Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนแมน
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
9 พ.ย. เวลา 04:00 • ธุรกิจ
Canon ขายเครื่องผลิตชิป อัตรากำไรดีกว่า กล้องและเลนส์ถ่ายรูป
รู้ไหมว่า กล้องถ่ายรูปกับเลนส์ ที่มีราคาแพงหลักแสนบาท
ไม่ได้เป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรดำเนินงานดีที่สุดของ Canon และก็ไม่ใช่สินค้ากลุ่มเครื่องพรินต์และอุปกรณ์การแพทย์ ที่มีราคาสูงด้วย
แต่มันคือ ธุรกิจกลุ่มเครื่องผลิตชิปและอุปกรณ์ผลิตชิป ที่อยู่ในเมกะเทรนด์ของโลก โดยมีอัตรากำไรดำเนินงานสูงถึง 19%
แล้ว Canon ไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผลิตชิปได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
2
จุดเริ่มต้นของ Canon ต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 1933 หรือราว 91 ปีที่แล้ว ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โดยผู้ก่อตั้ง 4 คนอย่างคุณ Takeshi Mitarai, คุณ Goro Yoshida, คุณ Saburo Uchida และคุณ Takeo Maeda ที่เบื่อกับการเป็นลูกจ้างคนอื่น เลยออกมาทำธุรกิจของตัวเอง
ในตอนแรกเป็นเพียงบริษัทวิจัยกล้องถ่ายรูปคุณภาพสูง ก่อนจะออกสินค้าของบริษัทตัวแรกในปีถัดมา นั่นคือ กล้องถ่ายรูป Kwanon ขนาด 35 มม.
ซึ่งมีไอเดียต้นแบบมาจากกล้องเยอรมัน Leica ที่คุณ Goro Yoshida หนึ่งในผู้ก่อตั้งเคยทำงานที่นั่นมาก่อน
2
หลังจากนั้น Canon ก็ค่อย ๆ เรียนรู้การผลิตกล้องถ่ายรูปให้มีคุณภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด ก็เป็นผู้นำที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตกล้องและเลนส์
1
ด้วยความเก่งในการผลิตกล้องและเลนส์นี้เอง ทำให้ Canon สามารถต่อยอดตัวเอง ไปขายสินค้าที่ต้องใช้กล้องและเลนส์คุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบ ได้ไม่ยาก
1
ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การแพทย์อย่างเครื่อง CT Scan
เครื่องเอกซเรย์ เครื่องอัลตราซาวนด์ ที่ต้องใช้เทคโนโลยีอย่างแสง เลนส์ และกล้องที่มีความคมชัดสูง
1
รวมทั้งธุรกิจเครื่องพรินต์ต่าง ๆ ตามออฟฟิศ ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ก็มาจากผู้ผลิตอย่าง Canon อีกด้วย
1
จนปัจจุบัน ทั้งธุรกิจกล้องและเลนส์ เครื่องพรินต์ และอุปกรณ์การแพทย์ กลายเป็นเครื่องจักรผลิตเงินให้กับ Canon กว่า 90% ของรายได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งสามธุรกิจจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทมากขนาดนี้ แต่ก็ไม่ใช่ธุรกิจที่มีอัตรากำไรดีที่สุด
หากไปดูอัตรากำไรดำเนินงานในแต่ละกลุ่มธุรกิจของ Canon ปีที่ผ่านมา จะพบว่า
1
- กลุ่มเครื่องพรินต์ 9.7%
- กลุ่มอุปกรณ์การแพทย์ 5.7%
- กลุ่มกล้องและเลนส์ 16.9%
- กลุ่มเครื่องผลิตชิปและอุปกรณ์ผลิตชิป 18.6%
2
เห็นได้ชัดเลยว่า จริง ๆ แล้ว ธุรกิจกลุ่มเครื่องผลิตชิปและอุปกรณ์ผลิตชิป ที่มีรายได้คิดเป็นไม่ถึง 10% ของรายได้ทั้งหมด กลับมีอัตรากำไรดำเนินงานสูงกว่าสามธุรกิจหลัก
1
แล้ว Canon ไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผลิตชิปตอนไหน ?
2
ต้องบอกว่า ด้วยความเก่งเรื่องเลนส์ แสง และกล้อง
อยู่แล้ว เครื่องผลิตชิปที่ต้องใช้เลนส์เป็นส่วนประกอบหลัก
จึงไม่ใช่เรื่องที่ Canon ทำไม่ได้เลย
3
เพราะการทำงานของเครื่องผลิตชิป ต้องใช้ลำแสงยิงผ่านเลนส์ไปสร้างลวดลายบนแผ่นเวเฟอร์ จนกลายมาเป็นชิป
ที่ทำงานเบื้องหลังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้
1
ในช่วงปี 1970 Canon สามารถสร้างเครื่องผลิตชิปแบบ DUV โดยใช้ลำแสงความยาวคลื่น 193 นาโนเมตร
แข่งกับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Nikon และ ASML ได้
1
แต่หลังจากนั้น ASML ก็แซงหน้า Canon แบบไม่เห็นฝุ่น
ด้วยการสร้างเครื่องผลิตชิปชนิด EUV ทำให้ความยาวคลื่นแสงเหลือแค่ 13.5 นาโนเมตร
2
การที่คลื่นแสงสั้นลง แปลว่า ลำแสงจะมีความคมมากขึ้น
ทำให้สามารถวาดลวดลายบนชิปให้ซับซ้อนมากขึ้นได้
เหมือนเวลาที่เราอยากวาดภาพด้วยเส้นบาง ๆ ที่มีรายละเอียดเยอะ เราก็ต้องเหลาดินสอให้แหลมมากขึ้น
1
สุดท้าย ยิ่งเราวาดลวดลายบนชิปได้เยอะแค่ไหน ชิปนั้นก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเมื่อ ASML ทำได้ ก็กลายเป็นผู้ผูกขาดการขายเครื่องผลิตชิปไปในทันที
1
อย่างไรก็ตาม Canon ก็ยังสามารถขายเครื่องผลิตชิปแบบเดิมได้ต่อเนื่อง เพราะในบางอุตสาหกรรมไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องผลิตชิปที่วาดลวดลายซับซ้อนขนาดนั้น
1
นอกจากเครื่องผลิตชิป DUV แล้ว Canon ยังขายเครื่องผลิตชิปสำหรับจอแสดงผลบนสมาร์ตโฟนและทีวี ที่ต้องใช้ความละเอียดและแม่นยำสูงในการผลิตอีกด้วย
1
โดยผลประกอบการของ Canon ยังเติบโตต่อเนื่อง
ปี 2021
รายได้ 780,700 ล้านบาท
กำไร 47,700 ล้านบาท
ปี 2022
รายได้ 895,900 ล้านบาท
กำไร 54,200 ล้านบาท
ปี 2023
รายได้ 929,100 ล้านบาท
กำไร 58,800 ล้านบาท
1
ปัจจุบัน Canon มีมูลค่าบริษัทกว่า 1 ล้านล้านบาท
โดยราคาหุ้นนับจากต้นปี (YTD) ปรับตัวขึ้นมาแล้ว +35%
2
ที่น่าสนใจคือ ล่าสุด Canon ท้าชนกับ ASML อีกครั้ง
ด้วยการประกาศว่า จะสร้างเครื่องผลิตชิปแบบใหม่ที่ถูกลง
แต่ใช้งานได้ดีและถูกกว่าเครื่องจาก ASML
1
โดยใช้เทคโนโลยีปั๊มลายลงไปเลยบนแผ่นชิปที่วางไว้
ต่างจากเทคโนโลยีของ ASML ที่จะต้องยิงแสงผ่านแผ่นลวดลาย แล้วทำให้เกิดลายบนชิปอีกทอดหนึ่ง
2
ซึ่งทำให้ต้นทุนของเครื่องผลิตชิปชนิดใหม่ที่เรียกว่า Nanoimprint ของ Canon จะถูกกว่าเครื่องผลิตชิป
ของ ASML ถึง 10 เท่าเลยทีเดียว..
1
จากตอนนี้ที่ ASML ขายเครื่องผลิตชิปเครื่องละ 10,000
ล้านบาท Canon กลับบอกว่า จะขายเครื่องผลิตชิปคุณภาพใกล้เคียงกัน ด้วยราคา 1,000 ล้านบาท
3
ก็น่าติดตามกันต่อไปว่า สุดท้าย Canon จะกลับมาทวงบัลลังก์ผู้นำธุรกิจเครื่องผลิตชิปจาก ASML ได้หรือไม่
1
หรือจะกลับไปเพลี่ยงพล้ำรอบสองอีกเหมือนเดิม
แต่ที่เรารู้แน่ ๆ คือตอนนี้ Canon สามารถปรับตัว และเกาะขบวนเมกะเทรนด์อุตสาหกรรมชิปไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยการขายเครื่องผลิตชิปและอุปกรณ์ผลิตชิป
1
ก็ไม่แน่ว่าในอนาคตธุรกิจกลุ่มนี้ อาจกลายเป็นรายได้หลัก มีอัตรากำไรดำเนินงานสูง ที่จะเปลี่ยนภาพจำแบรนด์ของ Canon ไปตลอดกาลเลย ก็เป็นได้..
References
-
https://global.canon/en/corporate/history/01.html
-
https://global.canon/en/ir/library/annual.html
ธุรกิจ
45 บันทึก
88
1
50
45
88
1
50
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย