9 พ.ย. เวลา 13:49 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค 5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์

.
บทที่ 6 Storyของพัน
.
คืนนั้นแสนสุริยาอาสาอยู่ยามผลัดแรก ผู้กองมานพยังไม่ง่วงจึงมานั่งเป็นเพื่อน ทั้ง2ตั้งข้อสันนิษฐานที่น่าจะเป็นไปได้ของเทือกเขาที่อยู่เบื้องหน้าว่า เหตุใดจึงเป็นสถานที่แห่งความสาบสูญของผู้ที่เดินทางเข้าไป
.
มีเสียงเหยียบกิ่งไม้เบาหวิวแต่ไม่อาจรอดจากหูของแสนสุริยาไปได้ ทันทีที่เขาขยับปืนในมือ พันก็โผล่มายิ้มทั้งยังแกล้งโวยวาย "จ๋านเองนาย"
.
ผู้กอง "แกออกมาทำไม พัน ไม่ให้สุ้มเสียง"
.
พัน "จ๋านปวดท้องน่ะ โปลิสผู้กอง" (Police-ตำรวจ)
.
"ทำไม แกรู้ตำแหน่งฉันได้ไง"
.
พัน "ก็จ๋านได้ยินผู้หนวดเรียก"
.
แสน "ผู้หมวด ไม่ใช่ผู้หนวด"
.
พัน "อ้อ ต่อไปจ๋านจะเรียกให้ถูก นายรู้ไหมอีนี้จ๋านเคยมาเป็นเด็กเสริฟร้านก๋วยเตี๋ยวที่เชียงใหม่เวลาสาวๆถามว่ามีน้ำอะไรกินมั่ง
พอจ๋านตอบว่า มีน้ำกระเ-ยว(กระเจี๊ยบ)ครับ เท่านั้นแหละสาวๆลุกหนีกันหมด จ๋านเลยตกงานตั้งแต่วันนั้น"
.
เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างครื้นเครง ผู้กองมานพพูดยิ้มๆ "ฉันก็ไม่กินน้ำนี้เหมือนกัน จะกินน้ำกระเจี๊ยบ แกไปหัดพูดไทยให้ชัดก่อนแล้วค่อยเป็นเด็กเสริฟก็แล้วกัน"
.
พันยิ้มและถือวิสาสะมานั่งร่วมวงเฉย ชายหนุ่มทั้ง2ต่างมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร หลังจากที่เงียบกันไปสักพักผู้กองมานพจึงพูดขึ้นว่า
"เส้นทางต่อไปจากนี้พันเคยผ่านไหม"
.
"อีนี้ จ๋านเพิ่งเป็นลูกหาบครั้งแรกน่ะ นายจ๋า"
.
"อะไรนะ" แสนสุริยาอุทาน "แกทำผิดเงื่อนไขของเราที่ต้องการผู้มีประสบการณ์เท่านั้น"
 
.
พันยิ้ม "อีนี้จ๋านจำเป็นน่ะ นายจ๋า"
.
ผู้กอง "ทำไมแกต้องโกหก"
.
"คนที่นายขอให้ช่วยหาลูกหาบเป็นญาติจ๋านเอง แต่หาไม่ได้เพราะไม่มีใครอยากยุ่งกับโปลิส จ๋านจึงมาเป็นลูกหาบขนของในนาทีสุดท้ายเพียงคนเดียวเหมือนที่นายผู้หมวดต้องขนญาติมาช่วย"
.
แสน "แล้วแกรู้ได้ไงว่าลูกหาบอีก4คนเป็นญาติฉัน"
.
พัน "จ๋านก็เป็นกะเหรี่ยงจ้ะ นาย เพียงแต่เป็นกะเหรี่ยงฝั่งพม่าจึงรู้ว่าแต่ละหมู่บ้านเป็นญาติกันหมด"
.
ผู้กอง "แล้วทางหมู่บ้านของพันพูดถึงยานที่ตกว่าอย่างไรบ้าง"
.
พัน "ไม่มีใครเห็นเลย นาย อีกอย่างหมู่บ้านของจ๋านไกลมาก จ๋านต้องเดินหลายวันกว่าที่จะไปด้วยกับนาย อย่าไล่จ๋านเลยนะจ๊ะ"
.
ผู้กอง "พวกเรามาไกลเกินกว่าที่จะส่งแกกลับ คงต้องเลยตามเลย"
.
พันยิ้มยกมือไหว้ผู้กองปะหลกๆ แต่พอหันไปเห็นแสนสุริยาเธอจึงรีบไหว้เขาด้วยก่อนขอตัวกลับ แต่ผู้กองขอให้อยู่ต่อเพราะสนใจลูกหาบคนนี้เป็นพิเศษ
.
ผู้กอง "แกมีคนรักหรือยัง"
.
พัน "อีนี้ทั้งสวยทั้งหล่ออย่างจ๋านไม่มีได้ไง นาย หล่อนเป็นสาวอินเดียสุดสวยไฉไล ตาคมเหมือนนายหมวด แต่จ๋านคงไม่มีปัญญาไปขอหรอก เลี้ยงตัวเองยังไม่รอด ไปเอาเขามาลำบากกับเราทำไม"
.
ชายหนุ่มทั้ง2หันมามองหน้ากันด้วยความกังขา เวลาที่พันเผลอตัวมันพูดและคิดราวกับเป็นคนไทย หรืออยู่เมืองไทยมาหลายปีแล้ว แต่ถ้าอยู่มาหลายปีแล้วทำไมยังพูดเพี้ยนๆ หรือพันแกล้ง
.
ดังนั้นการเดินทางในวันรุ่งขึ้นโดยมีแสนสุริยานำทาง ขณะที่พากันข้ามลำธารลัดเข้าด่านนี้ออกด่านโน้น
บรรดาลูกหาบยกเว้นพันต่างพากันร้องเพลงพื้นเมืองอย่างสบายใจ พันเดินแบกของที่หนักอึ้งตัวปลิวเหมือนสัมภาระบนหลังเบาเหมือนปุยนุ่น ช่วงพักกินอาหารตอนบ่ายแสนสุริยาเรียกตัวมาพบ ซึ่งพันเผชิญหน้ากับเขาอย่างงงๆ
.
"นายเรียกจ๋านมามีอะไรให้จ๋านรับใช้"
.
แสน "ฉันขอให้แกเลิกพูดเป็นอินตะระเดียสักทีได้ไหม"
.
พันหัวเราะ "ทำไมนายจึงคิดว่าจ๋านแกล้ง"
.
"เพราะฉันไปเรียนที่อินเดียมาตั้งแต่เด็ก แล้วทำไมฉันจะไม่รู้ว่าสำเนียงการพูดของอินเดียแท้กับอินเดียเทียมเป็นอย่างไร"
.
พันอุทานด้วยความตกใจ "ตายละวา ลืมเสียสนิท"
.
แสน "ที่แกพูดอย่างนี้หมายความว่า"
.
พันถอนใจ "ไหนๆความลับก็แตกแล้ว ผมก็คงต้องสารภาพความจริงว่า ผมเป็นคนที่ทางอเมริกาส่งมา"
.
ตอนนี้เองที่แสนสุริยาไปเชิญผู้กองมานพมาร่วมรับฟัง ซึ่งพันไม่มีท่าทีใดๆที่แสดงว่าตกใจ ผู้กองก็รู้สึกได้ถึงความคุ้นเคยเหมือนรู้จักมานาน แสนสุริยายิ่งไม่ต้องที่พูด เขาจ้องมองพันเป็นความรู้สึกลางๆ ที่นึกไม่ออกว่ามันคืออะไร
.
พันบอกว่าเธอเป็นคอมมานโด(commando) ซึ่งเป็นหน่วยรบของทหารตำรวจที่ได้รับการฝึกฝนด้านการต่อสู้เป็นพิเศษ เช่นฝึกการต่อสู้ประชิดตัว, การจู่โจม, หน่วยรบเฉพาะกิจ
.
ทั้งนี้เพราะการหายตัวไปของนักรบรับจ้างมือดี และ เป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆทั้ง6คน ซึ่งเดินทางไปยังจุดที่ยานต่างดาวตก
ทางสหรัฐอเมริกาจึงคาดว่าอาจมีอันตรายร้ายแรงบางอย่างชนิดที่ยอดฝีมือทั้ง6เอาไม่อยู่
.
ส่วนพันได้รับการฝึกเป็นพิเศษด้านการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใคร และ มีอุปกรณ์ไฮเทคที่โลกยังไม่รู้จัก นอกจากนั้นก่อนเดินทางมาร่วมทีมทางอเมริกาได้ให้ประวัติและการศึกษาทั้งของผู้กองและแสนสุริยาแก่พันโดยละเอียด
.
ผู้กอง "เรื่องที่คุณเล่าผมจะรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนเท็จ เพราะมันเนียนสมจริงทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเด็กเสริฟก๋วยเตี๋ยวแล้ว"
.
พัน "ผมกำลังปฏิบัติการลับ ทุกเรื่องจึงจริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่จริงแท้แน่นอนคือ ความจริงใจที่ผมมีต่อคุณทั้ง2ครับ"
.
แสน "ถามจริงๆเถอะ ตกลงคุณเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"
.
"ก็ต้องผู้ชายสิครับ งานอย่างนี้ผู้หญิงก็ทำได้แต่ไม่สดวก ถามทำไมครับ"
.
แสน "ถ้าเช่นนั้นคุณมาพักกับผมก็แล้วกัน"
.
"ตกลง" พันตอบง่ายๆทำให้คนชวนงง ผู้กองมานพอมยิ้มนึกสนุกที่การเดินทางคงมี
สีสันขึ้น ทั้งยังได้ข้อมูลที่ควรรู้ไม่ใช่เดินดุ่มไปวันๆไม่รู้เหนือใต้
แล้วพันก็รับหน้าที่นำทางโดยใช้ GPS(Global Positioning System) ซึ่งเป็นระบบการนำทางด้วยดาวเทียมผ่านมือถือเครื่องจิ๋ว
.
ทั้งผู้กองและแสนสุริยาตื่นเต้นกับวิทยาการสุดล้ำ ที่พันบอกว่ายังอยูในระหว่างการทดลองใช้ ทั้งที่ในความเป็นจริงพันต้องการใช้ติดต่อแอชมัท แน่นอนว่านายตำรวจทั้ง 2 ไม่สงสัย เนื่องจากตอนนั้นเทคโลโนยีนี้ยังไม่มี
.
การพักแรมในเย็นวันนั้นแสนสุริยาเลือกเนินเขาแห่งหนึ่งตั้งแค้มป์ โดยมีเขาสูงเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ต่ำลงไปมีลำธารสายยาวน้ำใสมีปลาซึ่งลูกหาบพากันจับมาปิ้งย่างกันสนุก
พันนั่งมองภาพเหล่านั้นเงียบๆ แสนสุริยาที่แอบเฝ้ามองพฤติกรรมมาตลอดอดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุใดหนุ่มน้อยคนนี้จึงมีเรี่ยวแรงมากเมื่อเทียบกับอาหารที่กินเข้าไป รวมทั้งในยามเผลอตัวจะมีลักษณะเหมือนหุ่นยนต์ที่เคยดูในหนัง
.
จบบทที่ 6 ภาพปกจาก แนะนำภาพยนตร์เรื่อง The Rift(รอยแยก) ของคุณหมื่นทิพ แห่ง Face Book
โฆษณา