
เทรนด์การออกแบบสีและบรรจุภัณฑ์ในตลาดความงามปี 2025 เน้นไปที่ความยั่งยืน การสร้างประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้ และการผสานเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้า ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้แบรนด์ความงามไม่เพียงแต่ดึงดูดสายตา แต่ยังสร้างความประทับใจและสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภค
.
ที่มา
https://www.mintel.com/insights/beauty-and-personal-care/global-beauty-packaging-trends/
https://www.mintel.com/insights/beauty-and-personal-care/beauty-trends/
หากคุณต้องการที่ปรึกษาสำหรับธุรกิจของคุณ เรายินดีให้คำปรึกษา
สอบถามได้ที่ Line OA :
https://lin.ee/ZTL15kH
สามารถพิมพ์ว่า "ปรึกษา" ได้เลยค่ะ
—----------------------------------
กดติดตามเพื่อให้ไม่พลาดข้อมูล
และสาระดีๆจาก Dremzo
FB : Dremzo
IG : dremzo.design
TT : dremzo.design
Blockdit : Dremzo
#branding #marketing #design #digitalmarketing #beautytrends #Dremzo
ธุรกิจ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย