9 พ.ย. เวลา 00:40 • ข่าว
เรื่องสมณศักดิ์ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ยศอย่าต้องมาเกี่ยวข้องกับเราเลย เราอย่าต้องไปเกี่ยวข้องกับยศเลย เพราะฉะนั้นพระองค์ตรัสห้ามไว้เลยนะ แล้วพระองค์ก็บอกในเรื่องของพวกนี้ว่า ลาภสักการะและเสียงเยินยอเป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ดหยาบคายต่อการบรรลุพระนิพพานอันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่านั้น
1
เพราะฉะนั้นถ้าพระติดลาภยศสรรเสริญ ไม่มีทางถึงนิพพาน เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ดที่สุด สมณเพศเราหลีกออกจากพวกนี้มาแล้ว อย่าไปสนใจพวกนั้น ส่วนพระที่ปฏิบัติดีก็เป็นธรรมดาที่ญาติโยมจะนำสิ่งนั้นสิ่งนี้ของดีๆมาถวายหรืออะไรก็ตามเนี่ย พระพุทธเจ้าตรัสว่าลาภสักการะและเสียงยินยอมอันเกิดขึ้นแล้ว จะต้องไม่มาห่อหุ้มอยู่ที่จิตของเธอนั้น ถ้าพระได้รับสักการะมาแล้ว อย่าให้สิ่งเหล่านั้นมาห่อหุ้มอยู่ที่จิตเรา ใช้สิ่งๆนั้นได้ ใช้ของดีได้ แต่อย่าเอาจิตไปผูกกับมัน
2
พระองค์ทรงเตือนเอาไว้ อยู่ในพุทธวจน ว่าสิ่งเหล่านี้คืออสรพิษ
3
ส่วนเรื่องเงิน พระพุทธเจ้าห้ามไว้ในหลายพระสูตรเลยครับ ว่าภิกษุที่รับเงินเป็นการผิดวินัย เป็นอาบัติ แต่ว่าส่วนมากแล้วภิกษุทั่วประเทศก็จะรับแล้วก็เก็บไว้ แล้วก็ใช้เองโดยที่บอกว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป จำเป็นที่จะต้องเดินทาง เก็บไว้ใช้ค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ ค่ารักษาพยาบาล แล้วก็อ้างว่าไม่เป็นไร ถ้าอาบัติก็เดี๋ยวไปปลงอาบัติได้ แล้วก็ทำอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สวนทางกับคำสอนของพระพุทธเจ้า พระภิกษุไม่ควรรับเงินและใช้เงินเอง และความจริงแล้วพระภิกษุควรใช้เงินผ่าน "ไวยาวัจกร" ครับ
2
พระภิกษุคือผู้ขอ คือบรรพชิตผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร สิ่งที่พระภิกษุจะใช้มีอะไรบ้าง มีดโกนหนวด กรรไกรตัดเล็บ จีวร อุปกรณ์บิณฑบาตในการดำรงชีพ สิ่งเหล่านี้ใช้เงินไม่มาก โดยเฉพาะมีดโกนกับกรรไกรตัดเล็บ พระภิกษุสามารถร้องขอกับ "ไวยาวัจกร" ได้ครับ
2
"ไวยาวัจกร" คือ โยมอุปัฎฐาก ครับ
คือผู้ที่ปวารณา อุปฐากพระภิกษุ
หรือยุคสมัยนี้เราจะเรียกว่า กรรมการวัด หรืออะไรก็แล้วแต่ ส่วนคำถามที่ว่าไม่กลัวกรรมการจะโกงเงินวัดเหรอ ก็เป็นเรื่องของเขาครับ ถ้าเขาโกงเขาก็ได้รับกรรม จิตเพ่งเล็งอุปกรณ์แห่งทรัพย์ของวัด ก็ไม่พ้นนะบายภูมิอันมีเปรตเป็นต้น ฉะนั้นพระมิควรยุ่งเกี่ยวกับเงินทองซึ่งเปรียบเป็นอสรพิษครับ
2
สิ่งต่างๆที่พระจะใช้เงินมีน้อยมาก แต่สมัยนี้เพิ่มมาอีก 1 ข้อก็คือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอันนี้เป็นดาบสองคม ไม่ได้อยู่ในพระวินัย พระสามารถใช้ได้ แต่ก็ต้องผ่าน"ไวยาวัจกร" อยู่ดีครับ ซึ่งพระภิกษุสามารถร้องขอกับโยมอุปัฏฐากที่รับผิดชอบหน้าที่ตรงนี้ ให้พอดี ไม่ใช่ร้องขอ iPhone iPad เครื่องละ 50,000-60,000 บาท แบบนี้ก็เกินไปครับ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องอยู่ที่จิตสำนึกการระลึกรู้ถึงสมณะสารูป ควรหรือไม่ควร
2
และโยมอุปัฏฐากต้องมีความรู้อ่านพระไตรปิฎกและพุทธวจนเยอะๆ ไม่งั้นเราจะเห็นความไม่งามในพระภิกษุอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันที่มันเกลื่อนบ้านเมืองไปหมด พระบางรูปขับรถเองก็มี ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ควร
2
ทั้งหมดที่ผมพิมพ์เป็นความจริง เป็นบทความที่สังเคราะห์มาจาก พุทธวจน ตามพระไตรปิฎก
1
สรุปทั้งหมด
พระควรงดเว้นจากยศฐาบรรดาศักดิ์
พระไม่ควรรับเงินเอง ใช้เงินเอง
2
พระที่มียศตำแหน่งร่ำรวยและใช้เงินนั่นไม่ใช่พระนะครับ เป็นแค่คนห่มผ้าเหลือง (เหลือบเหลือง) เป็นเนื้องอกในพุทธศาสนา ที่เกาะกิน เท่านั้นครับ
1
ส่วนอริยบุคคลตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปก็ดูง่ายครับ ท่านจะตัดสังโยชน์ 3 ข้อแรกได้อย่างสมบูรณ์ นั่นก็คือท่านจะไม่ประกอบพิธีที่นอกเหนือศาสนาพุทธ "สีลัพพตปรามาส" ถ้าพระรูปใดประกอบพิธีนู่นนั่นนี่อยู่ นั่นยังไม่ใช่เป็นอริยบุคคล แต่ยังเป็นสมมติสงฆ์เท่านั้น ยังเป็นนั่นเป็นนี่ ตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการก่อสร้าง ทอดผ้าป่ากฐิน วุ่นวายอยู่กับการจัดการกิจกรรมนู่นนั่นนี่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไม่เป็นอันปฏิบัติ ไม่ทำกิจของสงฆ์ ไม่ออกบิณฑบาต มีเงินในบัญชีเป็นล้าน
2
สิ่งเหล่านี้เขาไม่ใช่พระ ในศาสนาของพระพุทธเจ้า
1
โฆษณา