8 พ.ย. 2024 เวลา 12:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ในด้าน Demand ความกังวลเรื่องความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทำให้หลายประเทศเริ่มต้องมองหาสินค้าทดแทนอย่างน้ำมันปาล์ม เอาไปผสมเป็น Biodiesel เตรียมไว้เผื่อสถานการณ์ความขัดแย้งลุกลาม จนกระทบ Production ของน้ำมันจริง ๆ
ในขณะที่ทางด้าน Supply ประเทศผู้ส่งออกใหญ่อย่างอินโดนีเซีย ที่พึ่งได้ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งมีนโยบายเอนไปทาง Protectionism หรือปกป้องตลาด ก็มีนโยบายว่าจะเพิ่มสัดส่วนการผสม Biodiesel ในน้ำมัน จากแต่เดิม 35% เป็น 40% ในมกราปีหน้า
แถมยังตั้งเป้าว่าจะเพิ่มไปเป็น 50% ให้ได้ด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อน้ำมันจากต่างชาติ เพราะฉะนั้นตลาดโลกก็เตรียมใจได้เลยว่า น้ำมันปาล์มน่าจะขาดตลาดขึ้นไปอีก
เห็นแบบนี้ความรู้เศรษฐศาสตร์สุทธิในหัวของผม ที่เหลืออยู่น้อยนิดหลังจากหักส่วนคืนอาจารย์ไป ก็กลั่นกรองออกมาได้เป็นภาพนี้
เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจที่ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันปาล์มโลก จะพุ่งเป็นบั้งไฟ จนขึ้นไป All Time High ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาที่ผ่านมา
ทีนี้กลับมาดูที่ UVAN กันบ้าง จะเห็นได้ว่าในทุก MD&A ตั้งแต่เปิดต้นปีมา จะมีคำว่าผลผลิตลดลงเสมอ นั่นก็เป็นเพราะว่าปีนี้ฤดูแล้งถือว่ารุนแรงเลยครับสำหรับภาคใต้ โดยก่อนอื่นเรามาดูปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในแต่ละปีของจังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกหลักของ UVAN กันก่อน
จะเห็นว่าปริมาณน้ำฝนจะ Peak ในช่วงเดือนตุลา และมีปริมาณน้ำฝนสะสมเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 1998.8 มม. แต่ทว่าเมื่อดูข้อมูลจริงของปีนี้จะเห็นได้ว่า
ปริมาณน้ำฝนสะสมถึงธันวานี้อยู่แค่ที่ 1,373.81 มม. เท่านั้น และนี่คือสิ้นสุดเดือนฝนพีคแล้วด้วย ทั้งที่ถ้าอิงจากค่าเฉลี่ยแล้ว ปริมาณน้ำฝนตอนนี้ควรจะอยู่ที่ 1,751.3 มม.
ถึงอย่างนั้นก็ได้แต่ลุ้นหนัก ๆ เลยว่า อีก 2 เดือนหลังจากนี้ ภาคใต้จะมีฝนตกเยอะ ๆ เพื่อให้ปาล์มออกดอกออกผลดี ๆ หน่อย ผลประกอบการ จะได้รับประโยชน์ทั้งจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นด้วย ไม่ใช่แค่ผลจากราคาอย่างเดียว
และหลังจากนี้ Share การส่งออกของฝั่งอินโดนีเซียอาจจะน้อยลง จากนโยบาย Biodiesel ของเขา ซึ่งประเทศไทยน่าจะสามารถกิน Share เพิ่มขึ้นได้ และอาจจะได้ส่งออกไปที่อินโดนีเซียเพิ่มเลยด้วย ถ้าตอนไหนผลผลิตของเขาตกต่ำ
เห็นผลประกอบการดีแบบนี้ ก็ขอปันผลรอบหน้าจุก ๆ เลยแล้วกันนะ ผมจะได้เอาไปฝากทางผู้บริหารทำสวนปาล์มให้ผมต่ออีกทีเหมือนเดิม 555
โฆษณา