8 พ.ย. เวลา 15:20 • ความคิดเห็น
จำเป็นไหมที่เราต้องเป็นอริยบุคคล เราอยู่ไปเรื่อยๆแบบนี้ไม่ได้เหรอ แค่เป็นคนดีแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว แบบนี้ได้ไหม
เอาล่ะผมจะตอบให้นะครับ เคยได้ยินพระสูตรเกี่ยวกับเศษดินที่ปลายเล็บไหมครับ นั่นแหละครับ ลำพังแค่การเป็นคนดีและอยู่ไปเรื่อยๆแบบนี้ มันดีแค่ไม่เกินร้อยปีเท่านั้น ไม่ได้การันตีในการไม่ไปอบายภูมินะครับ
1
สัทธานุสารี เคยได้ยินคำนี้ไหมครับ ผู้ที่เป็นสัทธานุสารี คือผู้ที่แล่นไปตามศรัทธา ผู้ที่ฝักใฝ่ในคำสอนในการละสังโยชน์ ไม่ประกอบด้วยมิจฉาทิฏฐิความเห็นผิด ในสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ข้อเท่านั้น และพยายามอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จะขึ้นชื่อว่าเป็นสัทธานุสารี บุคคลประเภทนี้จะเป็นผู้แคล้วคลาด เขาจะยังตายไม่ได้ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามจนกว่าจะเป็นโสดาบัน
1
ทำไมเราต้องเป็นอริยบุคคล
1
เพราะถ้าหากเราไม่เป็นอริยบุคคล เราก็จะต้องมีแดนเกิดมีภพภูมิ มีตัณหาเป็นเครื่องผูก เพื่อสร้างภาชนะใหม่เรื่อยๆ และคติที่เราจะได้ไปเกิด นั่นก็คือคติข้างล่าง สัตว์นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน ภพภูมิเหล่านี้สัตตานังจะไปเกิดมากที่สุด และนานๆครั้งเราจะได้อัตภาพความเป็นมนุษย์สักครั้งหนึ่ง เพราะว่า จิตของเราจะรู้ถึงกุศลได้ยากมาก ถ้าหากเราอยู่ในอัตภาพของอบายภูมิข้างล่าง จำไว้นะครับ
1
นี่คือการจองจำ ที่เจ็บปวดทรมานที่สุด พระพุทธองค์กล่าวว่าไม่มีการจองจำใดที่เจ็บแสบทรมานมากกว่าการเวียนว่ายในวัฏสงสาร และต้องเกิดในอบายภูมิซ้ำๆ อันมีนรก เป็นต้น
2
เป็นกษัตริย์ ก็ยังไม่ประเสริฐเท่าการเป็นอริยบุคคลนะครับ ดังนั้นก่อนที่เราจะเป็นอริยบุคคลได้ เราจะต้องเป็นสัทธานุสารีก่อน คือผู้ที่แล่นไปตามศรัทธา จะการันตีความแคล้วคลาด จงเห็นทุกสิ่งไม่เที่ยง จดจำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องพลัดพรากต้องเสื่อม ทุกคนต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักของรัก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
2
โฆษณา