อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์จากเกาหลีใต้กลับถูกคู่แข่งสำคัญอย่าง SK Hynix แซงหน้าไปในด้านการพัฒนาชิปเจเนอเรชั่นใหม่ที่มีความสำคัญต่อการผลิตชิป AI ที่เป็นที่ต้องการของ Nvidia บริษัทชั้นนำในด้าน AI Silicon การสูญเสียครั้งนี้ทำให้กำไรของ Samsung ลดลง และมูลค่าตลาดของบริษัทหายไปประมาณ 126 พันล้านดอลลาร์ตามข้อมูลจาก S&P Capital IQ พร้อมกับการขอโทษจากผู้บริหารระดับสูงที่ออกมาชี้แจงถึงผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัท
ในทางตรงกันข้าม SK Hynix มองเห็นโอกาสนี้และได้เร่งพัฒนาชิป HBM อย่างจริงจัง จนได้รับการอนุมัติจาก Nvidia ให้ใช้ในสถาปัตยกรรมของบริษัท ซึ่งทำให้ SK Hynix สร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Nvidia ขึ้นมา โดย CEO ของ Nvidia ถึงกับร้องขอให้ SK Hynix เร่งการผลิตชิปรุ่นต่อไปเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ผลจากการที่ SK Hynix เข้ามารุกตลาดนี้ส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสล่าสุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
Brady Wang รองผู้อำนวยการจาก Counterpoint Research กล่าวว่า "ด้วยการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่งและพันธมิตรทางธุรกิจในอุตสาหกรรม SK Hynix จึงยังคงได้เปรียบทั้งในด้านนวัตกรรมและการเจาะตลาด HBM"